“จตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ ตุ๊กตาลูกเทพ มาเรียม” อย่างมงาย

• Tweet
• 

คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ

ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 9-16 ต.ค. 2563)

เครื่องรางต่างๆเกิดขึ้นเพราะความศรัทธาอย่างมืดบอด ความโลภ อยากรวย โดยมีการปลุกระดมด้วยสื่อต่างๆ และมีพวกดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงมาช่วยกันกระพือ พร้อมกับการโพนทะนาความศักดิ์สิทธิ์จากบุคคลต่างๆ เช่น ผู้ที่ร่ำรวยขึ้น หรือผู้ที่รอดชีวิต

เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังนั้น “เครื่องราง หมายถึง ของที่นับถือว่าป้องกันอันตราย ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า [1] เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ เหล็กไหล เครื่องรางถือเป็นวัตถุมงคลประเภทหนึ่ง ของขลัง คือของที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ มีพลังหรืออำนาจที่อาจบันดาลให้เป็นไป หรืออาจบันดาลสิ่งที่ต้องประสงค์สำเร็จได้ สองคำนี้มักนิยมใช้คู่กันเป็นเครื่องรางของขลัง เครื่องรางของขลังปกติเป็นเรื่องนอกคำสอนของศาสนาพุทธ ถูกจัดอยู่ในประเภทไสยศาสตร์มากกว่า แต่เป็นที่นิยมกันมาแต่โบราณ ด้วยเห็นว่าพลังหรืออำนาจนั้นมาจากพุทธคุณ” <1>

เครื่องรางของขลังหรือวัตถุมงคลต่างๆนั้น รวมตั้งแต่พระเครื่อง จตุคามรามเทพ ไอ้ไข่ ตุ๊กตาลูกเทพ มาเรียม ปลากัด ไซดักทรัพย์ นางกวัก เบี้ยแก้ ปลัดขิก ตะกรุด ผ้ายันต์ เสือ สิงห์ ลิง หนุมาน หมากทุย ราหูอมจันทร์ ประคำ แหวน ฯลฯ บางอย่างก็อยู่ต่อไปเรื่อยๆ เช่น พระเครื่อง เพราะมีผู้นับถือเป็นชาวพุทธจำนวนมาก แต่บางอย่างก็เป็นการนับถือเฉพาะกลุ่ม เช่น นางกวัก เพื่อการค้าขายรุ่งเรือง เป็นต้น

ขณะนี้ “ไอ้ไข่” กำลังดัง โดย “กระแสมาแรงของ “ไอ้ไข่” กุมารเทพแห่งวัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ดึงดูดผู้มีศรัทธาจากทั่วสารทิศให้มากราบไหว้กันแน่นขนัดทุกวัน โดยเฉพาะยิ่งใกล้วันหวยออกยิ่งล้นหลาม… ทุกครั้งที่มีใครขอพร “ไอ้ไข่” แล้วสัมฤทธิผล เราจะได้ยินเสียงจุดประทัดดังสนั่นไปทั้งวัด… สถิติจุดประทัดปังสุดทีเดียวถึง 8 ล้านนัด ล่าสุด “กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ” โพสต์คลิปถวายประทัด 130 กล่อง” แต่ “ไอ้ไข่” <2> คงไม่ดังเท่าจตุคามรามเทพ เพราะติดเรื่อง “ลิขสิทธิ์” ที่ไม่สามารถ “ปั๊ม” เหรียญได้มากมาย

กรณีจตุคามรามเทพที่เคยดังที่สุดในยุคปี 2548-2550 นั้น ต่อมาเสื่อมลง เพราะ

1.การจัดสร้างมากเกินไปและไม่พิถีพิถัน คนที่วิ่งเข้ามาเหมือนคนเข้ามาเล่นหุ้น ต้องการซื้อถูกแล้วขายแพง

2.กระแสจตุคามฯตอนนั้นไม่ใช่ของจริง มันเป็นฟองสบู่ เหมือนที่เคยมีกระแสการจองรถแล้วขายใบจอง

3.เป็นเรื่องของคนที่โดนความโลภเข้าครอบงำ

4.ฟ้าดินสร้างคนให้มีกิเลสมาก หมายความว่าคนเราโลภเกินควร คือพอเรามีอะไรแล้วมันพัฒนาไปสู่ความโลภ <3>

มีข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า “ปรากฏการณ์นี้ชี้ชัดว่าสังคมไทยเรา รวมทั้งที่เมืองนครฯยังอ่อนปัญญาอย่างยิ่ง ไม่ว่าในเชิงหลักการเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ หรือในเชิงพุทธิปัญญาว่าด้วยความรู้ที่ถูกถ้วนและถูกต้อง หลอกชวนชักจูงกันได้ง่ายๆด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการตลาดพร้อมกับคำเล่าลือเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ซึ่งถ้ามองในทางบวกถือเป็นการช่วยชี้ให้เราเห็นว่า ทั้งๆที่เร่งพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทางวัตถุ ความเจริญและสะดวกสบายนานาภายใต้เครื่องมือสำคัญคือการศึกษาที่มีสถาบันการศึกษาอยู่เต็มประเทศ ใครๆก็แข่งแย่งกันศึกษาหาปริญญายกฐานะกันทั้งเมือง แต่ระดับของสติปัญญาของคนไทยยังได้ประมาณนี้เท่านั้น หลอกล่อง่ายดายเหลือหลาย พวกเราชาวพุทธยังมีงานให้ทำอีกมากมาย”

