วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“อาหารปลอดภัยในโรงเรียน” กับ “คุณภาพชีวิตเด็กไทย” บริบทใหม่ (Next Normal)บนความท้าทายของ…โรงเรียน

On November 5, 2020

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยร่างกายมากขึ้น  ประกอบกระแสของเทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังมาแรง   ทำพฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับการเลือกซื้อสินค้าและอาหารที่ปลอดภัย ปลอดสารมากขึ้น สบช่องให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร(มกอช.)เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนสร้างเครือข่ายโครงการอาหารปลอดภัยในโรงเรียน(Q Canteen)อย่างหนักหน่วงในปี 2563 เพื่อสร้างการรับรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย เนื่องจากตระหนักว่าการดูแลสุขภาพอนามัยนั้นเป็นบริบทใหม่(Next  Normal) ของผู้บริโภคในสังคมปัจจุบันโดยมกอช.ได้เริ่มโฟกัสไปยังนักเรียนผ่านอาหารที่บริโภค เนื่องจากมองว่าเยาวชนไทยจะเติบโตอย่างมีคุณภาพได้จะต้องเริ่มต้นจากการบริโภคอาหารที่ได้มาตรฐานปลอดภัย ไร้สารตกค้าง  ประกอบกับแนวความคิดที่เห็นว่าโรงเรียนน่าจะเป็นตลาดสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เองจะสามารถเข้าไปเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรและอาหารให้กับเกษตรกรไทยได้

eat3

โดยนายกฤษ  อุตตมะเวทิน   เลขานุการกรม   ในฐานะรองโฆษก สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.)  กล่าวว่า   การจัดตั้งโรงอาหารปลอดภัยหรือเรียกง่ายๆว่า Q canteen ขึ้นในสถานศึกษานั้น  เพื่อเป็นแหล่งจำหน่าย แหล่งประกอบอาหารที่ได้มาตรฐาน สำหรับการสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครองรวมถึงสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ   สำหรับแนวทางในการดำเนินการ  ในช่วงนำร่องโครงการมกอช.จะชวนให้โรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเข้าร่วมโครงการ Q Canteen ตามความสมัครใจ   ซึ่งโรงเรียนเอกชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะทำหน้าที่สร้างความเข้าใจให้แก่บุคลากรของโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้ประกอบการอาหารในโรงเรียน ให้เข้าใจในเรื่องการผลิตและบริโภคอาหารปลอดภัย

สำหรับความคืบหน้าของโครงการนั้น  นายกฤษกล่าวว่า  ในปี 2563ที่ผ่านมา มกอช.ได้ดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯนำร่องแล้วจำนวน 16 โรงเรียนและในจำนวนดังกล่าวได้ยกระดับเป็นโรงเรียนต้นแบบ  Q Canteenจำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่  1.โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรี 2.โรงเรียนสมาคมสตรีไทย 3.โรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา  และ 4 โรงเรียนบีคอนเฮาส์แย้มสะอาดรังสิต  โดยมกอช.จะเข้าไปส่งเสริมให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลือกใช้วัตถุดิบสินค้า Q หรือ GAP สินค้าเกษตรปลอดภัยที่ได้รับการรับรองต่างๆ หรือสินค้าตามสอบย้อนกลับได้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารในโรงอาหารในสินค้าหลัก ได้แก่ ข้าว ไข่ ไก่ ผัก ปลา และเนื้อสัตว์ พร้อมสนับสนุนรายชื่อแหล่งผลิตหรือผู้ประกอบการสินค้า Q หรือ GAP รวมทั้งเกษตรอินทรีย์แก่ผู้ประกอบการอาหารในโรงเรียน สนับสนุนสื่อการเรียนรู้ด้านอาหารศึกษาและอาหารปลอดภัยตลอดจนร่วมจัดกิจกรรมของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ

eat2

“สำหรับความมั่นใจในโครงการQ Canteenของโรงเรียนและผู้ปกครองนั้น  คงหนีไม่พ้นเรื่องแหล่งที่มาของสินค้า วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร ทางมกอช.ได้ทำการคัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจที่มีแหล่งวัตถุดิบ แหล่งผลิตจากฟาร์มมาตรฐาน GAP ปลอดภัย เพื่อนำมาประกอบและปรุงอาหารให้แก่นักเรียน

