- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 14 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
อัศจรรย์
คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 มิ.ย. 63)
สิ่งที่ไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่า ชีวิตนี้จะมีวันนี้ เรื่องอย่างนี้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตอาตมาและวัดสวนแก้ว นั่นก็คือ เรื่องหลังจากโควิด-19 แพร่ระบาดเป็นต้นมา อาตมาก็ได้ช่วยเหลือคนตกงานให้มาทำงานที่วัด บังเอิญนึกประหลาดอัศจรรย์ใจว่า ทำไมจังหวะเวลามันถึงผลักดันให้เรื่องโฉนดถุงกล้วยแขกกลับมาเด่น ดังแบบชนิดที่ใครจะนึก วันหนึ่งมีวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์มาสัมภาษณ์ออกสื่อวันละ 6-7 ช่อง 7 รายการ เป็นเรื่องที่ผิดปรกติ คาดคิดไม่ถึง
แต่แล้วก็เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาจนได้ ต้องถือว่า เป็นเรื่องที่อัศจรรย์ในเรื่องของการเกิดขึ้นกับชีวิต ไปบิณฑบาตก็มีคนอิสลามคนหนึ่งยกมือบอกหลวงพ่อสู้ๆน่ะ สงสาร และก็มีคนโทรศัพท์มาเห็นอก เห็นใจว่า ถูกไล่ที่ ถูกเจ้าของที่มาไล่ ทั้งๆที่เรามีโฉนดอยู่ในมือเหมือนกัน แต่ทำไมจ่ายเงิน 10 ล้านบาทแล้ว ไม่มีสิทธิในการเข้าไปทำประโยชน์ มันกลายเป็นเรื่องคนเห็นใจเมื่อรู้ว่า ทางวัดถูกเจ้าของที่มาเหมือนจะขู่ บังคับ
หรือว่า ใช้พลังอะไรก็แล้วแต่ที่จะต้องให้ขนย้ายสิ่งก่อสร้างหรือทรัพย์สมบัติอะไรที่มีอยู่ในนั้นออกให้หมด โดยให้เวลาภายใน 1 เดือน ทีนี้ปรากฏว่า อาตมานึกไม่ถึงว่า วันหนึ่งมีคนโทรมา 20-30 ราย แล้วบางรายอยากให้ได้ตังค์มาซื้อที่ดินคืน โดยเสนอแนะชนิดที่สวนทางกับความรู้สึกในชีวิตอาตมา คือ เสแสร้งแกล้งทำให้เขาสงสารทำไม่เป็นหรอก และมันเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ และมีคนบอกว่า เห็นมั้ยแท็กซี่เขาไปออกว่า เขาหมดทางอะไรอย่างนี้ เขาไม่มีรายได้ เขาเสียหายรายได้
ผลที่สุดแท็กซี่ได้ 10 ล้าน หรือแม่ค้าไปออกได้ 4-5 ล้าน แต่ผู้หญิงคนหนึ่งแย่เอาน้ำยาล้างห้องน้ำไปกรอกลูกได้ 15 ล้าน เรียกคะแนนสงสาร ถ้าอาตมาไปออกแล้วร้องไห้เหมือนลุงแท็กซี่ เหมือนคนพวกนั้น อาตมาน่าจะไม่ได้เงิน แต่ได้ความสมเพช ทุเรศ เป็นพระอะไรไม่มีศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระเลย ไปหาเงินด้วยวิธีมายาสาไถ ร้องไห้ ร้องห่มให้เขาเกิดคะแนนสงสารทำไม่ได้หรอก ให้ได้ 100 ล้านก็ไม่ทำ
ตอนนี้เรื่องเข้าใจผิดอยู่เรื่องหนึ่ง คือ คิดว่า อาตมาโดนไล่ออกจากวัด คิดว่า วัดโดยยึดทั้งหมด ซึ่งที่ดินที่ซื้อให้มูลนิธิทั้งหมด 210 ไร่ แต่ที่มีปัญหามันเพียงไร่เดียว และอาตมาก็ยังอยู่วัดสวนแก้วต่อ ยังพัฒนาให้วัดสวนแก้วสวยสด งดงาม ชื่นใจแก่คนที่มาเที่ยว มาชม มาทำบุญสุนทาน พระพยอมยังไม่ไปไหน มีโยมบางคนโทรมาจากโคราชบอกมีที่ดินอยู่โคราช 10 ไร่ มาสร้างวัดที่นี่เลย ถ้าไม่มีที่อยู่
นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า จะเกิดแบบนี้ได้2 วัน ให้สัมภาษณ์ 10 กว่ารายการ ซึ่งในชีวิตอาตมาไม่เคยเจอ แม้จะมีเหตุการณ์ขึ้นหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหลืองแดง เรื่องยันตระ นิกร พุทโธอะไรก็ตามที่เกิดกรณีต่างๆขึ้นก็ไม่เคยมีเรื่องที่จะมีคนให้กำลังใจ สนใจ มีคนมาทำบุญ มาเพราะสาเหตุรู้ข่าวว่า โดนขับไล่ โดนไล่ที่ ทั้งนี้ ข่าวอาจจะสร้างความสับสนให้เขาว่า เขานึกว่า โดนไล่ออกจากวัดไปหมดเลย ที่ดินวัดยังอยูอีก 200 กว่าไร่อยู่ ไม่ต้องกลัว
ทีนี้เรื่องเกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย ตอนนี้มีคนถามมาอีกว่า ถ้าเขาไล่แล้วจะทำอย่างไร มีกูรูทางกฎหมาย ท่านอาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี และอาจารย์สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา 2 ท่านนี้ ต้องถือว่า เป็นกูรูทางกฎหมาย เป็นผู้รู้ทางกฎหมาย ท่านรู้อะไรมาแนะนำเรา เราก็ต้องฟังไว้บ้าง เพราะจิ้งจกทักยังต้องฟัง แต่นี่ผู้รู้มาทัก มาแนะนำเราก็ต้องฟัง บอกให้เราอยู่นิ่งๆ รอให้เขาฟ้องขับไล่ก่อน เพราะที่มีหมายมาไม่รู้เป็นหมายจากศาลหรือว่า เขาแต่งเขียนขึ้นเอง ก็เลยบอกว่า ไม่เอา หลวงพ่อนิ่งเฉยๆก่อน
ถ้าฟ้องก็ฟ้องมูลนิธิฯ เพราะที่อาตมาไม่ได้ซื้อใส่ชื่อตัวเอง ใส่ไปนามมูลนิธิ ปรากฏว่า ต้องทำตามผู้รู้แนะนำ แล้วก็มีความหวังอะไรบ้างมั้ย ท่านบอกว่า กฎหมายเขามีบอกไว้ว่า ถ้าจะเอาที่ดินคืนก็ต้องไปดูสินค้าที่เขาขาย คือ ที่ดินแปลงนี้ขาย 10 ล้าน คนที่เอาที่ดินคืนต้องจ่ายตามที่มูลนิธิซื้อ 10 ล้านเสียก่อน จะไปเอากับนางวันทนา ผู้ขายหรือจะเอาจากใครแล้วแต่เป็นเรื่องของคุณ เพราะผู้ที่ทำให้คุณเสียหาย เอาที่คุณมาขายไม่ใช่พระพยอม
แต่เป็นนางวันทนาเป็นผู้เอามาขาย แต่คนบอกว่า ทำไมพระพยอมไม่ไปฟ้องนางวันทนา ฟ้องอะไร คนรู้ความจริงนอกจากไม่ฟ้องแล้วยังนึกสงสาร อาตมายังนึกอยากเอากระเช้าไปเยี่ยมไข้ เพราะแกนอนติดเตียง แล้วก็ติดคุกมาตั้ง 3 ปี มีแต่เรื่องหมดเนื้อ หมดเนื้อ แล้วจะไปฟ้องคนหมดตัวทำไม จะเอาเขาเข้าคุกอีกรอบหนึ่งหรือ จะมีประโยชน์อะไร เอาคนหมดเนื้อ หมดตัวจากโดนเกลี่ยกล่อมใช้เงินสู้คดีหรือสร้างโฉนดขึ้นมาเนี่ยจนหมดเนื้อตัวเลย แทบไม่เหลือใช้เลย จะเอาเลือดกับปูหรือ มันไม่ไหวหรอก
