คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 มิ.ย. 63)
เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวบุคคลสำคัญที่เคยผ่านเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยทั้งพี่ ทั้งน้อง คือ คุณทักษิณ ชินวัตร และคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะคุณยิ่งลักษณ์เพิ่งฉลองอายุ 53 ปี และตอนนี้เริ่มมีคนพูดวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ถ้ากฎหมายปรองดอง นิรโทษกรรมออกมาในช่วงเวลาที่บ้านเมืองวิกฤต เราระดมมันสมองคนไทย ซึ่งคนไทยนี่ ถ้ารวมสมองกันดีๆมาช่วยชาติ แต่บางคนก็แย้งว่า คนไทยถ้าหัวดีจะต้องถูกเนรเทศไปอยู่ต่างชาติ
ยกตัวอย่าง เช่น ดร.ปรีดี พนมยงค์ ดร.ป๋วย อึ๋งภากรณ์ หรือใครต่อใครอีกหลายท่านที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนคนที่เรียกว่า สมองพอจะใช้ได้ ถ้าสมองทางเศรษฐกิจของคุณทักษิณเคยแก้ปัญหาที่เรียกกันว่า ไอเอ็มเอฟอะไรต่างๆตอนนั้นได้ ตอนนี้คนก็เริ่มคิดถึงว่า ถ้าประเทศชาติเราทรุดลงๆ เศรษฐกิจก็ไม่มีใครแก้ และไปติดต่อขอใครจะมาช่วย รู้สึกจะไม่มีใครอยากจะรับ ถ้าประเทศอาภัพ คนที่จะรับแก้เศรษฐกิจ คนเราก็อดจะนึกถึงว่า ใครเคยแก้มาได้บ้าง
ถ้าเป็นอย่างนี้ ข่าวสองข่าวมาก่อน เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยมีข่าว เงียบไปนาน ทั้งคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์ แต่ตอนนี้เกิดมามีขึ้นอีกแล้ว เอาล่ะ คนอยากจะเห็นประเทศก้าวเข้าสู่การปรองดองอย่างลึกซึ้ง เหนียวแน่น เป็นปึ๊กแผ่น ประเทศมีปัญหาหนักจะกลายเป็นเบา ยากก็จะกลายเป็นง่าย ช้าก็จะกลายเป็นเร็ว ภัยมากจะกลายเป็นภัยน้อย ภัยทั้งหลาย จะเป็นภัยปากแห้งท้องหิวเศรษฐกิจ โรคทรัพย์จาง อยู่ที่ว่า คนที่มีฝีมือในอดีตอยู่ที่ว่าจะแก้ได้หรือไม่
แต่มองดูไม่ได้ว่า สบประมาท โอกาสจะกลับมาแก้ไม่มีเท่าไร และแก้ในสถานการณ์บ้านเมืองโลกเป็นอย่างนี้คงไม่ง่ายเหมือนยุคไอเอ็มเอฟ แต่เอาล่ะ คนเราบางคนก็แย้งว่า ช่วงนี้ไปอยู่ต่างประเทศนาน ประสบการณ์ชั่วโมงบินในการที่จะดึงเงินหรือว่า ร่วมคิดอะไรกับคนต่างประเทศก็น่าจะได้ดีกว่าอะไรทำนองนี้ เพราะประเทศไทยจะได้พ้นคำว่า รัฐบาลทหาร การติดต่อซื้อค้าขายอะไรต่างๆจะไม่มีคำว่า รัฐบาลทหาร เผด็จการอะไรต่างๆ จะได้ราบรื่นชื่นมื่นกับต่างประเทศอย่างเต็มร้อย
ถ้าคนเรามาช่วยกันรุมทำให้ประเทศมีโอกาสจะรุ่ง แต่ถ้ารุมกันแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีก็อาจจะทำให้ประเทศล่ม ซึ่งล่มกับรุ่งพุ่งมาที่ใครบ้างก็พุ่งหาคนดีมีฝีมือกันไปเถอะ ถ้าคนในประเทศเขาไม่รับจะเอาต่างประเทศมาบ้างได้มั้ย หรือว่า ยังเกลียดกันเข้าไส้ เข้ากระดูกดำ ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ มันก็คงจะไม่เห็นโอกาสตามที่เป็นข่าวตามที่บอกว่า ให้ทักษิณรอไปหน่อย อยากจะกลับมาก็จะได้ลดความขัดแย้งบานปลายอะไรต่างๆ
เห็นข่าวระบุว่า อดีตนายกฯถ้าอยากจะกลับบ้านแบบเท่ห์ๆ ก็ต้องรู้จักอดทน รอคอย และพิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อน ต้องเสียสละให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรม แต่กลับได้รับความทุกข์ทรมานให้ได้รับการเยียวยาและเกิดสามัคคีของคนในชาติก่อน จากนั้นคนในชาติจะพิจารณาเองว่า จะให้โอกาสคุณทักษิณหรือไม่ อย่างไร อันนี้เป็นคำพูดประกาศของนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งคงจะต้องติดตามดูต่อไป
ถ้าได้กลับประวัติศาสตร์ก็ต้องพลิกใหม่ อดีตนายกฯหรือผู้ที่ประกอบความดีให้ชาติ ออกไปแล้วไม่ได้กลับ ต้องไปหมดชีวิตกลับมาแต่กระดูก ทักษิณจะกลับก่อนที่จะเป็นกระดูก จะมีชีวิตอยู่ มีมันสมองมาประคับประคองได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่า จะได้เป็นเหมือนในอดีตหรือคนปัจจุบันนี้อาจจะมีอะไรแตกต่าง โลกมันเปลี่ยน ที่เราเรียกกันว่า มันยุคใหม่แล้ว นิวนอลมอล มันจะมอลๆหรือมั่วๆ ถ้ามั่วๆมันก็เป็นแบบเก่า ถ้าเป็นนิวนอร์มอลมันจะได้ทำกันใหม่
จากไม่เคยให้อภัยมาให้อภัย จากเคยเกลียดชังก็มาทำใจเป็นกลาง ไม่ต้องทำเป็นดีด้วย แค่ลองบอกปล่อยให้เขาลองมาซิ ดูว่า จะมีฝีมืออีกรอบไหม ถ้ามีฝีมือได้อีกรอบ ประเทศไทยก็ไม่ต้องบอบช้ำมาก คงจะต้องติดตามดูกันต่อไป จะได้มาหรือไม่ได้มา ถ้าไม่ได้มา เราก็อยู่กันต่อไป ด้วยการไทยช่วยไทยกันต่อไปก็แล้วกัน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login