พร้อมทั้งให้การแนะนำและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับโรงเรียนในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรและอาหาร   เช่น  พืชผัก  ไข่  เนื้อสัตว์ที่ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบอาหารให้เด็กในโรงเรียนรับประทาน  จะสั่งมาจากฟาร์มที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน GAP หรือร้านค้า ที่สามารถตามสอบแหล่งผลิตดได้ หรือ ผ่านการรับรอง“เครื่องหมาย Q” ซึ่งเป็น เป็นเครื่องหมายที่สร้างความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อสินค้าแก่ผู้บริโภคมีความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ  กลางน้ำและปลายน้ำ   เพื่อให้เด็กและเยาชนไทยได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย  ไร้สารตกค้างนำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต”“นายกฤษกล่าว

eat4

ด้านนางสาวกัญกรณ์   นุ่มอ่อน  หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป    โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรีหนึ่งในโรงเรียนต้นแบบโครงการQ Canteenกล่าวว่า โรงเรียนได้เล็งเห็นเรื่องสุขภาพอนามัยของนักเรียนเป็นเรื่องสำคัญโดยที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพเพื่อดูแลทั้งสุขภาพอนามัยของเด็ก โยงไปถึงในเรื่องการบริโภค อาหารที่ถูกถูกอนามัย   สุขลักษณะจึงได้เข้าโครงการQ Canteen

กับมกอช.เนื่องจากเป็นโครงการที่ตอบโจทย์นโยบายของโรงเรียน  เพราะเราเชื่อมั่นว่าหากเข้าร่วมโครงการแล้วสิ่งที่เด็กจะได้รับคือการได้บริโภคอาหารที่มีความปลอดภัยตั้งแต่เล็กๆรับรองได้ว่าสมอง ความคิดของเด็กๆจะสามารถแตกยอดได้ดีมากๆและร่างกายก็แข็งแรงขึ้นส่วนประโยชน์ที่ผู้ปกครองได้รับคือ  มีความไว้วางใจว่าบุตรหลายของพวกเขาได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งทางด้านคุณภาพวิชาการและคุณภาพชีวิตของลูกๆ  เมื่อเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ไปผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าลูกจะมีสุขภาพที่ดี มีร่างกายที่แข็งแรงและพัฒนาการทั้ง 4ด้าน คือ  ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านจิตใจและด้านสติปัญญา ดีขึ้นอย่างแน่นอน

eat5

ด้านนางสาวดวงใจ  ตระกูลช่าง  ผู้ได้รับใบอนุญาตโรงเรียนในเครือบีคอนเฮาส์แย้มสอาดอีกหนึ่งโรงเรียนต้นแบบ Q Canteenกล่าวว่า   โครงการ Q Canteenถือเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการสถานศึกษา  ซึ่งมีความคิดตจะทำอย่างไรที่ส่งเสริมให้เด็กๆได้บริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษ   ซึ่งที่ผ่านทางโรงเรียนจะสั่งจากร้านตัวแทนจำหน่ายหลายๆร้านรวมกัน  และมักพอเจอคุณภาพของผลไม้หรือพืชผักไม่ได้คุณภาพ   ต้องเฉือนทิ้งจำนวนมาก   แต่หลังจากได้ร่วมโครงการQ Canteen เราเหลือเศษอาหารน้อยลง  จึงทำให้โรงเรียนเรามีความมั่นใจว่าทางกลุ่ม Q Canteenดูแลเอาใจใส่ผู้ผลิตแล้วนำมาส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างพวกเราได้ดีเยี่ยม    ซึ่งในการจัดเมนูอาหารของนักเรียนในแต่ละวันของนักเรียน เราจะคัดสรรดูแลเรื่องวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ในส่วนของการผลิตเราจะดูแลควบคุมให้ถูกสุขลักษณะของนักเรียน ที่เราดูแลในเรื่องพวกนี้คือเราตระหนักถึงสุขภาพของนักเรียนต้องได้รับอาหารที่เหมาะสมและก็ถูกต้องตามหลักโภชนาการ

