- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 1 month ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 1 month ago
- โลกธรรมPosted 1 month ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 1 month ago
- สลายความเกลียดชังPosted 1 month ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 1 month ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 1 month ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 1 month ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 1 month ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 1 month ago
ศ.พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม อาจารย์แพทย์นักวิจัย ม.มหิดล รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาเข็มศิลปวิทยา ปี 2563

เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพรรณี ปิติสุทธิธรรม หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน หัวหน้าหน่วยวิจัยโรคติดเชื้อทางคลินิก และรักษาการหัวหน้าศูนย์ทดสอบวัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับโปรดเกล้าฯ รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาเข็มศิลปวิทยา ประจำปี 2563 สาขาแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดลเพียงท่านเดียวที่ได้รับเกียรติสูงสุดดังกล่าว นำมาซึ่งความภาคภูมิใจในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน”
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพรรณี ปิติสุทธิธรรม เป็นอาจารย์แพทย์นักวิจัยผู้มีผลงานที่โดดเด่นในเรื่องวัคซีนเอดส์มากว่า 20 ปี ซึ่งมากด้วยประสบการณ์ และองค์ความรู้ที่สามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่การวิจัยวัคซีนเอดส์รุ่นใหม่ได้อย่างก้าวกระโดด
เหตุที่โรคเอดส์ยังคงระบาดจนถึงทุกวันนี้ สาเหตุหลักมาจากปัญหาทางพฤติกรรม หรือการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องเพศและยาเสพติด ซึ่งมีแนวโน้มจะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น โดย ศาสตราจารย์แพทย์หญิงพรรณี ปิติสุทธิธรรม กล่าวว่า ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ จำเป็นต้องใช้มาตรการหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน แต่ที่ผ่านมาก็ยังพบว่าสามารถควบคุมได้เพียงในระดับหนึ่ง ซึ่ง “การพัฒนาวัคซีนเอดส์เป็นความหวังเดียวที่จะสามารถยับยั้งการระบาดได้อย่างยั่งยืน”
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพรรณี ปิติสุทธิธรรม กล่าวต่อไปว่า วัคซีนถือเป็นอาวุธสำคัญที่จะสามารถยับยั้งการระบาดของโรคเอดส์ได้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทานต่อโรค ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ หรือโรคอุบัติใหม่อย่างเช่น COVID-19 โดยเชื่อว่าหากมีการพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่เพิ่มขึ้นร่วมกับศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถพัฒนาต่อยอดทางคลินิกไปได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถคิดค้นวัคซีนใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และใช้ได้ผลจริงในที่สุด
“การทำงานก็เหมือนกับการได้ปฏิบัติธรรม ถือเป็นการฝึก “พรหม วิหาร 4” เมตตา – กรุณา – มุทิตา – อุเบกขา ต่อผู้อื่นไปด้วยในตัว
ซึ่งความสำเร็จนั้นไม่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานเพียงคนเดียว จึงขอขอบคุณทีมงาน และผู้ให้การสนับสนุนทุกระดับ ทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยมหิดล และกระทรวงสาธารณสุขมา ณ โอกาสนี้” ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพรรณี ปิติสุทธิธรรม กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210
You must be logged in to post a comment Login