- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 4 hours ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 1 day ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 2 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 3 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 4 days ago
- อย่าไปอินPosted 1 week ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 weeks ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 2 weeks ago
เอเอ็มอาร์ เอเซีย ร่วมใจผลิตหน้ากากป้องกันใบหน้า Face Shield พร้อมสนับสนุนส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด-19
นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด กล่าวว่าจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) บริษัทฯ ได้ออกนโยบายทำงานที่บ้าน (Work from home) อย่างเร่งด่วน เพื่อขานรับมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดในการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดความแออัดในสำนักงานและความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไรวัสโคโรนา-19 โดยยังคงความต่อเนื่องทางธุรกิจ ด้วยการนำเทคโนโลยี VPN (Virtual Private Network) มาใช้ ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงเครือข่ายองค์กรได้จากทุกที่และปลอดภัยสูงสุดผ่านอินเทอร์เนต และยังนำแพลตฟอร์ม Workplace มาใช้ในองค์กรเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับพนักงานทุกคน โดยให้ความสำคัญในการทำงานที่คล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่ให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของบริษัทฯ อย่างสะดวกและทันทีจากทุกอุปกรณ์สื่อสาร
นายมารุตกล่าวว่า ในขณะเดียวกันบุคลากรทางแพทย์ไม่สามารถจะปฏิบัติงานด้วยวิธีการ Work from home เหมือนเราได้ และเพื่อเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความปลอดภัยและป้องกันการได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าสู่ร่างกาย ผู้บริหารและพนักงานจึงได้ร่วมกันผลิตหน้ากากป้องกันใบหน้า (Face Shield) จำนวนทั้งหมด 3,397 ชิ้น เพื่อมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงอาสาสมัครและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 22 แห่ง (ภาคกลาง 8 แห่ง ภาคเหนือ 2 แห่ง ภาคใต้ 9 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง)
“แม้จะเป็นหน้ากากเพียงส่วนหนึ่ง แต่เราก็ร่วมกันทำขึ้นมาเพื่อส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สิ่งสำคัญในตอนนี้เราต้องช่วยกันปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ควรออกไปเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อจากนอกบ้าน ใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก็ขอให้กักตัวเอง และหมั่นเช็คสุขภาพและความผิดปกติของร่างกายเป็นประจำ ถ้าหากทุกคนมีความรับผิดชอบต่อตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว เชื่อว่าคณะทำงานทุกฝ่ายที่ทำงานกันอย่างเต็มกำลังจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ประเทศไทยเราจะต้องสามารถจัดการและควบคุมสถานการณ์ได้ สุดท้ายเราจะผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปพร้อมกัน”
You must be logged in to post a comment Login