วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วัลลี 2

On August 12, 2020

มีข่าวเด็กกตัญญู ด.ญ.สุดารัตน์ สมหวัง หรือน้อยเตย นักเรียนหญิง ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนดี แต่ฐานะยากจน ขอลาออกจากโรงเรียน เพื่อออกไปหาเงินเลี้ยงดูแม่ตาที่บอด เพื่อจะไปทำงานหาเงินมาดูแลแม่   นี่ก็คล้ายๆกับวัลลีที่ชีวิตของเขาต้องดูแลแม่และยาย

เรียกว่า มีสภาพน่าสงสารคล้ายๆแบบนี้ แต่ว่า คงไม่ถึงขั้นที่วัลลีไม่ต้องลาออก แต่วิ่งมาดูแลแม่ช่วงโรงเรียนพักเที่ยงอย่างเต็มที่ ยุคนั้นถือว่า ข่าวนี้แรง แต่มาถึงน้องเตย เด็กสุพรรณ ป.6 เรียนภาคบังคับจะขอลาออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปรับจ้างทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูแม่อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมาพะว้า พะวง ห่วงเรียน อันนี้เป็นเรื่องที่เชื่อว่า คนไทยที่มีจิตใจเป็นผู้ใหญ่ใจดีเห็นการศึกษาของเด็กที่สูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย

เอาละ ผอ.โรงเรียน ก็บอกว่า ให้นำแม่ที่ตาบอดมาที่โรงเรียนด้วย มาอยู่ มาดูได้ เรียนไป ดูแม่ไป ถือว่า ผู้ใหญ่ใจดียังให้โอกาสเธอ อาตมาเชื่อว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กเรียนดีด้วย เรียนเก่งด้วย ไม่ควรจะเสียโอกาสนี้เลย หวังว่า ใครที่ติดตามดูข่าวนี้แล้ว คงจะร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการขาดแคลน ขัดสน ฝืดเคือง ข้นแค้น ยากจน ก็ควรที่จะได้ดิบ ได้ดี มีผู้ใหญ่ใจดีคอยให้โอกาส คอยช่วยเหลือ หาทุน หารอนกัน เด็กคนสองคนนี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเมืองไทย

อาตมาคิดว่า เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ควรทำให้มากเกินไปหรอก กลัวอย่างเดียวว่า เดี๋ยวเป็นข่าวดราม่า น้อยเตยได้เงินบริจาค 10-20 ล้านบาทขึ้นมาก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก เพียงแต่ว่า เราตั้งใจกันให้เป็นใครดูแล และเงินควรจะไม่ใช่หลั่งไหลไปช่วงนี้ทีเดียวอย่างเทน้ำ เทท่า มันต้องค่อยๆมีใครก็ได้ที่คิดว่า ค่อยๆทยอยฝาก ค่อยๆทยอยให้ แต่ว่า อย่าขาดตอน ตอนนี้ยังไม่ต้องให้มาก เพราะเชื่อว่า กระแสกำลังไหลไป ควรจะให้หลังจากที่คนข่าวซาไป

กันเอาไว้เลยว่า เดือนนั้น ปีนั้น ปีนี้ยังไม่ให้ แต่ไปให้ปีหน้า เผื่อคนซาแล้วลืมไป คนที่ตั้งใจจะให้แบบนี้ก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงไม่ขาดสาย ไม่ใช่ท่อน้ำเลี้ยงทะลักไป แล้วเกิดปัญหายุ่งยาก เงินทองไหลไปแล้วเกิดความรู้สึกในทางไม่ดีก็จะเสียหาย เพราะฉะนั้น จึงอยากจะฝากว่า

การช่วยเหลือเนี่ย มันควรจะต่อเนื่อง ควรจะทำให้ท่อน้ำเลี้ยงไม่ขาดสาย พออยู่ได้ ไม่ขนสน ฝืดเคือง ไม่เหลือเฟือ เหลือเกิน ถ้าไม่เหลือเฟือ เหลือเกิน แล้วไม่ขาดแคลน อันนี้แหละจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า เรารู้จักบริหารจัดการในการช่วย การให้ ไม่ใช่ให้มากเกินไป น้อยเกินไป จะได้ไม่เกิดคำว่า ฟีเวอร์ หรือเกิดเด็กใจแตก หรือมีคนอื่นๆที่ข้างๆเห็นเงิน เห็นทอง ตาวาวใจแตก โกงแหลกกันขึ้นมาก็เสียหายอีก

เพราะฉะนั้น จึงต้องค่อยทำ ค่อยไปกันให้ดี แต่ว่า อย่าให้ขาด อย่าให้เป็นไฟไหม้ฟาง อย่าให้มันวูบวาบแล้วก็ดับไป เพราะเด็กยังอายุไม่มาก ก็ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ค่อยให้ ค่อยดู ให้เขาอยู่ได้สบาย ได้เรียน ได้ศึกษา อย่าให้รวยแบบกระโดดข้ามวัน ข้ามคืน แบบลุงแท็กซี่ หรือยายขายของ ที่ปุ๊บปั๊บได้ไป 5 ล้าน 10 ล้าน อันนั้นมันก็จะเวอร์เกินไป ยังไงๆก็ขอให้ได้ช่วยกันทำให้สวยสดงดงาม ไม่มากเกินไป น้อยเกินไป

มันถึงจะเรียกว่า ทำพอดีๆ ทำดีต้องให้ถูกดี ถึงดี พอดี ถ้าทำไม่ดี เดี๋ยวเป็นดีซ่านไป ทำเกินดี ทำเกินพอดี เดี๋ยวเป็นดีซ่าน เพราะฉะนั้น ขอให้ทำให้พอดี ได้ต่อเนื่อง ยาวนาน จนชีวิตของเขาได้บรรลุนิติภาวะ อายุ 25 ปี จากนี้ไปเป็นเวลาอีก 5 ปี 10 ปี เขาจะต้องอยู่ยังไง ต้องติดตามดูกันต่อไป

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login