- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 day ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
เล่นการเมืองต้องเรียนศิลปะกลิ้งได้
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 ก.พ. 64)
และแล้วการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้เกิดขึ้น เสียดายว่า ไม่มีเวลาที่จะฟังอย่างต่อเนื่องตลอดยาว มีแต่ฟังแวบๆ แต่ก็พอจะจับประเด็นได้ว่า และยังไม่สรุปว่า ตอนนี้ใครจะเป็นเซียน ใครจะปราบเซียน ใครจะเป็นม้าขาว เป็นดาวสภา เป็นดาวรุ่ง ดาวร่วง คงอีกไม่กี่วันคงจะรู้กัน แต่วา การให้ฉายากันว่า นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในปี 2557 มีลุงกำนันเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป ช่วงนั้นจอทีวีทุกจอมีลุงกำนันเดินอย่างสมเกียรติ พอผ่านมาอีก 2 ปีมีลุงพลแห่งบ้านกกกอกออกจออีก แต่ที่ติดชาร์จยาวๆ ตั้งแต่ 22 พ.ค.2557
คือ ลุงตู่ แห่งบ้านกลับกลอก เพราะกลับไปกลับมา โดยเฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ มีนักการเมืองที่ไหนไม่รู้บอกว่าลุงตู่เป็นไก่สามอย่าง พูดอย่าง ทำอย่าง ปฏิบัติอย่าง แต่ผมว่ากลับกลอก เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 นายกรัฐมนตรี มายืนพูดในวันอภิรายไม่ไว้วางใจว่า เรื่องรัฐธรรมนูญจะรีบทำ เพราะเป็นนโยบายของท่าน จะรีบแก้ เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปได้ มาวันนี้พิสูจน์ให้เห็นในสภาฯ แล้วว่าเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ตั้งธงจะตั้งแต่ปี 2562 จะแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2563 ขอไปศึกษาจนตั้งกรรมาธิการฯ จะเข้าสู่วาระสองและสามในเดือน ก.พ.นี้แล้ว แต่สุดท้ายก็มาเจอการกลับกลอกว่า ท่านไม่เอาด้วย สภาฯโดนหลอก
ต้องเรียกว่า คนนี่พอไปเล่นการเมืองแล้วต้องเรียนศิลปะในการกลิ้งได้ ถ้าไม่เรียนกลิ้งได้เป็นนักการเมืองไม่ได้ เป็นนักการเมืองไม่กลิ้ง อยู่นิ่งๆ เขาก็ถล่ม ยุคนี้ไม่ใช่ยุคพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่เป็นยุคที่เรียกกันว่า เทคนิค ลีลาเปรม ดาวสภาน่าจะพอใช้ได้ เรียกว่า แก้ลำ คราวที่แล้วเขาบอกว่า ไม่ถึงกึ๋น คราวที่แล้วบอกว่า เสียหน้า เสียคะแนน ฝ่ายค้านคราวนี้ก็เลยเตรียมข้อมูลมาเต็มที่ แต่รัฐบาลได้เตรียมเต็มที่เหมือนกัน ปัดตก แก้ตกไปหลาประโยค โดยเฉพาะเรื่องโฮปเวลล์ ฝ่ายหนึ่งก็ซัดเต็มที่ว่า จะต้องหาคนผิด ซึ่งคนที่ผิด คือ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ยกเลิกสัญญาอะไรต่างๆนาๆ
แต่แล้วฝ่ายแก้ของรัฐบาลก็ใช้มือกฎหมาย อย่างอ.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เล่นเอาฝ่ายค้านตาค้างไปเหมือนกัน แต่ตอนแรกก็นึกว่า เสร็จแน่ๆ แต่ก็ยังมีข้อเฉลียวใจของฝ่ายค้านว่า เขาต้องมีเทคนิค มีการลื่นไหลไปอย่างนั้น ไปอย่างนี้ได้ แล้วก็เป็นไปตามนั้นเหมือนกัน จะเป็นลื่นไหลหรือจะเป็นการเตรียมตัวมาดี หรือมีข้อมูลยังมั่นคงแน่วแน่ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เห็นจะเป็นเรื่องที่แก้ลำบาก คือ ข้อมูลพื้นฐานที่เรียกว่า จปฐ.ทำไมทำไม่เสร็จ ทำไม่ทัน ต้องเรียกว่า ข้อมูลพื้นฐานในการให้เงิน ให้ทองคนชรา เยียวยาแล้ว เกิดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง คนแก่ร้องไห้ ร้องห่ม แล้วโดนเจ้าหน้าที่รัฐดุเอาอีก
