บ้านเมืองสงบต้องปฏิรูปศาล

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4 ก.ย. 63)

ช่วงนี้มีคนมาพูดคุย วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการศาล กระบวนการทางกฎหมายของประเทศเรา บ้านเมืองเรานี่ค่อนข้างน่าจะต้องมีการปฏิรูปเรื่องการศึกษา เรียนรู้ให้ทั้งประชาชนและทางศาลได้อยู่ในลักษณะดีขึ้น อย่างที่อาตมาเคยพูดว่า อายุ 70 ปี ก็ไม่เคยมีใครวิพากษ์วิจารณ์ศาลให้ฟังมากมาย ก่ายกองถึงขนาดนี้ และเราพูดไปคงจะอันตรายหรือว่า หมิ่นศาลได้ เพราะไม่มีใครค่อยกล้าจะทำกัน

แต่เอาละ เรามาดูว่า คนที่อยู่ในวงการด้านกฎหมาย เคยผ่านศาล ผ่านตำแหน่งใหญ่ๆในศาลมามากมายมีหลายท่าน อาตมาเอาที่ว่า นึกดูแล้วตอนนี้ถ้าไม่มีเรื่องกรณีโฉนดถุงกล้วยแขกเกิดขึ้นก็เชื่อเหลือเกินว่า จะไม่มีคำว่ารู้อะไรใหม่ๆ แปลกๆ เราเคยเรียนจบแค่ป.4 ไม่ได้รู้เรื่องนิติศาสตร์ แต่มาคราวนี้ต้องรู้โดยไม่คิดว่า จะต้องรู้ แต่ก็รู้ขึ้นมา เพราะมีคนเอาข้อมูล ข่าวสารต่างๆ เอาคดีต่างๆที่ตัวเองผ่านโรง ผ่านศาลมาด้วยความช้ำชอก ด้วยความเจ็บปวด เอามาระบายให้ฟัง

จนกลายเป็นว่า เดี๋ยวนี้ คนมาวัดเมื่อก่อนตั้งใจมาทำบุญ มาเที่ยวบรรยากาศ ดูวัด ไม่มีคำว่า จะมาแบบปรับทุกข์ แต่ตอนนี้มาปรับทุกข์มากอย่างชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนว่า เขาเดือดร้อนโน้นนี่นั่นจนกระทั่งมีคนส่งข้อความต่างๆของบุคคลสำคัญในด้านกฎหมายท่านหนึ่งที่อาตมารู้สึกสะดุดใจ ไม่รู้ว่า ท่านพูดจริงหรือเปล่า ถ้าท่านพูดไม่จริง อาตมาก็ต้องขออภัยต่อผู้อ่าน ผู้รู้ แต่ถ้าท่านพูดจริงก็ต้องบอกว่า โดนใจเหลือเกิน มีหลายท่านที่เขาเก็บๆมาให้ ท่านคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ชี้เปรี้ยงมาเรื่องศาลไว้

โดยท่านคณิต บอกว่า ถ้าไม่ปฏิรูปศาล ความสงบเกิดได้ยาก ที่ผ่านมาศาลไทยไม่เป็นโล้เป็นพาย ปฏิบัติไม่ถูกต้องในหลายๆเรื่อง เราพยายามปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปการศึกษา แต่ไม่เคยปฏิรูปศาล นี่ คือ ท่านคณิต ณ นคร ท่านนี้เชื่อเหลือเกินว่า หลายท่านคงจะได้ยิน ได้ฟังชื่อนี้มานาน ต้องถือว่า เป็นกูรูด้านกฎหมาย นานๆจะมีกูรูกฎหมายออกมาพูดแบบนี้ ซึ่งธรรมดาแล้วมีคำว่าที่ว่า แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน นี่เป็นสำนวนของสื่อ

เรียกว่า พวกสื่อด้วยกันไม่ตรวจสอบกัน ซึ่งในวงการศาลก็เหมือนกัน เขาจะไม่แตะต้องกัน เหมือนอย่างที่อาตมาไปเดินเรื่องโฉนดถุงกล้วยแขกใหม่ๆ แล้วมีเรื่องฟ้องร้องกัน ไปที่ไหนก็ตามจะได้ยินคำพูดคำนี้ คือ คำว่า เราไม่อยากก้าวก่ายกัน ไม่ว่าจะเป็นป.ป.ช.หรือองค์กรอะไรต่างๆที่เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ไปเกือบหมดที่เขาต้องไปอย่างนั้นๆ มีคนบางคนมาเล่าให้อาตมาฟังว่า เขานี่หมดเนื้อ หมดตัวขึ้นโรง ขึ้นศาล สู้กันเป็น 17 ปีและเขาหมดตัว บ้านช่องที่ดินมีตั้งหลายไร่หมด

จนเขาประกาศตัวเหมือนกับว่า ดับเครื่องชนกับศาลว่างั้นเถอะ เรียกว่า เป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อน ถ้าสื่อมวลชนหรือใครสนใจก็ลองมาคุยกับคนๆนี้ดู เผื่อจะเป็นข่าวใหญ่ หรือมีอะไรที่ไม่เคยมีก็แล้วกัน คำว่า ดับเครื่องชนกับศาลนี่ ถือเป็นคำที่ท้าทายมากมาย เอาละ สรุปแล้วอาตมา ถ้าไม่เกิดเรื่องโฉนดถุงกล้วยแขกก็คงจะไม่รู้แดนสนธยาเกี่ยวกับศาลไทยตามที่อาจารย์คณิตได้บอกว่า ถ้าต้องการความสงบต้องปฏิรูปศาลไทย

ไม่อย่างนั้น เราจะอยู่กันไม่สงบ บทความนี้มันชัดเจน ถ้าเป็นความจริง ขอทวนใหม่สักเที่ยวหนึ่งว่า ถ้าไม่ปฏิรูปศาล ความสงบเกิดได้ยาก ที่ผ่านมาศาลไทยไม่เป็นโล้ เป็นพาย ปฏิบัติไม่ถูกต้องในหลายๆเรื่อง เราพยายามแต่ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปการศึกษาอย่างโน้น อย่างนี้ ระบบราชการอะไรก็แล้วแต่ ปฏิรูปตำรวจ แต่ไม่ปฏิรูปศาลสักทีหนึ่ง ถ้าต้องการให้บ้านเมืองนี้สงบ ท่านบอกต้องปฏิรูปศาล เราไม่เคยมีการเสนอเรื่องปฏิรูปศาลเลย และอาตมาก็ไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยได้ยินแต่มีคนส่งข้อความนี้มาให้ ถ้าไม่จริงขออภัยท่านคณิตด้วย แต่ถ้าจริง ขอบอกสั้นๆว่า โดนใจที่สุด

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login