- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 day ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
ผู้นำต้องช่วยบริจาคสู้โควิด
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 ก.พ. 64)
และแล้วหลายประเทศก็โชว์ภาวะผู้นำ อย่างกษัตริย์มาเลเซีย มอบเงินให้กับประเทศชาติด้านสาธารณสุขไป ตอนนี้ไม่น่าเชื่อประเทศเล็กๆจิ๋วๆ แต่มาแรงลิ่วเลยก็คือ ท่านฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มอบเงินเดือนทั้งหมดหลังหักภาษีทั้งหมด 7 เดือน ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเงินเดือน คือ 10 ล้านเรียลต่อเดือน นายกฯฮุนเซนฯ ต้องจ่ายภาษี 910,000 เรียลต่อเดือน ดังนั้นจะเหลือ 9,090,000 เรียลต่อเดือน เมื่อรวมทั้งหมด 7 เดือนจะเป็นจำนวนทั้งสิ้น 63,630,000 เรียล ที่ได้บริจาคให้กับกระทรวงสาธารณสุข
งานนี้ต้องเรียกว่า ผู้นำกัมพูชา บอกการบริจาครอบใหม่จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. ไปจนถึงเดือน ส.ค.2564 เพื่อมอบเงินให้กับกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดการลุยสู้กับโรคโควิด-19 ให้มันพ่ายแพ้ซะที แต่ของเมืองไทยยังไม่รู้ว่า ใครจะแสดงออก สปิริตอย่างนี้กันเมื่อไร เราถนัดอย่างเดียวเอาเงินแจก แต่ไม่ใช่เงินส่วนตัวของรัฐมนตรีหรือผู้นำประเทศ แต่เป็นเงินภาษีของประชาชน เงินกู้ เงินยืม แต่นี่เป็นเงินเดือนส่วนตัว ต้องถือว่า ชัวร์มากๆ ก็ขอให้ประเทศเล็ก ประเทศน้อย เป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่จะทำให้เกิดกระแสนิยมในการระดมทุน ระดมเงินเอาไปโปะที่กระทรวงสาธารณสุขจะได้เข้มแข็ง
เรียกว่า ไม่อ่อนแอต่อโรคโควิดอะไรต่างๆได้ ถ้ากระทรวงสาธารณสุขเข้มแข็ง โรคภัย ไข้เจ็บ มันก็น่าจะอ่อนแอลง แต่ถ้ากระทรวงงบประมาณน้อย หมอน้อย อะไรน้อยๆ ภูมิคุ้มกันก็จะน้อยและจะพ่ายแพ้โรคภัยต่างๆที่จะเข้ามา เพราะฉะนั้น จึงต้องจำเป็นที่จะต้องทุ่ม เราไปทุ่มอย่างอื่นกันมาเยอะแยะ แล้วก็ลืมไป ไม่ได้ทุ่มเรื่องที่มันเป็นเรื่องป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ทุ่มสร้างถนนหนทาง สาธารณูปโภคอัดกันเต็มที่ สร้างตึกสูงๆ จนในที่สุดก็เจ๊งกันไป แต่ตอนนี้ เราต้องเรียกกันว่า สาธารณสุขยังไม่เข้มแข็ง ซึ่งตอนสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเป็นประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาถึงกลับบอกจะไม่จ่ายเงินให้กับองค์การอนามัยโลกว่างั้นเถอะ
ทรัมป์ บอกจะไม่ทำบุญด้วย เรียกว่า ยิ่งไปกันใหญ่เข้าไปอีก ตอนนั้น ก็ต้องเรียกกันว่า เริ่มจะลิดลอนบั่นทอนความมั่นคงเข้มแข็งในการรักษาสุขภาพอนามัย ถึงกับบอกประกาศไม่ทำบุญ ไม่บริจาคให้กับองค์การอนามัยโลก แล้วจะทำไง องค์การอนามัยโลกอ่อนแอ อนามัยแต่ละชาติก็เข้มแข็งยาก เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีศูนย์รวม มีกองทุนที่จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่คงไม่ใช่มาแค่ตัวนี้ มันจะมีตัวต่อๆไป ถ้ากระทรวงสาธารณสุขหมดหน้าตัก ตรงนี้แหละจะเสียหลักเลยกระทรวงอื่นหมดหน้าตัก กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ แม้แต่กระทรวงศึกษาฯหรือว่า การศึกษานี้ยอดเยี่ยมที่สุด
แต่ศึกษาแล้วมันตายทำไง ศึกษาแล้วป่วยทำไง ศึกษาแล้วมันร่างกายสมบูรณ์เข้มแข็ง เรามีนักศึกษาเต็มประเทศ แต่โรคมันก็เบียดเบียนเราเต็มประเทศ ดังนั้นก็กลายเป็นประเทศที่มีการศึกษาแต่ไร้ประโยชน์ ดังนั้น ประโยชน์อยู่ที่ว่า ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี โรคภัยไข้เจ็บไม่เบียดเบียน การทำมาหากินเศรษฐกิจมันก็ดีด้วย ต้องขอให้บริกรรมภาวนากันว่า ผู้นำทั้งโลกช่วยกันบริจาคเงิน รายได้ส่วนตัว มหาเศรษฐีทั้งหลายเอาเงินไปทุ่มที่สาธารณสุขกันหน่อย จะได้ทำให้ประเทศนี้อยู่ดี มั่นคง อยู่รอด ปลอดภัย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login