วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

มีทุกข์ศรัทธาก็มา

On October 26, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 ต.ค. 63)

เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ที่พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระพรหมเสนาบดี กรรมการมหาเถรสมาคม พระธรรมรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระเถรานุเถระ  และมี พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อม นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกอบด้วย  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ โดยมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีขาวเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง

สำหรับพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ผ่านพ้นอุปสรรคและอันตรายทั้งปวง โดยใช้บทเจริญพระพุทธมนต์ที่ใช้ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ใช้เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งประยุกต์มาจากพิธีพราหมณ์กับพิธีทางพระพุทธศาสนา เพื่อป้องกันภัยพิบัติและอุปัทวันตรายทั้งปวง อีกทั้ง ให้เกิดความสุข ความสามัคคี ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและประเทศชาติ

โดยประชาชนต่างให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ และท่านพล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศไม่ลาออกจากตำแหน่งตามที่ม็อบเรียกร้อง ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องเรียกว่า ยามวิกฤตความขัดแย้งในบ้านเมืองในแต่ละครั้ง ศาสนาก็เป็นหนึ่งในภาวการณ์อย่างนั้น ไม่ว่าจะมีการระลึก นึกทำบุญให้ประเทศ ทำบุญให้บ้าน ให้เมือง สวดมนต์เพื่อให้เกิดความสิริมงคลต่อบ้านเมืองอย่างที่ท่านพล.อ.ประยุทธ์ ได้นำครม.ทำบุญให้บ้านเมืองในครั้งนี้

การทำบุญให้กับประเทศก็เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุข เรียกว่า เมื่อมีทุกข์ศรัทธาก็มา ซึ่งทุกข์เป็นเหตุ ทำให้เกิดความศรัทธา ถ้าสบาย เราก็อาจสบายใจ ชะล่าใจ ประมาท ไม่คิดที่จะวางแผนแก้ไข ป้องกัน แต่เวลาทุกข์ขึ้นมาเจอสิ่งที่สะท้อนกลับมาถึงเราอย่างเจ็บ เราก็ต้องระมัดระวัง เรื่องนี้ จึงกลายเป็นเรื่องที่เขาบอกว่า ถ้าคนไม่เห็นโลงศพ จะไม่หลั่งน้ำตา และเราก็จิตนาการได้ว่า ถึงขั้นได้เห็นการล้มตาย บาดเจ็บ มันก็เหมือนกับได้เห็นบาดแผลของความชอกช้ำที่จะเกิดมากระหน่ำซ้ำเติมประเทศให้พบภาวะทางตันมากไปกว่านี้อีก

เพราะว่า น้ำท่วม ฝนแล้ง ระเบิดลง โรคเจ็บ ป่วยไข้ ยังไงก็อย่าเกิดเป็นลักษณะผีซ้ำด้ามพลอย พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ให้มีมาเล็กน้อย แล้วพวกเราก็ป้องกันอยู่ เอาอยู่ ว่างั้นเถอะ จะได้อยู่เย็น เป็นสุขกันต่อไป ไม่ต้องทุกข์ร้อน ทรมานใจ ถ้ามาไม่มาก็คงอยู่กันได้สบาย แต่ถ้าความขัดแย้งยังคงขยายวงกว้างและนำมาซึ่งการสูญเสียในอนาคตประเทศจะต้องพบกับความลำบากแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login