- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 8 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
พิษโอษฐภัย
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 ส.ค. 63)
เมื่อพิธีกรชื่อดังอย่าง ม้า อรนภา กฤษฎี เชื่อว่า ทุกคนคุ้นหน้า คุ้นตา ที่ออกมาโพสต์ในเฟสบุ๊ก ทำให้เกิดการต่อต้าน ผลที่สุดก็ต้องอำลาวงการ หยุดบทบาท หลังจากถูกกระแสให้แบนสินค้าและรายการที่ ม้า อรนภา เป็นพิธีกรและพรีเซ็นเตอร์
อีกคนหนึ่ง คือ คุณเหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ พิธีกรชื่อดังอีกคน ที่เคยขึ้นเวทีกปปส.และก็ยุให้เกิดความรุนแรง โดยถูกชาวเน็ตเรียกร้องให้รายการปลดคุณเหมี่ยว ออกจากพิธีกร และยังมีอีกหลายคนที่กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า การจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรในช่วงนี้ ต้องคำนึงว่า เป็นโอษฐภัยมั้ย ถ้าเกิดเป็นโอษฐภัย ซึ่งโบราณ บอกว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
และการพูดด้วยความคึกคะนอง หยาบๆคายๆ เข้าลักษณะ ปลาหมอตาย เพราะปาก อะไรต่ออะไรคนไทยเราได้ยินคำพวกนี้เยอะ ถ้าคำสูงหน่อย เรียกว่า โอษฐภัย คือ ภัยเกิดจากปาก ทีนี้หลายคนคงได้ยินคำพูดในช่วงที่เรายังไม่ได้พูด เรายังถือว่า เป็นนายคำพูด แต่พูดไปแล้ว คำพูดเป็นนายเรา ตรงนี้ ”น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดฝากไว้นานแล้ว แต่ว่า มันก็อดไม่ได้ที่จะมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หลายคน หลายท่านเป็นนักพูดทำให้พูดถึงคนรุ่นเก่า จะเป็นคุณพิชัย วาสนาส่ง ,อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล, คุณศันสนีย์ นาคพงษ์ ,คุณกรรณิการ์ ธรรมเกสร คนพวกนั้น ถือว่า ผ่านพ้น รอดพ้นมาได้อย่างดี
ตอนนี้ก็มีหลายคนที่เพลี่ยงพล้ำและก็มีหลายคนที่รอดพ้น ซึ่งระหว่างรอดพ้นกับเพลี่ยงพล้ำใครควรจะมากกว่ากัน น้อยกว่ากัน อันนี้ยังไม่ได้ทำการสำรวจ แต่แล้วสรุปว่า ผู้พูด เขาบอกปลาหมอตายเพราะปาก มันก็ต้องสังวร ระวังกันไป แต่ก็อย่างว่า คนอยู่กับปาก กับไมค์ พอขึ้นบนเวทีก็อย่างหนึ่ง พอขึ้นโรง ขึ้นศาลก็ไปอีกแบบหนึ่ง
แต่เอาละ โบราณเขาบอกว่า เสน่ห์อยู่ที่ปาก เสนียดก็อยู่ที่ปาก คนจะรัก จะเกลียดก็อยู่ที่ปาก ได้ดิบ ได้ดีก็อยู่ที่ปาก เสียหายวายวอดก็เพราะปาก ดังนั้น นิทานเรื่องปากนี่มีไว้หลายเรื่อง มีสักเรื่องหนึ่งเขาเรียกว่า ลูกสาว 4 คนของตายาย ไอ้โจรสลัดมันแก้ได้หมดหลังจากยายลอยแพไป เขามีคำกลอนบอกว่า อีนางคนหัวปลีชอบมีแต่ผัวเปลี่ยนตัวไม่เว้นแต่ละวัน นางที่ 2 รองลงมานั้น มันกินจุ นางคนที่ 3 มันขี้ลัก ขี้ขโมยเหลือเกิน ส่วนนางคนสุดท้อง น้องสุดท้าย แสนจะเลวร้ายกว่าใครสิ้น
มันชอบใช้ลมลิ้นก่อกรรม นินทาคนนี้ เสียดสีคนโน้น ก่อความรำคาญทุกเช้าค่ำ จน 2 ตายายต้องหน้าดำ เพราะนางลูกเจ้ากรรมที่ 4 คนนี้ ก็ลอยแพไป แต่โจรสลัดสงสารดึงขึ้นเรือไป พอรู้แต่ละคนแก้นิสัยได้หมด เหลือไม่ได้อยู่คนเดียว นางคนมีผัวนี่เปลี่ยนตัวไม่เว้นแต่ละวัน ก็เลยไปเป็นเมียโจรสลัด ถูกเรียกคุณนายก็ไว้เนื้อ ไว้ตัว ไม่กล้ามั่วกับลูกน้องโจร ส่วนนางคนกินจุ โจรให้ไปเป็นแม่ครัว มันกินจุไม่หวาด ไม่ไหว หนักท้องไส้เสีย มันเลยรู้จักประมาณการกินแก้ได้
ส่วนคนขี้ลัก ขี้ขโมย โจรสลัดให้นับเงิน เพราะเงินเยอะ นับไม่ไหว เบื่อ มันก็เลยเลิกลักขโมย สำหรับนางคนสุดท้าย คนปากเสียนี่ ให้ไปอยู่หัวเรือก็ไปยุให้พวกที่อยู่หัวเรือตีกัน ไปอยู่ท้ายเรือก็ทำให้คนที่อยู่ท้ายเรือทะเลาะกัน จนโจรสลัดต้องจับลอยแพต่อไป จนกระทั่งนกอินทรีตัวผู้ ตัวเมีย หยิบไม้มาให้ขึ้นฝั่ง มันก็ไต่มายังนกตัวผู้ พูดจาจู๋จี๋ แล้วก็ไต่ไปหานกตัวเมีย แล้วพูดว่า นกตัวผู้มาพูดจาเกี้ยวพาราสีฉัน ชอบฉัน รักฉัน นกตัวเมียก็โมโหหึงปลอยไม้ นางนี้ก็ร่วงหลุดลงมาจมน้ำตาย เรื่องก็มีแค่นี้ว่า ปากเสียนี่แก้ยาก เรื่องอื่นๆยังพอแก้ได้ เอาละ แต่คนที่พลาดไปก็คงไม่ถึงขั้นปากเสียอะไรมากมาย อาจจะเผลอเป็นชั่วครั้ง ชั่วคราว แต่บางคนก็ค่อนข้างจะแรงไปหน่อย เรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจก็แล้วกัน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login