ด้านนางสาวปดิวรัดา  ผ่องสุวรรณ   ผู้อำนวยการโรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา   นับเป็นอีกหนึ่งในโรงเรียนต้นแบบ Q Canteen    กล่าวว่า  โรงเรียนของต้องการที่จะส่งเสริมให้เด็กได้ทานอาหารที่ปลอดสารไม่ว่าจะเป็นสารพิษ สารตกค้าง หรือสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อไก่หรือเนื้ออื่นๆ โรงเรียนจึงได้เข้าไปดูแหล่งผลิตและดูฟาร์มเพื่อเป็นความมั่นใจสำหรับโรงเรียนในการเข้าร่วมโครงการ สำหรับการเลือกวัตถุดิบ เราจะคัดเลือกจากรายการอาหารที่ทางกลุ่มQ Canteen    ได้ส่งรายการมาให้    ซึ่งวัตถุดิบที่ได้รับมีคุณภาพสดใหม่ มีมาตรฐานในการแพ็คเก็จจิ้งมาเป็นอย่างดี

ด้านนางสุภาภรณ์   ทองดี  ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบีคอนเฮาส์แย้มสอาดกล่าวว่า  การที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการQ Canteenทำให้รู้สึกมีความเชื่อมั่นในอาหารที่โรงเรียนนำมาให้ลูกรับประทาน วัตถุดิบทำให้อาหารมีความสะอาด  ปลอดภัยในการบริโภคมากขึ้น   ซึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองทุกคนวิตกกังวลคือมักจะมีข่าวเด็กทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนอื่นๆแล้วเกิดท้องเสียบ่อยๆ   ซึ่งไม่ใครอยากให้เกิดกับโรงเรียนที่ลูกเราเรียน  ซึ่งการที่โรงเรียนเข้าร่วมโครงการนี้จะทำให้พ่อแม่เพิ่มความเชื่อมั่นและมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานด้านอาหารในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น และมีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นอาหารที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน  ปราศจากสารตกค้าง มีความปลอดภัยในการรับประทานและรู้สึกสบายใจที่ลูกได้อยู่ในโรงเรียนดูแลเอาใจใส่ลูกเราเป็นอย่างดีตั้งแต่การกิน การอยู่และการสอนและจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ด้านคุณภาพและมาตรฐานของโรงเรียนมากยิ่งขึ้นไปอีก

eat6

ด้านนางภัทรภร  ทองแพผู้ปกครองโรงเรียนผ่องสุวรรณวิทยา   กล่าวว่า   หลังจากโรงเรียนได้แจ้งในวันประชุมผู้ปกครองว่าทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการและจะมีหน่วยงานจากกระทรวงเกษตรมาคอยให้คำแนะนำฟาร์มและร้านค้าที่ได้มาตรฐานและมาให้ความรู้แก่เด็กๆเกี่ยวกับการมาตรฐานพืชผักและเนื้อสัตว์  ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกมั่นใจในอาหารที่ทางโรงเรียนจัดให้  ลูกๆได้รับการดูแล เอาใจเรื่องสุขภาพดีทั้งที่บ้านและในโรงเรียนทำให้ผู้ปกครองรู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะมองว่าโรงเรียนที่ดีต้องใส่ใจนักเรียนในทุกๆด้าน  และที่ประทับใจไปกว่านั้นคือลูกของตนนำมาปรับใช้ที่บ้านด้วย จะคอยถามผักซื้อมาจากไหน  สะอาด ปลอดสารหรือไม่จะกลับมาแนะนำพ่อแม่ต่อ

โครงการอาหารปลอดภัยในโรงเรียนหรือ Q Canteen  จึงถือเป็นบริบทใหม่ ภายใต้ Next  Normal  ที่กระแสความตื่นตัวในการใส่ใจสุขภาพเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคและทัศนคติในการเลือกบริโภคสินค้าเกษตรและอาหารที่มีมาตรฐานความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น  เป็นโจทย์หนักให้โรงเรียนต่างๆต้องเร่งปรับตัวตามให้ทันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยอมรับในด้านการดูแลสุขภาพอนามัยของนักเรียนนอกเหนือจากการมีหลักสูตรการเรียน   การสอนที่แต่ละโรงเรียนได้มาตรฐานอยู่แล้ว  เพื่อก้าวให้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมผู้บริโภค

โรงเรียนใดสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเลขานุการกรม  สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) โทรศัพท์: 0-2561-2277,โทรสาร:0-2561-2096 ได้ในเวลาราชการ

eat7

eat8


You must be logged in to post a comment Login