วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ให้ฉลาดต่อกายตน

On May 21, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 21 พ.ค. 63)

เมื่อเร็วๆนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับหนังสือข้อเสนอแนวทางการลงโทษผู้กระทำผิดทางเพศจาก นางสาวพัชรินทร์  ซำศิริพงษ์  นางสาวกานต์กนิษฐ์  แห้วสันตติ ส.ส.กรุงเทพมหานคร นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ  ส.ส. จังหวัดสุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญเร่งผลักดันแก้ปัญหาข่มขืนและ นายฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล ตัวแทนกลุ่มนักวิชาการด้านอาชญาวิทยา

นางสาวพัชรินทร์ กล่าวว่า จากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน โดยครูและบุคลากรทางการศึกษาปรากฏขึ้นตลอดมาในช่วงระยะเวลาหลายปี เด็กนักเรียนหญิงถูกกระทำด้วยพฤติการณ์ที่ร้ายแรง ทั้งข่มขืน และลวนลาม จนประชาชนเกิดความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ดังนั้นจึงเดินทางมาเพื่อเสนอแนวทาง

คือ คุ้มครองพยาน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์และจิตแพทย์ ไม่ให้ถูกล่วงละเมิด ด้วยการนำเสนอภาพ ข่าว หรือข้อมูลใด ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อเท็จจริงไปถึงตัวผู้เสียหาย อันจะทำให้เกิดความอับอาย เสียชื่อเสียง การคุ้มครองพยาน ควรนำมาใช้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากผู้เสียหายเป็นพยานบุคคลที่สำคัญในคดี การค้นหาความจริงในคดีที่มีผู้รู้เห็นเหตุการณ์เพียงตัวผู้เสียหายและผู้กระทำผิด จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและกระทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานในชั้นศาล

ด้านนางสาวกานต์กนิษฐ์ บอกว่า อยากให้มีการเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายให้ได้รับการชดเชย สนับสนุนเงินทุนในการศึกษาหรือประกอบอาชีพเพื่อสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และผู้เสียหายต้องสามารถเข้าถึงกองทุนยุติธรรมได้โดยง่าย เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปโดยเร็วจึงจะเป็นการเยียวยาอย่างแท้จริง

ขณะที่นายฐนันดร์ศักดิ์ ระบุว่า อยากให้มีระบบติดตามผู้ต้องขังคดีทางเพศหลังการปล่อย โดยการนำระบบลงทะเบียนผู้กระทำผิดคดีทางเพศมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้ได้ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐ อเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย เป็นต้น ตลอดจนอยากให้การลงโทษผู้กระทำผิดในลักษณะนี้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เช่น การฉีดยาทำให้อวัยวะเพศฝ่อ ไม่ตื่นตัว เพื่อลดความต้องการทางเพศ, การรับประทานยาและฮอร์โมนที่มีผลทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ, การมีโทษจำคุกและห้ามประกอบอาชีพ, จำคุกตลอดชีวิตไม่มีการลดโทษ เป็นต้น

อาตมาต้องเรียกว่า กรรมาธิการวิสามัญเร่งผลักดันแก้ปัญหาข่มขืนและตัวแทนกลุ่มนักวิชาการด้านอาชญาวิทยาคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาการข่มขืนและเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ให้มีบทลงโทษแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เช่น ให้ฉีดยาไปที่อวัยวะเพศเพื่อให้ฝ่อ ให้หดไปเลย ให้หายไปเลย เป็นเรื่องที่บางประเทศทำไปแล้ว ประเทศไทยเรายังปล่อยเรื่องนี้บ่อยเหลือเกิน แต่ช่วงนี้เรื่องครูข่มขืนเด็กนักเรียน พ่อข่มขืนลูก ข่มขืนคนแก่ คนเฒ่า มันมีบ่อย เรียกว่า ไปกระตุ้นอารมณ์ของกรรมาธิการชุดนี้

