อยากรวยจนซวย

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 ก.พ. 64)

คนดังๆเริ่มมีอาการผวากับกฎหมายเรื่องทำมาหากิน เรียกว่า อาหารเสริม รายได้เสริม จากการเป็นนักร้องดารา หันมาประกอบทางโฆษณาอาหารเสริม เช่น ถังเช่า ตอนนี้ก็เป็นทางเศร้ากันซะแล้ว รู้สึกว่า พอเฮไปทางไหนก็มักจะทำตามๆกัน ตั้งแต่คนดังคิดเริ่มต้นก็มีคนตามด้วยการโฆษณาที่เรียกว่า อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง อ้างว่า ดีอย่างนั้น อย่างนี้ เรื่องปวดหายเมื่อย ซึ่งเรื่องคนแก่ถ้าได้กินอาหารเสริมตัวนี้แล้วหายปวด หายเมื่อยกันทีเดียว 

ตกลงว่า เป็นอาหารเสริมหรือเป็นยากันแน่ ถ้าเป็นอาหารมันไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องแก้ปวด แก้เจ็บ เพราะอาหารเป็นเรื่องแก้หิว แต่ถ้าเป็นยาแน่นอน การไม่ได้ขึ้นทะเบียนรับรองการโฆษณาปราศจากการรับรองจากหน่วยงานราชการ อันนี้ถ้าไม่ปราม ไม่จับกันบ้าง คนกินก็จะซื้อกิน เสียเงิน เสียทองกันมากมายก่ายกอง และให้ลอง ให้ลวง ล้วงกระเป๋ากันไปเรื่อยๆ เลยต้องถึงคราวที่เรียกกันว่า อยู่ๆก็มาหน้าบ้าน 

จึงมีคำพูดที่ว่า อย่าหากิน หากรรม หาโกง หาเวร หากินแล้วสบายใจ ไม่ต้องตกเป็นจำเลย ไม่ต้องถูกจับกุมคุมขัง ต้องโทษลงอาญา คดีของคุณยิ่งยง ยอดบัวงาม นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ดีนะที่รับสภาพ เมื่อรับสภาพแล้วก็รับโทษครึ่งหนึ่งจากติดคุก 2 ปี ก็เหลือ 1 ปี จากถูกปรับ 5 หมื่นบาทก็เหลือ 2.5 หมื่นบาท และคนไม่เคยทำผิดก็ลดโทษลงไปอีก รอลงอาญา ยังไม่ต้องติดคุกทันที เรียกว่า ดังที่อยู่ในคุก อย่างคุณสรยุทธ สุทัศนจินดา อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดังกำลังจะออก คนดังที่ยังอยู่ข้างนอกก็หมิ่นเหม่เสี่ยงจะเข้าคุก เข้าตะรางกันหลายคน หลายราย 

เรื่องอย่างนี้ต้องเรียกกันว่า อยากรวยจนซวยดีมั้ย ถ้าอยากรวยแล้วไม่ซวย มีแต่เสริมรายได้ตอนนั้นก็รวย ทางศาสนาเราเรียกกันว่า “สัมมาอาชีวะ” , “สัมมนาอาชีพ”, สัมมากัมมันตะ” ประกอบการงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ หากิน หาใช้ถูกต้องตามกฎหมายก็จะอยู่รอดปลอดภัย ไม่ต้องขึ้นโรง ขึ้นศาล ไม่ต้องเข้าคุก เข้าตะราง ชีวิตน่าจะเป็นปรกติสุขแบบนี้ดีกว่าแน่นอน 

เจริญพร 

You must be logged in to post a comment Login