- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 7 hours ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 1 day ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 2 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 3 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 6 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 1 week ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
ผถห.PSTCไฟเขียวจ่ายปันผลงวดปี62 อัตรา0.010 บ./หุ้น รับเงินสด 29พ.ค.นี้
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2020/02/PSTC-300x334.jpg)
ดร.พระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (PSTC) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ได้มีมติให้บริษัทฯจ่ายเงินปันผลงวดปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.010 บาท รวมเป็นเงิน 118,597,478.96 บาท จากกำไรสุทธิ และกำไรสะสม โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date)ในวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 1,185,974,789.60 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,185,974,790 บาท หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด(Private Placement) จำนวน 4 หุ้น ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 0.10 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท ทำให้เกิดเศษหุ้นที่เหลือ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามคุณสมบัติตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการย้ายจากหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทำให้ต้องเพิ่มทุน เพื่อไม่ให้เกิดเศษหุ้นภายหลังการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้น เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
“บริษัทฯมีความมั่นใจว่า ภายหลังจากการที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างทุนให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แล้ว คาดว่า จะสามารถยื่นขอย้ายหุ้นจากตลาดmaiไปเทรดในSETได้ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมของไทยจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID-19) ระบาดต่อเนื่อง แต่บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทเชื่อว่ายังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 5% เนื่องจากธุรกิจทุกกลุ่มมีสัญญาณที่ดี รวมทั้งมีงานในมือรอรับรู้รายได้(backlog)ในส่วนของธุรกิจ EPC ไว้แล้วกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง และรวมถึงมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของบริษัทและบริษัทย่อยทุกโครงการ ประกอบด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ และพลังงานชีวมวล ได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวงแล้ว เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวม 34.6 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังเตรียมงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยเน้นการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า Private PPA เพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยปัจจุบันบริษัทฯมีความพร้อมทั้งแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยี รวมทั้งยังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจด้านการจำหน่ายระบบก๊าซ LNG ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login