อาตมาเลยบอกว่า อยากไปเยี่ยมเหลือเกิน ขอยืนยันว่า อาตมาไม่เคยคิดฟ้องร้องโยมเด็ดขาด สบายใจได้เลย นี่ก็เรื่องของเรื่องมันก็เกิดขึ้นมา เสียดาย อาตมามานั่งนึกว่า โบราณเขาเคยพูดว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง คนที่ว่ารู้ๆนี่ ถ้ารู้ไม่จริงก็ไม่รู้ ไม่รู้ ดี แต่ถ้าไม่รู้แล้วชี้นี่ซิ เช่น ไม่รู้ว่า โฉนดแบบนี้ผู้รับโอนไม่มีสิทธิเท่ากับผู้โอน ถ้าเรารู้อย่างนี้ เราจะทำหน้าที่โอนยังไง คนทำหน้าที่โอนไม่ผิด แปลกน่ะ เขาอ้างโอนตามหน้าที่ศาลสั่งหรือโอนตามหน้าที่กฎหมายที่ดิน เมื่อมีคนมาซื้อ ให้ทำการโอนให้เป็นของผู้ซื้อ จากผู้ขายไปเป็นผู้ซื้อ เขาก็ทำตามหน้าที่ของเขา
แต่ถ้าถามว่า ถ้าข้าราชการกรมที่ดินจะเพิ่มเติมความรู้ เอาครั้งเป็นบทเรียนก็ดี ที่จริงเรื่องนี้เราไม่อยากพูดว่า ใครถูก ใครผิด เรามาป้องกันความผิดข้างหน้ากันดีกว่า อย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครต่อใครอีก อย่าให้ข้าราชการไม่รู้ไปทำงานและทำให้ประชาชนที่มาซื้อต้องเสียหายกัน อาตมาอยากจะเน้นในแนวนี้ดีกว่า ช่วยกันแก้ไขดีกว่า กฎหมายครอบครองปรปักษ์ถ้ามันไม่ดีก็ปิดซะ ยกเลิกซะ ต่อไปนี้ใครจะไปครอบครองที่ดินใครไม่ได้ ออกโฉนดไม่ได้ เขาให้ทำก็ทำไป แต่ออกโฉนดมาขายไม่ได้ แค่นี้มันจะปิดประตู ปิดหม้อข้าวที่พวกเสือหิวทั้งหลายจะได้ไปตักตวงกินกัน
ยังไงก็ขอฝากว่า เรื่องเยียวยา อาจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ บอกว่า ถ้าพระพยอมเป็นชนชาติอเมริกันจะได้รับการเยียวยาเยอะ เพราะมีโนตารี พับลิค คอยดูแล ประชาชนใดไปทำการหักโอนอะไรเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เสียภาษีเข้ารัฐแล้ว ต้องมาเสียหาย รัฐจะต้องเยียว และทีโควิดเยียวยาได้ตั้งคนละ 5 พันบาท ทีม็อบไปตายในม็อบคราวนั้นได้ตั้ง 4-5 ล้าน พระพยอมเสียหาย 10 ล้าน ถามว่า เกี่ยวเนื่องกับใคร ก็เกี่ยวเนื่องกับผู้ทำหน้าที่ตามกฎหมายนั่นแหละ ข้าราชการนั่นแหละ เสียหายไปตั้ง 10 ล้าน ไม่ได้รับการเยียวยาอะไรเลย
มีเจ้าหน้าที่สคบ.มาหาอาตมา แต่ไม่ได้เจอกัน นี่ก็หน่วยคุ้มครองผู้บริโภค อาตมาเหมือนกับซื้อของมาแล้วกินไม่ได้หรือไม่ได้กิน เพราะมันกินไม่ได้ เพราะของที่ซื้อมานั่น มันไม่มีสิทธิครอบครองใช้สอยได้เท่ากับคนที่โอนให้ ขายให้ ต้องฝากบอกกันหน่อย สคบ.ก็ควรมาดูบ้าง เผื่อจะได้ช่วยวัด ช่วยศาสนาไม่ให้เสียหายต่อไป ไม่งั้นบริโภคโฉนดที่ไร้ประสิทธิภาพในการเข้าทำประโยชน์ เป็นโมฆะไป ขายของโมฆะ ซื้อของโมฆะ คุ้มครองผู้บริโภคจะว่ายังไง
ก็ลองหาทางศึกษา เรียนรู้กันต่อไป เผื่อจะได้ปิดประตูความเสียหายให้กับประชาชน จะได้บุญมากกว่าสร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ ทีข้าราชการกระทรวงนั้ กระทรวงนี้ไปทอดผ้าป่า กฐินกันโครมๆ เชื่อเถอะจะได้บุญน้อยกว่าที่ช่วยคน ปกป้องคน คุ้มครองคนที่จะเสียหายไม่ต้องเสียหายเยี่ยมที่สุดเลย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login