- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บ้านจัดสรร คอนโดฯ โรงแรม ขึ้นกระฉูด ระยองมลพิษมีที่ไหน
คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8-15 ม.ค. 64 )
พวก NGOs และนักอนุรักษ์ฯบางกลุ่มมักกล่าวหาว่าระยอง-มาบตาพุดมีมลพิษ ทั้งจากโรงงานขนาดใหญ่และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ผมในฐานะกรรมการในคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ (SEA) ของกระทรวงพลังงาน จึงออกทุนไปสำรวจด้วยตนเอง และใช้ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส มาพิสูจน์
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยโดยภาคเอกชนในจังหวัดระยองตั้งแต่ปี 2537 และนำข้อมูลเฉพาะปี 2559-2563 หรือ 5 ปีล่าสุดมาประกอบการพิจารณา จะพบว่าในรอบ 5 ปีนี้มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ถึง 33,891 หน่วย รวมมูลค่าถึง 74,095 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.186 ล้านบาท การเปิดตัวของที่อยู่อาศัยในแต่ละปีนั้นขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับในปี 2563 คาดว่าจะมีการเปิดตัวทั้งหมด 7,445 หน่วย รวมมูลค่า 15,350 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าโดยเฉลี่ยแต่ละปีมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ปีละ 6,778 หน่วย รวมมูลค่าเฉลี่ย 14,819 ล้านบาท ถ้ามีมลพิษจริงก็คงไม่มีการเปิดตัวโครงการกันมากขนาดนี้ในแต่ละปี
สำหรับในรายละเอียดพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่เฉพาะในช่วงปี 2559-2563 ถึง 417 โครงการ โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดเป็นทาวน์เฮาส์ 16,574 หน่วย หรือ 49% ของอุปทานทั้งหมด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 9,486 หน่วย หรือ 28% นอกนั้นเป็นบ้านแฝด อาคารชุด และอาคารพาณิชย์ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในด้านมูลค่าบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนสูงสุดถึง 39% รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 35% บ้านแฝด 14% อาคารชุดและอาคารพาณิชย์ตามลำดับ
บ้านเดี่ยวที่นำเสนอขายในตลาดมีราคา 2-3 ล้านบาทเป็นสำคัญ ส่วนบ้านแฝดมีราคาอยู่ที่ 2-3 ล้านบาทเป็นสำคัญเช่นกัน ส่วนทาวน์เฮาส์กลุ่มใหญ่ที่สุดขายในราคา 1-2 ล้านบาทเป็นหลัก และโครงการอาคารชุดมักขายห้องชุดในราคา 2-3 ล้านบาท ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างสูง ประกอบกับในพื้นที่ระยอง-มาบตาพุดยังมีพื้นที่ว่างอยู่มากมาย ความต้องการห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัยจึงมีจำกัด
ยิ่งกว่านั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม 2563 ผมยังได้ไปสังเกตการณ์การเกิดขึ้นของโรงแรมต่างๆในเขตเทศบาลนครระยองและเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ปรากฏว่าโรงแรมต่างๆเกิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากมีมลพิษจริงโอกาสที่จะเกิดโรงแรมใหม่ๆคงมีน้อยมาก นี่แสดงว่ามลพิษไม่มีจริงหรือมีน้อยเกินกว่าที่ประชาชนจะมีชีวิตอย่างปกติสุข
แผนที่ตั้งโรงแรมที่สำรวจในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย
ในการสำรวจเบื้องต้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 พบโรงแรมตามพื้นที่ระยอง-มาบตาพุดทั้งหมด 29 แห่ง ปรากฏว่าเป็นโรงแรมที่เปิดในปี 2553 และก่อนหน้าจำนวน 13 แห่ง และมาถึงปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 29 แห่ง หรืออีกนัยหนึ่งเพิ่มขึ้นจาก 100% เป็น 223% หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นปีละ 8.4% นับว่าเพิ่มขึ้นสูงกว่าจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีเสียอีก
โดยสรุปแล้ว โครงการที่อยู่อาศัยภาคเอกชนนี้ ประชาชนผู้ซื้อบ้านในพื้นที่สมัครใจอยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้เองโดยไม่มีการบังคับ และไม่ใช่ผลการบังคับด้านเศรษฐกิจที่ต้องซื้อที่อยู่อาศัยในราคาถูกเพราะจำเป็นต้องอยู่ใกล้ที่ทำงาน แต่คงเป็นเพราะในบริเวณนี้ไม่ได้มีมลพิษมากมายดังที่ได้รับการเข้าใจผิดๆ ดังนั้น ที่อยู่อาศัยจึงเกิดเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลสวนทางกับความเชื่อดังกล่าว ยิ่งกว่านั้นการเพิ่มขึ้นของโรงแรมซึ่งส่วนหนึ่งใช้สำหรับนักท่องเที่ยว นักทัศนาจร ผู้ติดต่อ ตลอดจนบุคคลอื่น แสดงว่าในพื้นที่ระยอง-มาบตาพุดนี้ไม่ได้มีมลพิษมากมายอย่างมีนัยสำคัญนัก โรงไฟฟ้าถ่านหินจึงไม่มีปัญหาสำหรับชุมชนแต่อย่างใด
ระยองและมาบตาพุดไม่ได้มีมลพิษดังที่เชื่อ พิสูจน์ได้จากการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของบ้านจัดสรร-อาคารชุดในพื้นที่ โรงไฟฟ้าที่อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ หรือที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จึงควรสร้างเป็นอย่างยิ่ง
You must be logged in to post a comment Login