Hi-Kool โตสวนกระแส ชิงโอกาสยุค Next Normal

• Tweet
• 

นางสาวชลิฏา วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ฟิล์มกรองแสงอันดับ 1 ของไทย ที่การันตีทั้งคุณภาพและบริการ โดยได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี หรือ Superbrand Thailand ติดต่อกัน 6 ปีซ้อน เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมในปีนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ยอดขายรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 37% ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ปรับลดยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเหลือ 950,000 คัน จากเดิม 1 ล้านคัน ส่งผลกระทบต่อตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับ Hi-Kool ได้ปรับกลยุทธ์เข้าสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ โดยจัดแคมเปญโปรโมชั่นในช่องทางออนไลน์ ในเดือนเมษายน ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงไฮ ซีซั่นของธุรกิจฟิล์มกรองแสง พร้อมลดราคาพิเศษ 50% เพื่อนำเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้า รวมทั้งเป็นการช่วยสนับสนุนธุรกิจของคู่ค้าของบริษัท ซึ่งเป็นร้านประดับยนต์ที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ด้วยการส่งต่อลูกค้าไปติดตั้งฟิล์มกรองแสงในสาขาใกล้บ้าน เดินทางสะดวก โดยแคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถทำยอดจองได้กว่า 1,000 คัน สูงกว่าการจัดแคมเปญ่ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีที่ผ่านมา ที่มียอดจอง 720 คัน

“ช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทเห็นแนวโน้มตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม จึงรีบออกแคมเปญโปรโมชั่นในช่องทางออนไลน์ ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนการทำตลาดดิจิทัลไว้อยู่แล้ว ตามนโยบายที่จะมุ่งสู่ดิจิทัล และสามารถเข้าไปรองรับความต้องการของลูกค้าได้พอดี ทำให้มียอดจองติดตั้งฟิล์มกรองแสงสูงมาก แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ขณะเดียวกันบริษัทได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่าย ส่งต่อลูกค้าไปติดตั้งในสาขาที่ลูกค้าเดินทางได้สะดวก ได้ประโยชน์ทั้งลูกค้าและคู่ค้าของเรา” นางสาวชลิฏากล่าว

ด้านนายปฏิพล วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศ กล่าวว่า การมุ่งสู่ดิจิทัล ถือเป็นนโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการพัฒนาระบบต่างๆ รองรับการให้บริการตั้งแต่ปี 2562 เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงนำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ ถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ในการรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค “Next normal” ที่ช่องทางออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทในการซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทจะนำข้อมูลผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด มาพัฒนา ปรับปรุง และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในช่องทางของโซเชียล มีเดีย ร้านค้าออนไลน์ หรือ มาร์เก็ตเพลส (Market Place) เช่น ลาซาด้า ช้อปปี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อเชื่อมความต้องการ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภค รวมถึงคู่ค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ Hi-Kool ในปีนี้ คาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นส่งผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวม รวมถึงตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศด้วย ขณะที่ตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยัง 3 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว ได้รับผลกระทบจากโควิดเช่นเดียวกันเนื่องจากช่องทางในการติดต่อธุรกิจยังไม่อยู่ในภาวะปกติ แต่เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ตลาดต่างประเทศจะกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และตลาดรถยนต์ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

“พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราต้องเตรียมองค์กรให้พร้อมรองรับกับยุคใหม่ หรือ Next Normal ที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดจึงนำมาปรับใช้ได้ทันที และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า รวมถึงคู่ค้าได้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ บริษัทจะนำไปพัฒนา และเพิ่มช่องทางที่หลากหลายในการเข้าถึงลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายปฏิพลกล่าว

ทั้งนี้ ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2020 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 26 กรกฎาคม 2563 ผลิตภัณฑ์ Hi-Kool ได้เข้าร่วมงาน และจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองติดตั้งฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ในราคาลดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ “Hi-Kool Ceramic BLACK” ฟิล์มเซรามิคระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงสุด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสงเซรามิคระดับพรีเมี่ยม “Hi-Kool Ceramic UV Care” และฟิล์มกันร้อนในตำนาน รุ่น R Series สิทธิพิเศษนี้ยังมอบให้ลูกค้าที่จองติดตั้งฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ในช่องทางออนไลน์ผ่านเวบไซต์ www.hikoolflim.com เช่นเดียวกัน

You must be logged in to post a comment Login