เลยอยากให้ฉีดยาซะเลย เรื่องของปัญหากับตัณหานี่ มันมีมานานแล้ว เพราะเป็นทาสตัณหา เพราะไม่รู้จักแก้ปัญหาของตัวเองให้มันมีความอยากลดลง หรือห้ามใจ พระพุทธเจ้าท่านแนะเรื่องนี้ไว้ว่า ผู้ชาย ถ้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุน้อยให้มองเหมือนลูก เรียกว่า เป็นลูก เป็นหลาน ถ้าเห็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ถือว่า เป็นญาติ เป็นเพื่อน ถ้ารุ่นมากอายุหน่อยก็ให้มองเหมือนแม่ พูดถึงเรื่องแม่ คนไทยสมัยก่อน เดี๋ยวนี้ก็ยังพอมีบ้าง เรียกสามีว่า พ่อ

ส่วนผู้ชายก็เรียกภรรยาว่า แม่ อันนี้ก็เพื่อว่า จะได้ไม่มีอะไรในลักษณะที่ทำให้แม่ต้องชอกช้ำ ถึงจะมีความร่วมเพศ เขาก็ร่วมเพศแบบชนิดที่ทะนุถนอมน้ำใจ ไม่ข่มขืนฝืนใจ เป็นการหักห้ามอารมณ์ใฝ่ต่ำในแบบของธรรมะ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยธรรมะ มันก็ได้ หรือจะแก้ด้วยกฎหมายก็ได้ อย่างไรก็ตามปัญหาการข่มขืนที่เกิดขึ้น มันเป็นลักษณะของสันดานใฝ่ต่ำ ไม่ได้คิดถึงเรื่องจารีต ประเพณี วัฒนธรรม ปล่อยไปตามอารมณ์ความอยาก ความต้องการ

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านแนะเรื่องนี้ไว้สำหรับพระบวชใหม่ให้คิดเห็นว่า ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง เขาเรียกว่า กรรมฐานในร่างกายไว้บ่อยๆว่า ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง พวกนี้มันไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าจะเร้าอารมณ์ให้อยากหน้ามืด ตามัว ตัณหาหน้ามืดอะไรต่างๆ มันก็จะได้ลดลง มองผม มองขน มองเล็บ มองฟัน มองหนัง มันเป็นอะไรที่ตั้งหน้าที่ การงาน สีสัน กลิ่นต่างๆมันไม่น่าไปหลงใหล

สรุปก็คือว่า ให้ฉลาดต่อกายตน และกายคนอื่น นี่มันโง่หลงกายคนอื่น แม้กระทั่งกายนั้นเป็นลูก เป็นหลาน เป็นศิษย์ ก็ยังเป็นครูโง่ต่อกายของเด็ก ก็เป็นคดีขึ้นมาได้ ถ้าครูฉลาดพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนังอะไรที่เป็นที่ตั้งของกรรมฐาน ไส้ใหญ่ ไส้น้อย เลือดน้อย ดี เสลด พังพืออะไรต่างๆ ถือเป็นวิธี เป็นอุบายทำให้เกิดปัญญาพิจารณาไม่หลงกายใครง่ายๆ ไม่หลงกายเด็ก หลงกายสาว หลงกายแก่

บางคนมันหลงอย่างชนิดที่ไม่ลืมหู ลืมตา ร่างกายนั้นเป็นของใคร ของลูก ของหลาน ก็ยังมีอารมณ์ที่จะไปเสพสม ข่มขืน มันผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ดังนั้น เอาล่ะ จะแก้ปัญหาทางไหนให้เลือกเอา แต่ต้องแก้ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ได้ ปล่อยให้คนถูกข่มขืนเป็นเหยื่อ เอาล่ะ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า จะต้องเยียวยาเหยื่ออะไรต่างๆนาๆมาปลอบขวัญบำรุงเหยื่อ แต่คนที่ทำให้คนอื่นเป็นเหยื่อนี่จะปล่อยให้มีอายุยืนนานอย่างชนิดสำราญข่มขืนต่อไปคงไม่ได้ ต้องจัดการ เหยื่อก็เยียวยา และเจ้าตัณหา ปัญหาก็ต้องแก้ไขกันต่อไป

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login