คติของผู้ประเมินค่าทรัพย์สินมีว่า “Price Is What You Pay, Value Is What You Receive” ราคาคือสิ่งที่เราจ่ายออกไป ส่วนมูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ ราคาจ่ายออกไป 1,000 บาท เช่น ซื้อนาฬิกา 1 เรือน แต่มูลค่าอาจมากกว่านี้ เพราะคนขายร้อนเงินจึงขายถูก หรือมูลค่าอาจต่ำกว่านี้ เราเสียค่าโง่ไปนั่นเอง เราจึงต้องวัดค่าให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เราได้รับนั้นคุ้มไหม เช่น กรณีในอดีต จตุคามรามเทพก็เคยมีราคาสูง แต่ต่อมาราคาอาจติดลบเพราะต้องขนไปทิ้งเป็นเศษอิฐอยู่ข้างคลอง <4> ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าว เป็นต้น

กระแสจตุคามฯตกในเวลาเพียง 2 ปีก็หายไป <5> เพราะไม่ได้แสดงความศักดิ์สิทธิ์จริงดังการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหวังขายวัตถุมงคล คำถามที่น่าสนใจก็คือ กระแสจตุคามฯจะกลับมาใหม่ไหม คนขายเหรียญจตุคามฯคงอยากให้กระแสนี้กลับมาเพื่อขายสินค้าที่เหลือ (ทิ้ง) อยู่มากมาย แต่ในความเป็นจริงคงกลับมายาก ก็คงเหมือนเครื่องราง “แฟชั่น” อื่นๆที่มาแล้วก็หายไป ส่วนที่ใครยังนับถือวัตถุมงคลใดก็คงไปกราบไหว้ที่จังหวัดแหล่งกำเนิดได้ตามศรัทธา

อันที่จริงประเทศไทยของเราควรห้ามสื่อต่างๆนำเสนอข่าวไสยศาสตร์ หรือเรื่องที่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และหากพิสูจน์ได้ว่าข่าวที่นำเสนอนั้นไม่เป็นความจริง สื่อนั้นๆควรต้องรับผิดชอบเสียค่าปรับ หรือ “ปิดสื่อ” ที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมเหล่านี้ ยิ่งกว่านั้นดารานักร้องที่ช่วยกระพือข่าวส่งเดชก็ควรต้องจ่ายค่าปรับแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกับการรีวิวสินค้าที่ผิดกฎหมายในขณะนี้ การเข้มงวดกับสื่อแบบนี้ก็จะไม่ทำให้เกิดกระแส “จตุคามลามทุ่ง” แบบที่ผ่านมา

ฝากข้อคิดของพุทธทาสไว้ดังนี้ :

• กรรมดี ดีกว่ามงคล

สืบสร้างกุศล ดีกว่านั่งเคล้าของขลัง

• พระเครื่อง ตะกรุด อุทกัง ปลุกเสกแสนฉมัง

คาดมั่ง แขวนมั่ง รังรุง

• ขี้ขลาด หวาดกลัว หัวยุ่ง

กิเลส เต็มพุง มงคล อะไร ได้คุ้ม

• อันธพาล ซื้อหา มาคุม

เป็นเรื่อง อุทลุม นอนตาย ก่ายเครื่อง รางกอง

• ธรรมะ ต่างหากเป็นของ

เป็นเครื่องคุ้มครอง เพราะว่าเป็นพระองค์จริง

• มีธรรม ฤามี ใครยิง

ไร้ธรรม ผีสิง ไม่ยิงก็ตายเกินตาย

• เหตุนั้นเราท่านหญิงชาย

เร่งขวน เร่งขวาย หาธรรม มาเป็นมงคล

• กระทั่งบรรลุ มรรคผล หมดตัว หมดตน

พ้นจากเกิด แก่ เจ็บ ตาย

• บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใจกาย

อุปัทวะทั้งหลาย ไม่พ้อง ไม่พาน สถานใด

• เหนือโลก เหนือกรรม อำไพ

กิเลสา- สวะไหน ไม่อาจย่ำยี บีฑาฯ

อ้างอิง

<1> Wikipedia. เครื่องราง. https://bit.ly/34a3gzM

<2> ไทยรัฐ. ขออะไรก็สมหวัง “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ ของหายได้คืน..ยอดขายทะลุเป้า..บันดาลโชคลาภ. https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1938088

<3> สารคดี. ย้อนรอยจตุคามรามเทพ ปรากฏการณ์ของเทพที่เลือนหาย. มีนาคม 2553. http://www.sarakadee.com/2010/04/07/jatukam/

<4> Teenee. ทิ้งจตุคามเกลื่อนนับแสนองค์ที่นครฯ. https://bit.ly/2lFE9Tc

<5> สำนักข่าวไทย. ข่าวดังข้ามเวลา ตอน จตุคามรามเทพ (คลิปเต็มรายการ) https://www.youtube.com/watch?time_continue=1&v=8nd-vqgV_2s

You must be logged in to post a comment Login