- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
INSET ฐานแน่นโชว์รายได้ Q3/63 โต 24% มั่นใจโค้งสุดท้ายสัญญาณดี หนุนผลงานปีนี้เข้าเป้า
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส3/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 530ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้เท่ากับ 428ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 52ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 50ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,060ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,006ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 97ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog)ของโครงการต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง โดยในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ จากโครงการงานติดตั้งวงจรกรองสัญญาณย่านความถี่ 850 MHz ตามประกาศ กสทช. และโครงการสร้างศูนย์ Data Center แบบครบวงจร ให้กับบริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ซึ่งมูลค่ารับรู้ทั้ง 2 โครงการรวม 371.47 ล้านบาท ขณะเดียวกันที่ผ่านมาบริษัทฯมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ความสามารถอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง
“ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส3/2563 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี แม้ว่าจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาการทำกำไรไว้ได้ ”
นายศักดิ์บวร กล่าวอีกว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 บริษัทฯประเมินว่าการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มี backlog ตุนไว้แล้วกว่า 2พันล้านบาท ขณะที่งานประเภท Data Center และงานการขยายโครงข่าย 5G ของผู้ประกอบการโทรคมนาคมคาดว่าจะเห็นการลงทุนมากขึ้น จึงทำให้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตระดับ 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ประเมินว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นแรงกระตุ้นการขยายการลงทุนด้าน IT จากภาคเอกชนให้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคถัดไป ดังนั้นเมื่อการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีทำให้มีปริมาณงานในมือสูงขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงนโยบายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนการเติบโตระยะยาวให้มีความมั่นคง ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายโทรคมนาคม ประมาณ 50% ,ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 40% และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring income) 10%
You must be logged in to post a comment Login