- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 52 mins ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 day ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
ระวังใช้จ่ายช่วงปีใหม่
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 ธ.ค. 63)
เมื่อเร็วๆนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่เลือกฉลองปีใหม่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรติดขัด และบางส่วนอาจตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวต้นเดือนธันวาคม
ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังมีแผนทำกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากยังกังวลต่อผลกระทบของโควิด-19 ที่อาจลากยาวไปอีก
ผลของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 2564 น่าจะเป็นแรงหนุนกำลังซื้อในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้บางส่วน ได้แก่ โครงการช้อปดีมีคืน และโครงการคนละครึ่ง ทำให้คาดว่าเม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
นอกจากนี้คนกรุงเทพฯปรับรูปแบบการเลี้ยงสังสรรค์จากการไปรับประทานที่ร้าน โดยซื้ออาหารมาปรุงรับประทานเองที่บ้าน เนื่องจากราคาถูกกว่า รับประทานได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่ชุมชนที่อาจมีคนหนาแน่นกว่าปกติ
ขณะที่แม้การสั่งซื้ออาหารสำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ผ่าน Food Delivery จะยังมีสัดส่วนการใช้จ่ายน้อยที่สุด แต่คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต สอดคล้องกับการปรับตัวของทั้งผู้บริโภคและร้านอาหารที่คุ้นเคยกับการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น
ประกอบกับความสะดวกสบายในการชำระเงินได้หลายรูปแบบ ทั้งชำระด้วยเงินสด บัตรเครดิต e-Wallet เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดค่าอาหาร ค่าส่ง และสินค้าพิเศษเฉพาะ เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ
มีคำเตือนจากธนาคารกสิกรไทยว่า คนกรุงเทพฯต้องเตรียมตัวเตรียมใจในการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีทั้งโครงการคนละครึ่ง ช้อปดีมีคืนอะไรต่างๆ หากเผลอตัวใช้จ่ายเงินเกินคงจะลำบาก โดยเชื่อกันว่าเงินจะสะพัดในช่วงปีใหม่ถึง 30,000 ล้านบาท ซึ่งเงิน 30,000 ล้านบาท จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่
ที่สำคัญคนไทยจะสนุกสนานในช่วงปีใหม่กันแบบเมาหัวราน้ำ หรือจะฉลองปีใหม่กันแบบระมัดระวังตัวว่าเลยปีใหม่ไปแล้วเรายังจะมีกิน มีใช้ ไม่ขัดสน ฝืดเคืองข้นแค้นหรือเปล่า ถ้าเราใช้จ่ายแบบที่ทำให้เกิดผลกระทบหลังปีใหม่มันก็ลำบาก
เพราะฉะนั้นต้องระวังในการใช้จ่ายเที่ยวเตร่ช่วงปีใหม่ และสิ่งที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่งคือเรื่องเมา เพราะเป็นการทำลายชาติมากที่สุด การขายยา ขายเหล้า มันเหมือนกับการขายชาติ เขาไม่ให้ขายเกินนั่นเกินนี่ ก็จะกิน จะใช้ จะขายกัน
ถ้าเรายังกินยังใช้กันแบบไม่รู้จักพอประมาณหรือทางสายกลาง เรียกว่ากินสุดโต่ง เที่ยวสุดโต่ง โดยเฉพาะเมาสุดโต่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งช่วงเทศกาลปีใหม่รัฐบาลบอกว่าจะวางแผนลดอุบัติเหตุให้มากที่สุด แต่ก็ยังไม่น่าจะอยู่ในลักษณะคุมอยู่ ถ้าเอาไม่อยู่ อุบัติเหตุยังเยอะอีก ก็ต้องเรียกว่าเป็นไปในลักษณะไม่ดีกว่าเก่า
หลวงพ่อพุทธทาสบอกว่า ปีใหม่อย่าให้โง่กว่าปีเก่า ถ้าโง่กว่าปีเก่าแล้วทำให้เกิดความบอบช้ำในช่วงปีใหม่มากเกินไปจะทำให้เกิดความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ได้
เพราะฉะนั้นอาตมาขอให้ช่วงปีใหม่ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย กิน เที่ยวเตร่ และอย่าทำให้เพื่อนบ้านต้องรำคาญกับการจัดงานปีใหม่ถึงกับโดนปาหลังคาบ้านหรือโดนสาดกระสุนเข้าใส่ ขอย้ำว่าปีใหม่ต้องไม่โง่กว่าปีเก่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องการหาเงิน การใช้จ่าย ต้องให้ดีกว่าปีเก่า เราถึงจะมีปีใหม่ที่น่าภูมิใจ
หลักชัยของปีใหม่ต้องไปให้มันสุดซอย ปีใหม่ต้องรักษาอวัยวะ แขน ขา ไม่ให้ขาด ไม่ให้หาย ไม่ต้องไปนอนติดเตียง เหลืออวัยวะไม่ครบเท่าปีเก่า ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าเศร้าของการมีปีใหม่ ก็หวังว่าปีใหม่ปีนี้ต้องดีกว่าปีเก่าแน่นอน
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login