CAT จับมือ Microsoft ให้บริการ ExpressRoute เชื่อมต่อข้อมูลบนคลาวด์อย่างปลอดภัย

• Tweet
• 

CAT จับมือ Microsoft Azure คลาวด์แพลตฟอร์มระดับโลก ให้บริการ Direct Cloud Connect for Microsoft Azure ExpressRoute เพื่อให้การรับส่งข้อมูลบนคลาวด์มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการเชื่อมต่อในรูปแบบ Private Network รองรับการใช้งานบริการคลาวด์ ที่มีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมตอบโจทย์นโยบาย Thailand 4.0 economy และผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Digital Hub แห่งอาเซียน

คุณกวินนันทน์ ภัทร์ชนันท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์สื่อสารข้อมูล บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า การร่วมมือระหว่าง CAT และ Microsoft ครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้บริการคลาวด์มีเสถียรภาพและความปลอดภัยมากกว่าเดิม เนื่องจากปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างเห็นประโยชน์ของคลาวด์และมีความจำเป็นต้องใช้คลาวด์มากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องลงทุนเพิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณ์และบริการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
“CAT ได้จับมือเป็นพันธมิตร ExpressRoute Partner เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายความเร็วสูงตรงไปยัง Microsoft Azure ที่มีความเสถียรและปลอดภัยสูงสุด ซึ่งจะทำให้ลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนของ CAT สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสำนักงานหรือศูนย์ข้อมูลของลูกค้า ไปยัง Microsoft Azure ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น IaaS (Infrastructure as a service) , SaaS (Software as a service) หรือ PaaS (Platform as a service) ของ Microsoft โดยสามารถใช้งานผ่านโครงข่ายส่วนตัวความเร็วสูงของ CAT ซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้นในการใช้งานระบบ Cloud อาทิเช่น ความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูล (Low Latency), ความสมบูรณ์ของข้อมูล (Low Loss) และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล (Low Jitter) ซึ่งแตกต่างจากการเชื่อมต่อแบบเดิมที่ผู้ใช้บริการเชื่อมต่อไปยังคลาวด์ผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่เพียงเท่านั้น CAT ยังมีจุดแข็งในเรื่องโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ที่สามารถเชื่อมต่อลูกค้าไปยังคลาวด์ ในต่างประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพสูงสุด พร้อมเส้นทางสำรองที่หลากหลาย และสามารถบริหารจัดการดูแลคุณภาพวงจรได้ตลอดเส้นทาง ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ”

CAT มั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะต่อยอดจุดแข็งของทุกฝ่าย และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กลุ่มลูกค้าของ CAT ทั้งภาครัฐและเอกชน ส่วนไมโครซอฟท์มี CAT เป็นพันธมิตรจะตอบโจทย์ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะภาครัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่มีข้อมูลมหาศาลในมือได้ดีขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกความเร็วที่ต้องการได้หลายระดับตั้งแต่ 2Mbps ถึง 10Gbps
คุณกวินนันทน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เบื้องต้น CAT มีแผนจับมือกับผู้ให้บริการคลาวด์อีกหลายราย โดย Microsoft เป็นรายแรกและเป็นรายใหญ่ในประเทศไทย การร่วมมือครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี คาดว่าหลังโปรโมทจะมีลูกค้าของ CAT มากกว่า 15% เริ่มนำร่องใช้บริการนี้ในเฟสแรกก่อนที่ตลาดจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด และไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ลูกค้าของ CAT และ Microsoft ในกลุ่มประเทศลาว พม่า และกัมพูชา ก็สามารถใช้บริการนี้ได้และได้สิทธิประโยชน์ด้านราคา และความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดียวกัน”
ที่สำคัญความร่วมมือนี้ยังส่งเสริมเศรษฐกิจไทยได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากการลงทุนของ Microsoft จะมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการสร้างงาน และการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่และวิศวกรชาวไทย ทำให้เกิดการเรียนรู้สถาปัตยกรรมโครงข่ายและระบบคลาวด์ ช่วยส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี ในระยะยาวยังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาสาธารณสุข โรงพยาบาล และการศึกษาในประเทศไทยอีกด้วย

