คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 มิ.ย. 63)
เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ยางเปรี้ยว (แก้วพิสณฑ์ประชานุกูล) อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เป็นโรงเรียนที่สอนในระดับชั้นตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา ไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา มีนักเรียนทั้งหมด 222 คน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดการเรียนการสอน และในวันนี้ได้นัดผู้ปกครองให้มารับคูปองเพื่อนำไปแลกเสื้อผ้า โดยจะให้มารับในวันที่ 2 มิ.ย. 2563
เบื้องต้นนมโรงเรียนของนักเรียนยังไม่ได้แจกให้ เนื่องจากยังไม่เปิดเรียน ทำให้นมทั้งหมดที่ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องเรียนแต่ละชั้น จึงได้ทำการแจกไปพร้อมกับคูปอง ซึ่งมีเพียงชั้นเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับนมไปเพียงห้องเดียว มีนักเรียนทั้งหมดมารับคูปองและนมกล่อง 19 คน แต่หลังจากรับนมไปแล้วปรากฏว่า นมบางส่วนเกิดบูดเสีย ผู้ปกครองจึงแจ้งมาที่โรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้เรียกนมกล่องทั้งหมดที่แจกไปกลับคืนมาเพื่อตรวจสอบคุณภาพนมอีกครั้ง ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับนักเรียน
นายสุวิทย์ แบ่งทิศ ผอ.โรงเรียนฯ บอกว่า คุณครูได้รายงานมาว่า มีนมเสีย จึงได้ประสานงานกับทาง นายก อบต.แม่ยางฮ่อ และในเบื้องต้นได้ให้ครูระงับการจ่ายนมทั้งหมดก่อน ในส่วนที่เหลือได้ให้นายกประสานงานเพื่อตรวจสอบ สำหรับนักเรียนคนไหนที่รับนมไปแล้วนั้นได้แจ้งไปยังในไลน์ของผู้ปกครองแล้ว ให้นำนมทั้งหมดมาคืนทางโรงเรียน เพื่อมาตรวจสอบ และจะทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ซึ่งพึ่งจ่ายนมชุดแรกให้กับเด็กนักเรียนไปเพียงห้องเดียว การเก็บนั้นเราก็เก็บในอุณหภูมิตามปกติ ในห้องเรียนที่มีอากาศถ่ายเท
นางอุไรวรรณ โสภารัตน์ นายก อบต.แม่ยางฮ่อ กล่าวว่า ในเบื้องต้น อบต.เป็นคนจัดซื้อจัดจ้าง และนำนมมามอบให้กับโรงเรียนผ่านการตรวจรับจากคณะกรรมการ และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใด ในครั้งนี้ทางอบต.ได้มอบนมทั้งหมดให้โรงเรียนเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงป้องกันการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และมีหนังสือสั่งการให้หยุดเรียน ไม่ให้มีการรวมตัว ทางโรงเรียนจึงไม่ทันได้แจกนมทั้งหมดให้กับนักเรียน แต่เมื่อดูแล้วนมยังไม่หมดอายุ จึงได้นำมาแจก ซึ่งนมที่แจกให้กับนักเรียนมีวันหมดอายุเดือนส.ค. และเดือนพ.ย.โดยส่วนใหญ่จะเป็นนมที่หมดอายุเดือนส.ค.ที่เสีย ส่วนนมที่หมดอายุเดือนพ.ย.ก็มีเสียเป็นบางส่วน หลังทราบข่าวทาง อบต.จึงได้ประสานไปยังบริษัทที่จัดส่งนมโรงเรียนได้ทราบเรื่อง ซึ่งทางบริษัทยินดีที่จะรับเปลี่ยนนมทั้งหมดที่เสียก่อนถึงวันหมดอายุ
ปรากฏการณ์นมโรงเรียนบูดที่เกิดขึ้นต้องเรียกว่า พายเรือในอ่างหรือสิ่งที่มันวนเวียนกลับมาซ้ำซากไม่รู้จักจางหายไปจากเมืองไทย ไม่ออกไปไหน ไม่พ้นไปได้ เพราะยังเป็นเรื่องอาหารของเด็กที่ยังคงมีปัญหาซ้ำซากต่อเนื่อง ไม่รู้จักจบสิ้น เมื่อก่อนเราเคยได้ยินว่า เด็กต้องกินขนมจีนกับน้ำปลา เพราะมีการหักค่าอาหารของเด็ก ต่อมาตอนนี้นมบูด นมเสีย ของอย่างนี้มักจะเกิด มักจะเป็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งเด็กไทยต้องเรียกว่า รับกรรมกับผู้ใหญ่งก หรือผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่ำ
ถ้าขืนกินนมบูดเข้าไปท้องไส้เสีย ถึงแม้บริษัทจะรับคืน แต่ก็ไม่ควรที่จะให้เกิด เพราะเกิดแล้วมีแต่เรื่องทำให้มันไม่คุ้มค่าที่เสียเวลา เอาของมาให้แล้วกินไม่ได้ กินเข้าไปก็เสียหาย เพราะฉะนั้น การพิถีพิถัน รอบคอบกับเด็กๆ อย่าให้เด็กต้องส่งโรงพยาบาล เพราะทานของที่ผู้ใหญ่จัดสรร จัดหา จัดให้ โดยไม่ไปดูแลกันให้ทั่วถึง มักจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นบ่อยๆ ตอนนี้โรงเรียนบางแห่งกำลังเตรียมเปิดเรียนแล้ว
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้ว ก็ไม่ควรที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ลุกลามบานปลายไม่รู้จักคำว่า จบสิ้น หมดไป จึงต้องเรียกกันว่า เหมือนพ่ายเรือในอ่าง เกิดแล้วเกิดอีก มีแล้วมีอีก เป็นแล้วเป็นอีก ซึ่งไม่ควรที่จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ควรที่จะมีโอกาสฟื้นตัว ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในลักษณะที่ดีขึ้น รอบคอบขึ้น ปลอดภัยกับเด็กมากขึ้น ไม่ควรให้เด็กไปเสี่ยงอันตรายกับการกินแล้วท้องไส้เสีย
ต้องบอกกันว่า ผู้ใหญ่อย่าทำอะไรกับเด็กที่มันเป็นเรื่องสร้างอนาคต เด็กสร้างชาติ แต่ผู้ใหญ่สร้างปัญหานี่ก็ลำบาก อย่างกรณีเอาน้ำยาล้างจาน ล้างห้องน้ำไปให้เด็กกิน เพื่อจะได้เงินจากเด็ก อันนี้ต้องเรียกว่า ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือเปล่า ถ้าผู้ใหญ่ใจดี ผู้ใหญ่ก็ควรที่จะคิดอะไรดีๆ ทำอะไรดีๆ กับเด็กๆ จะได้เรียกอย่างเต็มปาก เต็มคำว่า ผู้ใหญ่ใจดี โอบอ้อมอารี ทำให้เด็กนี้เจริญเติบโตด้วยความอบอุ่นกับบุคคลที่ดีแล้ว ดีอีก
เพราะฉะนั้น อาตมาก็ขอให้ผู้ใหญ่ใจดี ผู้ใหญ่ทำดี ผู้ใหญ่ที่คิดอะไรปรารถนาดีกับเด็กๆ เจริญเติบโตขึ้นในชาติบ้านเมืองเรามากขึ้นๆทุกปี
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login