- ปีดับคนดังPosted 15 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ม.มหิดล เปลี่ยนวิกฤต Covid-19 ให้เป็นโอกาส พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์
วิกฤต Covid-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการศึกษาในปัจจุบัน พบว่าระบบการศึกษาแบบออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ชัยเลิศ พิชิตพรชัย ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากวิกฤตCovid-19 สำหรับนักเรียนนักศึกษาถือเป็นโอกาสฝึกการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยผู้เรียนจะต้องมีความใฝ่รู้ และมีวินัยในตัวเองเป็นสำคัญ ซึ่งการขยันหมั่นเพียรสะสมความรู้ทีละเล็กทีละน้อย แต่สม่ำเสมอ จะทำให้การเรียนรู้ได้ผลดี
สำหรับอาจารย์ผู้สอนถือเป็นโอกาสของการฝึกทำบทเรียนออนไลน์ และ VDO Conference เพื่อการจัดการความรู้ (Knowledge Management) โดยบทบาทหน้าที่ของอาจารย์ผู้สอนจะต้องปรับเปลี่ยนจาก Teacher ไปเป็น Coach ที่คอยกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักการตั้งคำถาม โดยใช้ทั้งพุทธิวิสัย (Knowledge) ทักษะวิสัย (Skills) และจิตพิสัย (Attitude) ในการสอนมากกว่าจะเป็นเพียงผู้ที่ทำหน้าที่สอนแต่เพียงอย่างเดียว
เช่นเดียวกับที่ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ที่ได้มีการนำเอา social media มาใช้ในการแนะแนวการศึกษา และใช้ระบบการประชุมทางไกลในการนำเสนอผลงานของนักศึกษาปริญญาตรีในปีสุดท้ายก่อนการสำเร็จการศึกษา ซึ่งเป็นการตอบสนองเชิงรุกต่อ Physical Distancing ในช่วงวิกฤต Covid-19
อาจารย์ ดร.อำนาจ เจรีรัตน์ ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี ด้านวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่จะถึงนี้ จะเป็นครั้งแรกที่ทางวิทยาเขตฯ จะจัดกิจกรรม “แนะแนวทาง Admission 2 ..เลือกในสิ่งที่ชอบ เป็นในสิ่งที่ใช่” โดยถ่ายทอดผ่านทาง Facebook : Mahidol University Kanchanaburi Campus
“เราใช้ social media ในการที่จะปรับตัวให้เข้ากับการรับนักศึกษาเนื่องจากเราไม่สามารถเดินทางไปแนะแนวการศึกษาตามโรงเรียนต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในปีการศึกษา 2564 นอกจากหลักสูตรวิทยาศาสตร์การเกษตร เทคโนโลยีการอาหาร ธรณีศาสตร์ บัญชี บริหารธุรกิจ และยังมี 2 หลักสูตรที่เปิดเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (ชีววิทยาเชิงอนุรักษ์) ที่เรียนเกี่ยวกับสำรวจ วิเคราะห์ วางแผนการจัดการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชีวภาพเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประสานงานกับองค์กรวิชาชีพอื่นๆ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างบูรณาการ แก้ไขปัญหาภาวะวิกฤตของทรัพยากรธรรมชาติ บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์เป็นสำคัญ
“อีกหลักสูตรที่มีเป็นแห่งเดียว คือ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ) เนื่องจากปัจจุบันปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาเดียวของโลก แต่มีเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นด้วย ซึ่งภัยพิบัติบางอย่างเราไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถที่จะทำให้ภัยพิบัตินั้นบรรเทาลงจากหนักเป็นเบาได้ โดยทั้งสองหลักสูตรนั้น นอกจากการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่จริงด้วย” อาจารย์ ดร.อำนาจ เจรีรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 ทางวิทยาเขตฯ จะจัดให้มีการนำเสนอผลงานนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ระดับปริญญาตรี (Senior Project Exhibition 2020) แบบออนไลน์ผ่านระบบ Webex ซึ่งหัวข้อการนำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นการใช้โจทย์จากชุมชน หรือความต้องการของพื้นที่ และเป็นความต้องการในระดับประเทศด้วย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ซึ่งได้แก่พืชผักผลไม้ที่ไม่สามารถขายเป็นผลสด โดยนำมาแปรรูปเพื่อให้เกิดมูลค่า และส่งเสริมการตลาดขาย ซึ่งเป็นการบูรณาการจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ซึ่งการนำเสนอผลงานนักศึกษาแบบออนไลน์ นอกจากจะเป็นการเติมเต็มทักษะทางด้านวิชาการและวิชาชีพของนักศึกษาแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะทางด้าน Digital Literacy ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยเป็นการนำเสนอด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 15 โดยปีนี้เป็นการนำเสนอแบบออนไลน์ครั้งแรก
ติดตามรายละเอียดได้จาก www.ka.mahidol.ac.th
****สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210
You must be logged in to post a comment Login