ด้าน คุณวสุพล ธารกกาญจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคลาวด์ Microsoft Azure บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจไทยเกิดความจำเป็นของระบบ Cloud Computing มากขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มของธุรกิจทั่วโลก ผลสำรวจระดับโลกพบว่า ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บในระบบคลาวด์ทั่วโลกจะมีปริมาณรวมกันมากกว่า 180 เซตตาไบต์ในอีก 5 ปีนับจากนี้ ปริมาณมหาศาลนี้สะท้อนความจำเป็นของการลงทุนในระบบคลาวด์ขององค์กรเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Hybrid Cloud ที่ขยายตัวตาม Public Cloud เป็นตัวเลข 2-3 หลักต่อปีเพราะช่วยตอบโจทย์เรื่องความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ แต่ปัญหาคือการใช้อินเทอร์เน็ตธรรมดาเพื่อเชื่อมต่อไปยังคลาวด์นั้น อาจไม่ใช่คำตอบ 100% เพราะเสี่ยงต่อการเกิดความล่าช้าหรือดีเลย์ สิ่งที่ Microsoft ร่วมมือกับ CAT จึงเป็นการตอบโจทย์ให้ธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการต่อท่อตรงหลังบ้านขององค์กรในรูป Virtual Private Network ตรงไปยังบริการคลาวด์ เพื่อทำให้ลูกค้าได้ความเร็ว, แบนด์วิดท์ตามที่การันตี และรักษาเสถียรภาพบริการด้วย SLA (Service Level Agreement) ตามจริง”
“การที่ไมโครซอฟท์ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ CAT ในการให้บริการ CAT Direct Cloud Connect for Microsoft ExpressRoute เราเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเข้มแข็งในการปฏิรูปภาคธุรกิจไทยรวมไปถึงกลุ่มรัฐวิสาหกิจในด้านดิจิทัลได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันนี้ CAT เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมครบวงจรแก่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าการจับมือครั้งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานราชการอย่างเป็นรูปธรรม และในส่วนของบริการคลาวด์หรือ Microsoft Azure เองนั้น Microsoft เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ลงทุนเรื่อง data connectivity ที่ให้บริการลูกค้าจากไทยไปยังสิงคโปร์และฮ่องกง เพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยได้รับความคุ้มค่าจากการใช้งาน Microsoft Azure คลาวด์ด้วยเงินลงทุนที่คุ้มค่ามากที่สุดมากที่สุด สำหรับการร่วมมือกับ CAT ในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถนำเสนอบริการครบวงจรที่เชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นถึงปลายทางให้กับบริษัทภาครัฐและเอกชน”
ไมโครซอฟท์พบว่าปัจจัยสนับสนุนให้คลาวด์มีบทบาทในประเทศไทย คือการที่ธุรกิจมองเห็นความจำเป็นของคลาวด์ในยุค Digital Transformation ทำให้หลายองค์กรรับรู้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถยกระดับธุรกิจได้จริง ที่ผ่านมามีตัวอย่างของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้คลาวด์ของไมโครซอฟท์ให้บริการแอปพลิเคชันเยียวยาเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวสะท้อนให้เห็นชัดว่าคลาวด์สามารถขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยได้ เช่นเดียวกับบริการเพื่อสุขภาพ ที่หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขนำคลาวด์ของเราไปใช้กับระบบการจัดการยาและเวชภัณฑ์ในแต่ละโรงพยาบาลของไทย เป็นต้น
นายวสุพลกล่าวปิดท้ายว่า “บริการ Microsoft ExpressRoute นี้ทำให้องค์กรมีการเชื่อมต่อในแบบส่วนตัวจึงมีความเสถียรและรวดเร็ว อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยมาตรฐานการดูแลด้านความปลอดภัยระดับโลกจากไมโครซอฟท์ จึงมั่นใจว่าจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยขับเคลื่อนสู่ความเป็น Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้”
สอบถามรายละเอียดบริการ CAT Direct Cloud Connect ได้ที่ www.cattelecom.com หรือ CAT Contact Center 1322

You must be logged in to post a comment Login