- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
BJCHI สุดฮอต! ลุยประมูลงานใหม่ มูลค่า 1.6 หมื่นล. ดัน backlog พุ่งทะลุ 4.2 พันล.แตะนิวไฮรอบ 5ปี
นายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ BJCHI เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้เดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องคิดเป็นมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ยังดำเนินต่อไป รวมทั้งวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาด ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้พัฒนาโครงการจำนวนมาก มองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่อยู่นอกประเทศจีนมากขึ้น แต่รวมไปถึงการสร้างห่วงโซ่อุปทานแห่งใหม่ โดยลดการพึ่งพาผู้ประกอบการจากประเทศจีน สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่บริษัทในการเข้าไปรับงานมากขึ้นผลักดันการเติบโตได้เป็นอย่างดี
“ตอนนี้บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog)อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี ทำให้เชื่อว่า ผลประกอบการในปี 2563 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก แต่บริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้ดำเนินโครงการใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าหลายราย ต้องการมองหาบริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กที่สามารถเป็นคู่ค้ากันในระยะยาว ดังนั้น จึงเชื่อว่าบริษัทฯ มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานเพิ่มเติมในอนาคต”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ขณะที่ในปัจจุบัน แม้ว่า ราคาน้ำมันได้ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ในการดำเนินโครงการให้แก่ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม บริษัทยังได้รับเชิญให้เข้าไปร่วมประมูลโครงการต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมก๊าซ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดำเนินโครงการที่หลากหลายให้แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อันจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 108.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 3.1 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 872.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.3% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 396.1 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัททยอยรับรู้รายได้จากงานโครงการในมือ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในไตรมาส1/2563 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login