- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ลิขิตของชีวิตและโลก
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 21-28 ส.ค. 2563)
การค้นพบสารพันธุกรรม (DNA) ทำให้เรารู้ว่ามนุษย์ได้ถูกกำหนดลักษณะทางพันธุกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว สารพันธุกรรมนี้จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวของมนุษย์แต่ละคนไว้ และลักษณะทางพันธุกรรมนี้จะถูกส่งต่อไปถึงลูกหลานของคนผู้นั้น
ดีเอ็นเอของมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน การค้นพบดีเอ็นเอจึงช่วยทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุหลักฐานตัวบุคคลได้ นอกจากนี้การค้นพบดีเอ็นเอยังเป็นการทำลายทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส ดาร์วิน ที่ว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิงด้วย เพราะดีเอ็นเอของมนุษย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ดีเอ็นเอของมนุษย์จะเหมือนกับลิง
แม้การค้นพบดีเอ็นเอเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ แต่สามารถนำมาเป็นข้อพิสูจน์และเป็นการทำความเข้าใจคำสอนทางศาสนาบางเรื่องได้ เช่น เรื่อง “พรหมลิขิต” เป็นต้น
“พรหม” แปลว่าผู้สร้าง “ลิขิต” แปลว่า “เขียน” นั่นหมายความว่าพระผู้สร้างเป็นผู้เขียน เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะใครเป็นผู้สร้าง คนนั้นเป็นผู้กำหนด
หลังจากนั้นมนุษย์ได้เรียนรู้ความจริงอีกว่ามนุษย์ทุกคนถูกกำหนดมาให้เกิด แก่ เจ็บ และตาย โดยไม่มีใครหลีกกฎนี้พ้น
ในคัมภีร์กุรอานก็มีคำสอนเช่นเดียวกันนี้ว่า พระเจ้าเป็นผู้ทรงสร้างและผู้ทรงกำหนดให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามประสงค์ของพระองค์
แพทย์สามารถอ่านดีเอ็นเอและพอจะบอกได้ว่าลูกหลานของคนผู้นั้นจะมีลักษณะทางพันธุกรรมอย่างไร แต่แพทย์ไม่สามารถบอกได้ว่าลูกหลานของคนผู้นั้นจะตายเมื่อใด
มนุษย์ทุกคนต่างยอมรับว่าเมื่อเกิดมาแล้วทุกคนต้องแก่ตัวและเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อใด ที่ไหน และอย่างไร
โลกและจักรวาลก็ไม่ต่างจากมนุษย์ที่ต้องมีแก่ มีเจ็บ แต่ไม่มีใครรู้ว่าโลกจะถึงกาลอวสานเมื่อใด นักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่รู้ ในคำสอนของอิสลาม ทูตสวรรค์เคยปรากฏกายในร่างมนุษย์ต่อหน้านบีมุฮัมมัด และถามคำถามบางอย่างเพื่อเป็นการทบทวนความรู้ที่ท่านได้รับมาจากพระเจ้า หนึ่งในคำถามเหล่านั้นคือ วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อใด
นบีมุฮัมมัดได้ตอบกลับไปว่า “ผู้ตอบก็ไม่รู้อะไรดีกว่าไปกว่าผู้ถาม แต่ฉันจะบอกท่านให้รู้ถึงสิ่งที่จะปรากฏขึ้นก่อนถึงวันอวสานว่า 1.ทาสหญิงจะให้กำเนิดลูกแก่นายของตัวเอง และ 2.เมื่อคนเลี้ยงอูฐเริ่มคุยโม้โอ้อวดและแข่งกันสร้างตึกสูง เรื่องวันสิ้นโลกไม่มีใครรู้นอกไปจากพระเจ้าเท่านั้น”
คำตอบนี้บอกให้รู้ว่าแม้แต่นบีผู้รับข่าวสารจากพระเจ้า และทูตสวรรค์ที่เป็นผู้นำข่าวสารจากพระเจ้ามายังนบี ก็ไม่รู้ความลับในเรื่องนี้
ถึงแม้ไม่รู้ว่าวันสิ้นโลกจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่นบีมุฮัมมัดได้บอกสาวกของท่านว่าก่อนวันสิ้นโลกจะมีปรากฏการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์และจากธรรมชาติเป็นสัญญาณบอกเหตุ
คำพูดของนบีมุฮัมมัดที่ว่า “ทาสหญิงจะให้กำเนิดลูกแก่นายของตัวเอง” นักวิชาการอิสลามได้ให้คำอธิบายเรื่องนี้ไว้หลายทรรศนะ
นักวิชาการบางคนกล่าวว่า หมายถึงเมื่อชาติหนึ่งไปรุกรานชาติอื่น ชนชาตินั้นจะเอาผู้หญิงของคนในชาติที่ถูกรุกรานมาเป็นทาสและตอบสนองความต้องการของตนเองจนมีเด็กลูกครึ่งขึ้นมา แต่นักวิชาการบางคนอธิบายว่า เมื่อใกล้วันสิ้นโลก ลูกจะไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ลูกจะทำให้พ่อแม่เดือดร้อน และพ่อแม่จะทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ลูกเหมือนกับเป็นทาสลูก
ส่วนเรื่องคนเลี้ยงอูฐคุยโตโอ้อวดและแข่งกันสร้างตึกสูงนั้น เราได้เห็นกันแล้วเมื่อชนชาติอาหรับร่ำรวยจากการค้นพบน้ำมันกำลังแข่งกันสร้างตึกสูง ทั้งๆที่มีเนื้อที่ในทะเลทรายมากมายให้ขยายเนื้อที่การสร้าง
มนุษย์มีความแก่และการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าถึงการสิ้นสุดอายุขัยฉันใด โลกก็มีปรากฏการณ์ทางสังคมและธรรมชาติเป็นสัญญาณเตือนถึงวันอวสานของโลกฉันนั้น
You must be logged in to post a comment Login