- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 day ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
ไทยคมโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 498 ล้าน
บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“THCOM”) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563
บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/2563 จำนวน 498 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 2/2562 จำนวน 135 ล้านบาท รวมทั้งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/2563 ที่ 198 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้จากเงินชดเชย สุทธิกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 223 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว ในไตรมาสที่ 2/2563 บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติเป็นจำนวน 2 ล้านบาท
บริษัทรายงานรายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับไตรมาส 2/2563 รวมทั้งสิ้น 873 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และลดลง 9.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุหลักจากการลดลงของลูกค้าบรอดแบนด์ และการยุติการใช้บริการของลูกค้าบางส่วนเนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5 ปลดระวาง
อัตราการใช้บริการของลูกค้าของดาวเทียมแบบทั่วไป คือ ดาวเทียมไทยคม 6, ไทยคม 7 และไทยคม 8 ณ สิ้น
ไตรมาส 2/2563 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 63% ลดลงจาก 65% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2563 และสำหรับการให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์ไทยคม 4 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียม อยู่ที่ระดับ 19% ลดลงจาก 21% ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดระดับการใช้งานแบนด์วิธจากลูกค้าผู้ใช้บริการต่างประเทศ
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยคม กล่าวว่า “ไตรมาสนี้กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากเงินชดเชยซึ่งเป็นรายการพิเศษ โดยบริษัทให้ความสำคัญต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารายได้จะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่บริษัทยังคงรักษาระดับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานไว้ได้ที่ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้ลงทุนในบริษัทร่วมทุนกับ 2 พันธมิตรใหญ่ คือ (1) ร่วมทุนกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) จัดตั้ง บริษัท เนชั่น สเปซ แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด (NSAT) เพื่อให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียม อาทิ ธุรกิจดาวเทียมวงโคจรระยะต่ำ (Low Earth Orbit Satellite) และ (2) ร่วมทุนกับ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) จัดตั้งบริษัท เอทีไอ เทคโนโลยีส์ จำกัด (ATI) เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนเพื่อการเกษตร โดยไทยคมมุ่งหวังให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรทั้งสองนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน ช่วยต่อยอดรายได้ที่มั่นคง และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจให้กับบริษัท”
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) และ บริษัท ทีพลัสดิจิทัล จำกัด (ทีพลัส) ในประเทศลาว รายงานจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่รวม fixed wireless) ในระบบรวมทั้งสิ้น 1.51 ล้านราย ซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่งในประเทศลาว คิดเป็นประมาณ 61.1% ของตลาดรวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 60.3%
You must be logged in to post a comment Login