วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“หมอประกิต”วอน“อนุทิน”ไม่อ่อนข้อให้บริษัทบุหรี่ไฟฟ้าผลักดันแก้กฎหมายขายบุหรี่ไฟฟ้ายันพิษร้ายทำลายสุขภาพ

On June 1, 2020

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่าเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกได้ประสบปัญหาบริษัทบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าพยายามเต็มที่ในการส่งเสริมการขายยาสูบชนิดใหม่โดยเฉพาะในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง ส่งผลให้สหพันธ์ต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ (International Union  Against Tuberculosis and Lung Diseases : IUATLD) หน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรด้านวิชาการโรคปอดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก ได้ออกคำแนะนำนโยบายที่ดีที่สุดในการควบคุมสถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ไฮบริดที่ไม่มีการเผาไหม้ (Heat not Burn) ของประเทศรายได้ต่ำและปานกลางคือ การห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าด้วยเหตุผล 10 ข้อ

1.บริษัทบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าพุ่งเป้าการตลาดไปที่เยาวชน

2.เยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสี่ยงที่จะพัฒนาต่อไปสูบบุหรี่ธรรมดา

3.ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าบุหรี่ไฟฟ้าลดอันตรายในผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว

4.ผลกระทบโดยรวมของบุหรี่ไฟฟ้า/ยาสูบชนิดใหม่ทั้งต่อผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบบุหรี่โดยเฉพาะต่อเยาวชน มีผลเสียมากกว่าผลดี

5.จะเป็นเรื่องยากในการรับมือกับการตลาดบุหรี่ไฟฟ้า/ยาสูบชนิดใหม่ๆ สำหรับประเทศที่การควบคุมยาสูบไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว

6.ยาสูบชนิดใหม่ๆ เบี่ยงเบนความสนใจจากการควบคุมยาสูบของประเทศตามที่กำหนดโดยอนุสัญญาควบคุมยาสูบ

7.การควบคุมยาสูบชนิดใหม่จะเบียดบังทรัพยากรที่มีน้อยอยู่แล้วจากการควบคุมยาสูบธรรมดา

8.จะเป็นการ เปิดโอกาสให้บริษัทบุหรี่แทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบของรัฐบาล

9.สถานการณ์ในประเทศรายได้ต่ำและปานกลางจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับประเทศอังกฤษที่การระบาดของยาสูบเกือบอยู่ภายใต้การควบคุม มีความพร้อมในการควบคุมยาสูบชนิดใหม่ๆ ที่ประเทศรายได้ต่ำและปานกลางไม่สามารถจะทำได้

10.ควรยึดนโยบายปลอดภัยไว้ก่อนจนกว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนถึงผลกระทบที่แท้จริงของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า/บุหรี่ชนิดใหม่ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสม รัฐบาลมีพันธะที่จะต้องป้องกันการระบาดของการเสพติดยาสูบชนิดใหม่

“หากพิจารณาจากการวิเคราะห์ของสหพันธ์ต่อต้านวัณโรคและโรคปอดนานาชาติ กฎหมายห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ชนิดใหม่ๆของประเทศไทยที่ออกมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นนโยบายที่ถูกต้องแล้ว เพราะลำพังบุหรี่ซิกาแรต และบุหรี่ยาเส้นที่ขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มาตรการควบคุมของไทยก็ยังมีปัญหามากอยู่แล้ว โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายที่บริษัทบุหรี่หาโอกาสและช่องโหว่ในการส่งเสริมการขาย เจาะตลาดวัยรุ่นตลอดเวลา จึงขอให้ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ที่เพิ่งได้รับรางวัลเหรียญบุหรี่และสุขภาพจากองค์การอนามัยโลก ด้วยผลงานที่ยืนยันไม่แก้กฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้า ตามที่บริษัทบุหรี่และเครือข่ายองค์กรบังหน้าพยายามกดดัน  โดยยืนยันการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ชนิดใหม่ๆต่อไป  ไม่อ่อนข้อให้แก่บริษัทบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ที่หวังแต่จะหากำไรโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม” ศ.นพ.ประกิตกล่าว


You must be logged in to post a comment Login