ต้องอาศัยธรรมโอสถ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 63)

ช่วงนี้ไม่มีอะไรที่จะไม่มีอะไรเกินไปกว่าคำว่า “โควิด” ขวิดบ้าน ขวิดเมือง อย่างชนิดที่ย่อยยับ อยู่ๆมีข่าวว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดโควิดซะแล้ว ส่วนคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รอดตัว เพราะมีผลตรวจออกมาเป็นลบ แต่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน แต่เอาละ ที่แน่ๆไม่มีอะไรจะเกินคำว่า แย่แล้วๆ ถ้าไม่แย่จะไม่รู้ว่า จะบอกหาทางแก้กันอย่างไร เพราะวัคซีนก็ยังไม่ได้ อะไรก็ยังไม่มองออกว่า มันจะหาทางออกชนิดที่เร็วไว ทันเหตุการณ์ 

คำว่า ทันเหตุการณ์ มันสำคัญยิ่งใหญ่ ถ้าไม่ทันเหตุการณ์ มันจะยุ่ง มันจะลำบากมากมหาศาลเลย ถ้าทำทันก็เรียกว่า รอดตัวกันได้ แต่ถ้าทำไม่ทัน ถั่วสุกงาไหม้ไปกันแน่นอน ที่แย่อย่างใหญ่หลวงเลยเห็นจะเป็นวัดวาอารามด้วย อาตมาเองกิจนิมนต์ต่างๆที่เขานิมนต์ไว้เขาก็ขอคืนเกือบหมดเลย เพราะจัดไม่ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ถึงกับสั่งให้วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ที่บางบัวทองปิดด้วย แต่ที่วัดสวนแก้ว คนของเรามาก็ยังไม่ได้มาก  

ตอนนี้ ประเทศชาติเข้าสู่ยุคลำบาก และที่เห็นชัดว่า คนที่สู้สุดสายป่านนึกว่า ผ่าน ประคับประคอง ทุ่มยืมเงิน ยืมญาติ กู้บ้าง เงินทุนต่างๆนาๆเพื่อจะคิดว่า ต้องมีฟ้าหลังฝน ต้องผ่านจึงทุ่มเงินลงไปเพื่อที่จะประคองธุรกิจให้รอด แต่แล้วทุ่มแล้วนอกจากไม่ได้คืน ไม่มีกำไร ทุนหายหมด ซึ่งทุนหายก็ไม่ใช่ทุนของตัวเอง เป็นทุนของญาติพี่น้อง ซึ่งมาเล่าแล้ว เล่าไปน้ำตานองหน้า จะมองหน้าญาติพี่ยังไง 

บางคนที่เขาบอกว่า ลูกเขยยืมแม่ยาย แล้วแม่ยายก็ทวงผ่านลูกสาว และลูกสาวไม่รู้จะอยู่ จะนอนยังไงกับสามีที่โดนแม่กระเซ้าแหยงทวง ก็ต้องอยู่กันด้วยความเจ็บปวด เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ต้องถือว่า ประเทศไทย พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก เรื่องต่างๆเกิดมาตลอด ฝนแล้ง แย่ น้ำท่วมก็ยุ่ง มาการเมืองก็ไม่ดีเลย จนกระทั่งอาตมาว่า การเมืองหนักที่สุด จะเห็นได้จากฉายาที่นักข่าวตั้งให้ 

เรียกว่า หลายๆคำที่เอามาตั้ง เช่น คู่กรรม คู่กัด มองแล้วจะเหลียวไปทางไหนมันน่าชื่นใจบ้าง เวลานี้ยากเต็มที ยังไงก็ขอฝากผู้ผ่านคอลัมน์นี้ว่า ให้อยู่กับศีลกับธรรมเถอะ อย่าให้การ์ดศีลธรรมตกแล้วกัน การ์ดโควิดไม่ตกก็เหมือนตก แต่ว่าเอาล่ะ เขาบอกว่า การ์ดโควิด เราตายก็ยังไม่ถึงร้อยเลย แต่ตายบนถนนนี่ตกตะลึงตัวเลขดูแล้วนึกไม่ถึงว่า วันหนึ่งตาย 60 คน โควิดตั้งแต่เป็นมาปีเศษๆเราเพิ่งตาย 61 คน อย่างเมื่อเร็วๆนี้เพิ่มมาคนหนึ่ง 

แต่ตายบนท้องถนน เมาขับ เมาซิ่งอะไรก็แล้วแต่ เรียกว่า ถ้าคิดไม่มีใครเอามาบอกทีแรก อาตมาเพิ่งอ่านเจอ เพิ่งได้ดูข่าวว่า ชัดเจนแล้วตัวเลข 2 หมื่นศพ ตายบนท้องถนน เอาล่ะ ถ้าโควิดมาตอนถ้าเคอร์ฟิวส์ เขาบอกมันจะลดกันเป็นหมื่น ตกลงว่า โควิดทำให้ลดการตายหมื่นหนึ่ง ปีหนึ่งนี่ 2 แสนล้านบาทที่ต้องเสียไปกับค่าทำศพในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลธุรกิจอะไรต่างๆมันจะอาการหนักกันขนาดไหน 

ต้องเรียกกันว่า ช่วงนี้ถ้าธรรมโอสถไม่เยียวยาอยู่ รอไวรัส รอวัคซีนอะไรต่างๆที่จะมาสกัดมันก็ไม่ทันกันแล้วล่ะ ถึงทันเราก็บอบช้ำกันมาก ยังไงอาศัยธรรมโอสถทนไว้ก่อน ทนให้ได้ แต่ว่า อย่าไปพูดเหมือนดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานรัฐสภา เลยที่ว่า เราต้องทนอยู่กับรัฐบาลนี้ รัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ ต้องทนให้ได้ เราก็ไม่ต้องไปพูดกันถึงขนาดนั้น เชื่อว่า เขาคงคิดป้องกันแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ แต่สถานการณ์มันไม่มาเบาๆ มันมาหนักโครมครามๆ  

เรียกว่า มามากรุนแรงกว่าช่วงแรกแล้วจะทำอย่างไร จะด่า จะโทษ ด่ารัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ สถานการณ์มันมาอย่างนี้ สถานการณ์ไม่สร้างวีรบุรุษ สถานการณ์สร้างอะไรล่ะ ทีแรกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาแรง เรียกว่า การแก้ปัญหาโควิดถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง อยู่ๆก็พลิกเป็นโบว์ดำไปแล้วจะทำยังไง ก็ต้องบอกว่า ต้องคอยดู แล้วแต่เวร แต่กรรมกันดีกว่า ยังไงขออยู่อย่าร่มควัน อย่าคิดฆ่าตัวตาย สู้ไปหน่อย แล้วมันคงมีวันดี คืนดี เห็นโหรบอกว่า ปี 2565 ศิวิไลย์จะมาแล้ว อยู่รอรับศิวิไลย์กันหน่อยนะ อย่าเพิ่งฆ่าตัวตายกันเลย 

เจริญพร 

You must be logged in to post a comment Login