- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
สาธิตฯปทุมวัน ร่วมกับ TALLSTERS จัดโครงการ “สุขภาพดี ไร้พุง และสูงได้” เปิดโรงเรียนนำรถเคลื่อนที่ “Growthxbot” กระตุ้นเด็กออกกำลังกาย
ในโลกยุคใหม่การดูแลเอาใจใส่ด้านวิชาการเป็นเรื่องที่ว่ายากแล้ว แต่การให้ความสำคัญกับสุขภาพและบุคลิกภาพของเด็กนักเรียนในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด แหล่งบันเทิง มลพิษ ในใจกลางเมืองแบบนั้นแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ยากกว่า แนวคิดโรงเรียนนำร่องต้นแบบของการออกกำลังกาย สร้างสุขภาพดี ลดพุง ของเด็กนักเรียนสาธิตฯปทุมวันจึงเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพของนักเรียนให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง สุขภาพดีมีพัฒนาการทางด้านร่างกายเป็นไปตามวัย
โครงการไร้พุงของโรงเรียนสาธิตฯปทุมวัน ถือเป็นโครงการนำร่องที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง 14 ปีแล้ว ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ เด็กมัธยมศึกษาปีที่ 1-2 ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวมากเข้าข่ายเป็นโรคอ้วนมีมวลน้ำหนักเฉลี่ยลดลง และเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน จึงได้ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาความสูงมนุษย์ (ประเทศไทย) หรือ TALLSTERS ต่อยอดโครงการ “สุขภาพดี ไร้พุง และสูงได้” เพื่อตอกย้ำเรื่องของสุขภาพที่ดีของนักเรียนไปพร้อมๆ กับมีพัฒนาการทางด้านร่างกายเรื่องความสูงที่ส่งเสริมเรื่องบุคลิกภาพที่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับยุคนี้
อาจารย์โชติวิทย์ ธรรมสุจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน เล่าถึงแนวคิดที่อยากสร้างสุขภาพดีให้กับนักเรียนว่า โรงเรียนสาธิตฯ ปทุมวัน ถือเป็นโรงเรียนต้นแบบ หรือ นำร่องในเรื่องของการออกกำลังกายมาตลอดเวลา ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมโครงการเพื่อสุขภาพต่างๆ มากมาย เช่น โครงการไร้พุง, โครงการไร้ควันบุหรี่, การเล่นกีฬา, การจัดกิจกรรมกลางแจ้งประเภทหลากหลาย เพื่อส่งเสริมและช่วยให้เด็กนักเรียนมีสุขภาพที่ดี เนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพของเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันมีแนวโน้มน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนก่อให้เกิดปัญหา “โรคอ้วน” ซึ่งเป็นพื้นฐานของปัญหาด้านสุขภาพและโรคอื่นๆ ตามมาได้ ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวและได้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยมากว่า 10 ปี
อาจารย์โชติวิทย์บอกว่า เพื่อให้โครงการบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้และส่งผลกระทบในเชิงบวกกับตัวเด็กเรื่องสุขภาพดีมากที่สุด ทางโรงเรียนจึงได้ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาความสูงมนุษย์ (ประเทศไทย) หรือ TALLSTERS จัดทำโครงการ “สุขภาพดี ไร้พุง และสูงได้” เปิดตัวนำรถเคลื่อนที่นวัตกรรม “Growthxbot” เข้ามาช่วยส่งเสริมการออกกำลังกายและเพื่อการพัฒนาในเรื่องของร่างกายให้กับเด็กนักเรียนยุคใหม่นี้ เพราะโรงเรียนไม่ได้ต้องการให้เด็กเก่งแค่เรื่องวิชาการเท่านั้น แต่ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย ซึ่งเป็นนโยบายการบริหารงานที่โรงเรียนทำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมนี้คาดว่าจะส่งผลให้นักเรียนเกิดพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ดี สามารถสูงขึ้น ผอม หุ่นดี ขายาวเพิ่มขึ้นได้อย่างปลอดภัยและเป็นไปตามกลไกของระบบร่างกาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สูงสร้างได้”
“หมอหญิง” ดร.บัณลักข ถิรมงคล ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาความสูงมนุษย์ (ประเทศไทย) หรือ TALLSTERS ให้ข้อมูลว่า เนื่องด้วยสถาบันฯมีนวัตกรรมที่ทันสมัย ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีแนวคิดสูงได้ไม่ต้องรอ โดยไปในทิศทางเดียวกันกับโรงเรียนสาธิตฯปทุมวันในการมุ่งมั่นพัฒนาด้านสุขภาพของเด็กวัยรุ่น เกี่ยวกับพัฒนาการด้านร่างกาย สุขภาพ และส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ (EQ) โดยที่ผ่านมากว่า 15 ปี ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านสุขภาพของเด็กวัยรุ่นมามากกว่า 5,000 เคส โดยได้คิดค้นนวัตกรรมและหลักสูตรการเพิ่มความสูง ซึ่งเป็นวิธีที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการเจริญเติยโตที่เหมาะสมกับวัย โดยมีผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจ
หมอหญิง ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการ “สุขภาพดี ไร้พุงและสูงได้” ที่ได้ร่วมกับทางโรงเรียนสาธิตฯปทุมวันในครั้งนี้ ถือเป็นการนำเอานวัตกรรมรถเคลื่อนที่ “GrowthXbot” เข้ามาส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้ฝึกกระโดดแทรมโพลีน ฝึกโหนบาร์และการยืดเหยียดร่างกาย นอกจากนี้นยังส่งเสริมพัฒนาให้ความรู้ผ่านกิจกรรม GrowthXercise เพื่อกระตุ้นโกรทฮอร์โมน กระตุ้นนิวรอนในสมอง และการส่งเสริมด้าน Healthy Tall Intelligence โดยให้น้องๆ ได้มีโอกาสฝึกทักษะการดูแลสุขภาพอีกด้วย ซึ่งได้นำรถเข้ามาให้น้องๆนักเรียนได้ทดลองเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และได้รับความสนใจอย่างดีเยี่ยม
หมอหญิง อธิบายถึงหลักการทำงานของระบบ Tall System ว่า เทคโนโลยีการเพิ่มความสูงอันทันสมัยของ TALLSTERS จะใช้หลักการของเรื่องการพัฒนาโครงสร้างร่างกายร่วมกับวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อการหลั่งโกรทฮอร์โมนของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 3 ขั้นตอนคือ 1.Total Body การตรวจร่างกายและการจัดปรับโครงสร้างและกระดูกสันหลัง เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ กระดูก เนื้อเยื่อ เส้นเอ็นให้สัมพันธ์กัน 2.Aerodynamic Exercise โปรแกรมการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล กระตุ้นการทำงานของทุกเซลล์ในร่างกาย กระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้ดีขึ้น พัฒนาการทำงานของสมองซีกซ้าย-ขวา พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ควบคู่กับสร้างมวลกระดูกให้เพิ่มมากขึ้น และ 3.Longs legs System นวัตกรรมเทคโนโลยีกระตุ้นขายาว ขจัดของเสียในต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้ดีขึ้น เพื่อทำให้สารอาหารไปทั่วร่างกาย
อาจารย์โชติวิทย์ เสริมว่า เนื่องจากในต่างประเทศทุกบ้านจะมีแทรมโพลีนให้เด็กได้กระโดดเล่นออกกำลังกาย ซึ่งเด็กๆก็ชอบเล่นเครื่องเล่นนี้กระโดดตลอดเวลาปรากฎสิ่งที่ตามมาคือเด็กเกิดการพัฒนาส่วนสูงขึ้นได้จริง อีกทั้งช่วยในเรื่องของการทรงตัว ที่มีส่วนในเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพ ให้ดีขึ้นด้วย สำหรับ “GrowthXbot” ถือเป็นนวัตกรรมรถเคลื่อนที่ที่จะช่วยส่งเสริมการกระโดดด้วยแทรมโพลีน การฝึกโหนบาร์และการยืดเหยียดร่างกายที่มาพร้อมกับโปรแกรมเพิ่มอัจฉริยะร่างกายในการฝึกวิธีการเคลื่อนไหวข้อต่อกระดูก การกำหนดส่วนสูงและการเพิ่มส่วนสูงต่อเนื่องให้ตนเองได้ นับว่าเป็นวิธีการคิดค้นนวัตกรรมและหลักสูตรโปรแกรมการเพิ่มความสูงที่สอดคล้องกับธรรมชาติควบคู่กับการเจริญเติบโตที่เหมาะสมกับน้องๆ วัยนักเรียน ได้เป็นอย่างดีมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
“เรามีการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เด็กได้เล่นกีฬาที่หลากหลายขึ้น เพราะโลกของเด็กยุคนี้เรียนหนังสือเสร็จ ว่างก็นั่งเล่นเกมส์เล่นโทรศัพท์ไม่ยอมเคลื่อนย้ายร่างกาย ไม่ค่อยออกกำลังกาย รถเคลื่อนที่ “GrowthXbot” จึงถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่ผมนำมาเสริมเพื่อช่วยให้เด็กเกิดการขยับร่างกาย หรือ ออกกำลังกายมากขึ้น และโรงเรียนมีแผนที่จะนำนวัตกรรม GrowthXbot มาบรรจุเข้าเป็นหลักสูตรหนึ่งของการเรียนการสอนในวิชาพละศึกษาเพื่อจะช่วยให้เด็กนักเรียนจำนวนทั้งหมด 2,220 คน ได้ผ่านกิจกรรมดังกล่าว 100% รวมไปถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่ ครู อาจารย์ ก็ควรมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายผ่านกิจกรรมนี้ด้วย เช่นกัน” ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน กล่าวทิ้งท้าย
You must be logged in to post a comment Login