กรรมติดจรวด

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 ส.ค. 63)

มีคนพูดกันว่า ยุคนี้กรรมก็ติดจรวดได้เหมือนกัน คือ เห็นทันตาในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า นั่นก็คือ เหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ มีนักเรียนมาโห่ไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง เพราะว่า ไม่พอใจเรื่องคำพูด คำจาต่างๆที่รัฐมนตรีพูด เลยทำให้นักเรียนไม่พอใจ รวมตัวกันไปไล่ที่กระทรวงศึกษาธิการ

มีคนเขาบอกว่า นักเรียนเป่านกหวีดไล่ ก็เหมือนในอดีตที่รัฐมนตรีคนดังกล่าวเคยเป่านกหวีดร่วมกับกปปส.ขับไล่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมาคราวนี้ก็โดนบ้างแล้ว คนก็เลยมองว่า กรรมติดจรวด ไม่ต้องรอชาติโน้น ชาติไหน เห็นกันไวๆ เพียงแค่ไม่กี่ปี คดีที่เคยทำหรือพฤติกรรมที่เคยก่อกลับมาย้อนรอย ย้อนหลัง โดนเข้ากับตัวเองบ้าง ต้องเรียกกันว่า ไม่รู้จะรู้สึกว่า เป็นกรรมหรือเปล่า

ล่าสุดสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ได้ออกแถลงการณ์ ขอให้มีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ส.บ.ม.ท.ได้ติดตามการบริหารกระทรวงศึกษาธิการของนายณัฏฐพลแล้วเห็นว่าเป็นผู้ที่ขาดความเหมาะสม ขาดความชอบธรรม และไม่มีความไว้วางใจที่จะให้บริหารกระทรวงนี้ต่อไป โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ค.2562 คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้เข้าพบนายณัฏฐพล พร้อมทั้งเสนอแนะให้พิจารณาข้อเสนอที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา

ไม่ว่าจะเป็นการขอให้คุณครูสอนหนังสืออย่างเดียว, ขอให้เพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัด, ขอให้เพิ่มเงินค่าตอบแทนพิเศษให้ครูที่ทำงานในถิ่นทุรกันดาร, ขอให้เรียกใช้บัญชีผู้สอบขึ้นบัญชีผู้อำนวยการโรงเรียนข้ามจังหวัดได้, ขอให้ปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน, ขอให้ปรับเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่เรียน และขอให้ดำเนินการให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรง ซึ่งนายณัฏฐพล ได้รับปากในที่ประชุมว่าจะรีบดำเนินการพิจารณาตามที่สมาคมฯเสนอแนะ

แต่บัดนี้เวลาล่วงเลยมามากกว่าหนึ่งปี นายณัฏฐพล ก็มิได้ดำเนินการใด ๆ หรือแจ้งผลการดำเนินการใด ๆ รวมถึงแจ้งให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคใด ๆ ที่ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตามที่ได้สัญญาไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามิได้ใส่ใจที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้ง ๆ ที่ปัญหานั้น ๆ เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ สมาคมฯ เรียกร้องให้นายณัฏฐพล ปฏิบัติตามมติของสภาการศึกษาที่ได้มีมติให้เพิ่มเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัด

ส่วนที่นายณัฏฐพล ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า หากนักเรียนทำผิดกฎหมาย นายณัฏฐพล ก็สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับนักเรียนนั้น สมาคมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การให้สัมภาษณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ที่ขาดจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญสมาคมฯ ได้ติดตามผลงานการบริหารของนายณัฏฐพล ในระยะเวลามากกว่าหนึ่งปีมาแล้วไม่พบว่ามีผลงานใด ๆ ที่เป็นการทำให้การศึกษาดีขึ้น ไม่พบว่ามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใด ๆ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

สมาคมฯ เห็นว่า นายณัฏฐพล เป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีอีกต่อไป จึงขอเรียกร้องให้ นายณัฏฐพล ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนให้บุคคลอื่นที่เหมาะสมและมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารการศึกษามาปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐมนตรีต่อไป หากไม่มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ สมาคมฯ จะร่วมมือกับองค์กรครูอื่น ๆ ทุกองค์กร ดำเนินการเชิญชวนครูทั้งประเทศแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในทุกช่องทางเพื่อเรียกร้องให้นายณัฏฐพล พ้นจากตำแหน่งต่อไป

หรือว่า บังเอิญก็แล้วแต่คิดได้ แต่ว่า ถ้าคนเราอยู่บนพื้นฐานของความจริง อะไรเกิดต้องยอมรับกันไป อะไรจะดับ จะขึ้น จะตั้งอยู่ ค่อยๆสลายไป เป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติของสัจธรรมในโลกนี้ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง เรามักจะพูดกันเชื่อว่า เป็นเช่นนั้น แล้วก็เป็นแล้วหลายราย หลายคนที่ได้กระทำเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องประสบเคราะห์กรรมเหมือนที่ตัวเองเคยทำไว้กับใครต่อใคร

ยิ่งเป็นเคราะห์กรรมที่ทำกับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งแม้รัฐบาลก็ย่อมมีคนตอบสนองได้แรงมากกว่าทำกับคนธรรมดา หรือสัตว์เล็ก สัตว์น้อย คนด้อยวาสนาไม่เท่าไร คนมีวาสนามาไล่บังคับกันนี่ เขาบอกว่า บาปก็ย่อมแรงเป็นธรรมดา นี่ก็ถึงคราวที่เรียกกันว่า เข้าทางของบาปกรรม ทำเช่นไรมักจะให้เป็นเช่นนั้น ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นก็ถึงตัวเป็นธรรมดา

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login