น่าจะเผยโฉมเหมือนกันน่ะคนที่ทำให้คนแก่ร้องไห้ ร้องห่ม แกก็พูดว่า เป็นคนเหมือนกัน พูดดีๆก็ได้ ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดุ ไม่มีข้อชี้นำ แต่เอาดุนำ เลยทำให้การไม่มีความรู้จำเป็นพื้นฐานเอามาประยุกต์ ไหนว่า จะบูรณาการอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ว่า เห็นเขาว่าจะหนักอยู่คนหนึ่ง คือ กระทรวงศึกษาธิการ แต่ยังไม่รู้ว่า จะออกไม้ไหน มุขไหน จะไปรอดหรือไม่รอด จะจอดหรือจะแจวต่อได้อีกก็คงต้องดู แต่เรื่องวุ่นวาย ประท้วงก็ต้องถือว่า ยังไม่มากมายนัก พอทำใจได้ พอรับได้
ตอนนี้ มันก็ดีอย่างหนึ่งน่ะ ประชาธิปไตยมีการซักฟอก มีการซักถามให้โต้ตอบมา ตอบได้ก็ผ่าน ตอบไม่ได้ก็พังอะไรทำนองนั้น จะพังหรือจะผ่าน มันก็ขึ้นอยู่ที่สามารถแก้ตกมั้ย มีข้อมูลมาแก้ไขได้ ไม่ใช้แก้ตัว แก้ไข แก้ข้อสงสัย โจมตีทำให้เชื่อถือได้ เมื่อเชื่อถือได้ก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร ขออย่างเดียวว่า คนเราเมื่อจำนนก็ยอมจำนน เมื่อไม่จำนน มีเหตุ มีผลก็สู้ไป แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้ทำด้วยความปรารถนาดี เป็นหน้าที่ๆต้องทำ อย่าหยาบคายใส่กัน อย่าใส่ร้ายป้ายสี อย่าถึงขั้นที่เรียกว่า ต้องเอาให้ระบมอะไร
เอาแต่พอให้รู้ว่า คุณผิดพลาดยังไง คุณเสียหายยังไง บ้านเมืองจะพลอยเสียอย่างไร นี่ก็เป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าไม่มีระบบประชาธิปไตย การจะรักษาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติจะไม่รู้ว่า อะไรไปตรงไหน เงินทองมันเป็นของที่เรียกว่า บาดตา บาดใจคนอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีนักการเมืองพูดว่า เขามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง ไม่เคยคิดมาเอาผลประโยชน์ของบ้านเมือง พูดเหมือนประธานาธิปดีลินคอล์น ตื่นมาก็นึกอยู่ว่า จะให้อะไรกับประเทศสหรัฐฯของเรา ไม่เคยคิดว่า สหรัฐฯของเราจะให้อะไรแก่เรา
ถ้าคนตื่นมานึกคิดอย่างนี้ บ้านเมืองดีกว่านี้เยอะ เรื่องคอร์รัปชั่นทุจริตฝ่ายหนึ่งก็ว่ามากกว่าเก่า อีกฝ่ายหนึ่งก็มองว่า บางเรื่องก็ดีกว่าเก่า แต่ดี ไม่ดี เดี๋ยวก็คงได้รู้กันหรอกว่า ต่างชาติเขาให้เรากี่เปอร์เซ็นต์เรื่องดีทุจริต ไม่ทุจริต เดี๋ยวก็คงรู้กันว่า ฝ่ายค้านได้ข้อมูลทุจริตที่เห็นจริง เห็นจังหรือไม่ หรือทำให้เสียแต้มเหมือนคราวที่แล้วอีก ไปอ้อนข้อซะ ไปประวิงเวลาซะ ยังไงก็ขอให้ใช้เวลาทุกนาทีให้มีประโยชน์แก่บ้าน แก่เมือง บ้านเมือง ถ้ามีคนเข้าไปคิดวางแผน วางผังเมือง นโยบายเหมือนกับบางเรื่องต้องทำสงครามกันจะเป็นยาเสพติด จะเป็นเศรษฐกิจย่ำแย่ จะเป็นบ่อนการพนันอะไรก็ตาม
รัฐมนตรีมหาดไทยก็พูดได้คำเดียว พวกเราไม่ยุ่ง พวกเราไม่มี พวกเราไม่เป็น แต่ที่เป็นๆไม่รู้พวกไหน ที่บ่อนเกินที่นั่น ที่นี่ ไม่รู้พวกไหน และแต่ละคนที่บอกพวกเราไม่ยุ่ง พวกเราไม่เป็น พวกเราไม่เอา ขอให้เป็นอย่างนี้เถอะ ถ้าไม่ยุ่ง ไม่เอา มันน่าจะเบาลงไปกว่านี้แน่ๆ ถ้าเป็นจริงน่ะ หรือตัวท่านไม่เอา ลูกน้องรองๆลงไปจะเอามั้ย ถ้าไม่มาทั้งกระทรวง ดวงบ้าน ดวงเมือง ก็ดีล้ำเลิศประเสริฐศรีเลย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login