- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 10 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
กระดิ่งสังคมดังกระหึ่ม
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 6 ส.ค. 63)
เมื่อฟังเรื่องราวคดีของ “บอส กระทิงแดง” แล้วก็ต้องเรียกกันว่า สุดยอดของความสับสน สุดยอดของการทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไม่ได้ทำงานให้มันกระฉับเวลา หรือไว ปล่อยล่าช้าถึง 8 ปี และสำนวนไม่ได้อยู่ในการสอบสวน เช่น ความเร็วกับสารเสพติด ซึ่งความเร็วนี่มันเป็นเรื่องที่ชัดเจน เขาถึงจับเอามาเป็นประเด็นข้อพิรุธใหม่หรือว่า ข้อมูลใหม่ทางกฎหมาย เรียกกันว่า ได้ข้อมูล หลักฐานใหม่ ซึ่งที่จริงมันหลักฐานเก่า
แต่ว่า แปลกมากๆเล่นแร่แปรธาตุกันจนน่าเกลียด ไอ้ที่ควรใส่ไป ไม่ใส่ ที่ไม่ควรใส่ มาใส่ ใส่แล้วมากลับใหม่ นี่เป็นเรื่องที่สับสนมากๆ เรียกว่า กระบวนการยุติธรรมไทย การดำเนินงานทางด้านคดีต่างๆอยู่ในสภาพที่เรียกว่า ย่ำแย่ ล่าช้า อืดอาด โยกโย้ และโยกย้ายด้วยซิ ย้ายข้อความอะไรต่างๆที่ทำให้ใช้ไม่ได้ เอาล่ะ ต้องเรียกว่า ดีที่สุด เป็นบทเรียนที่สังคมไทยเรารวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบโกง
หรือกระบวนการไม่ต้องการให้ประเทศชาติเสียหายกับเรื่องโกง ปราบปรามคอร์รัปชั่นออกมา แต่งานนี้ ต้องถือว่า โกหกกันบรรลัยวายวอด ซึ่งมีเรื่องโกหกทีแรกเลย ตั้งแต่ว่า คนขับไม่ใช่บอส เอาคนนั้น คนนี้มาอ้าง เขาเรียกว่า ติดกระดุมเม็ดแรกก็ผิดเลย ทำให้นึกถึงเพลงรำวงสมัยเก่าๆ คำว่า โกหกเป็นไฟไม่ได้การ คบชู้นอกบ้านต้องเฆี่ยนๆ อะไรแบบนี้ เพลงนี้ร้องมานาน อาตมาตอนนั้นอายุ 10 กว่าขวบ จำเพลงนี้ได้ติดหู นี่โกหกมันเป็นไฟ โกหกไม่ใช่เป็นนิพพาน เป็นสวรรค์ เป็นแอร์ แต่มันเป็นไฟ
ตอนนี้ คนที่โกหกๆกันนี่ เริ่มไฟล้นก้นแล้ว เช่น มีนายตำรวจระดับพล.ต.ท.บอกว่า ไม่รู้จักบอส ไม่รู้จักลูกกระทิงแดง คือ ใครอะไรต่างๆ เรียกว่าไปกันใหญ่ มันเป็นเรื่องที่ต้องเรียกว่า อาจจะถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย อย่างอ.คณิต ณ นคร บอกไว้ ถ้าไม่ปฏิรูปกระบวนการศาลไทย ไม่เป็นโล้ เป็นพายอย่างนี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ต้องเรียกกันว่า รุ่นเก๋าก็ว่าอย่างนั้น รุ่นใหม่ก็ว่าอย่างนั้น เอากันสักที ยกเครื่องกันสักที อย่าปล่อยให้เป็นเรื่องอยู่เหนือเมฆได้
ล่าสุดองค์กรปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ออกมาเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้จัดการกับเจ้าหน้าที่ๆทำงานบกพร่องและผิดพลาดในคดีบอส กระทิงแดง ที่สำคัญที่ทำงานอย่างอืดอาด ล่าช้า ซึ่งคำว่า ล่าช้า เนิ่นนาน โบราณใช้คำว่า เสียกาล เสียเวลา แล้วยังมีเรื่องอื่นๆที่เรียกว่า มีคนพูดดี บอกว่า สมัยก่อนถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนมีทุกข์ ยุคพ่อขุนราม ท่านแขวนกระดิ่งไว้หน้าประตูวัง คนร้องทุกข์ ก็ไปเขย่ากระดิ่ง
แล้วจะมีเจ้าหน้าที่หรือผู้มารับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน แต่เดี๋ยวนี้แม้ว่า กระดิ่งไม่มีอยู่หน้าวัง แต่กระดิ่งสังคม กระดิ่งของแต่ละแผนกสัดส่วนทุกๆองค์กร ถือว่า เป็นกระดิ่งสำคัญที่จะสั่งเขย่าให้ดังกระหึ่มไปด้วยคำว่า ฉันไม่เห็น ฉันไม่ยอมด้วย อย่างนี้มันมองประชาชนกินหญ้ามากเกินไป ทำเป็นว่า เข้าตัวในการแถลงปกป้องกันอย่างชนิดที่ฟังแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าอยู่หน้าจอโทรทัศน์สำหรับของคนบางคน
แต่บางกลุ่ม บางพวกก็ต้องเรียกว่า เข้าทางที่จะทำเรื่องนี้ให้แจ่มแจ้ง ชัดเจน เห็นกันจะๆว่า ใครเป็นใคร ใครทำอะไรถูก ใครทำอะไรผิด อย่าทำผิดให้เป็นถูก อย่าทำให้ถูกให้เป็นผิด เสียเวลา เรื่องที่ควรเร็วกลับไม่เร็ว นี่แหละ ควรไม่ควรสำคัญที่สุด ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้ามาถึงขนาดนี้ก็ล่าช้า คดีโฉนดถุงกล้วยแขกของวัดสวนแก้วก็เหมือนกันไม่ควรปล่อยให้เราทำไปตั้ง 2 ปี 7 เดือน แล้วศาลก็มารับฟื้นคดีขึ้นมาอีก จ่ายเงิน เสียเงินไป
นี่แหละทราบข่าวทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) จะมาเปิดประเด็นที่วัดสวนแก้วเหมือนกัน เรียกว่า ถ้าสังคม องค์กรต่างๆจับกระดิ่งสั่นกันอย่างนี้ เชื่อว่า ศาลก็ต้องก้นร้อนเหมือนกัน ถ้ายังไม่ทำเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นที่สงสัยเคลือบแคลงของสังคม ต่อไปจะไม่มีศาลอะไรที่จะได้ใจประชาชน นอกจากศาลพระภูมิ ศาลเจ้า ศาลเตี้ย มันต้องถึงเวลาจัดการแก้ไขปฏิรูปให้เป็นที่ยอมรับกันเถอะ ให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อถือกันเถอะ
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login