- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อิสลามกับความเชื่อในโชคลาง
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12-19 มี.ค. 64 )
ความเชื่อในโชคลางเป็นสิ่งที่มีอยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ทั้งนี้เนื่องจากมนุษย์เชื่อว่าปรากฏการณ์ทั้งดีและร้ายล้วนมีสาเหตุมาจากบางสิ่ง แต่เนื่องจากความเชื่ออย่างผิดๆและขาดความรู้ มนุษย์จึงทึกทักหรืออ้างว่ามันมีสาเหตุจากสิ่งนั้นสิ่งนี้และสร้างพิธีกรรมขึ้นมาเพื่อขอบคุณสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าเป็นที่มาของสิ่งดีหรือขจัดสิ่งเลวร้ายออกไป
แม้ปัจจุบัน ความเชื่อเช่นนี้ยังมีอยู่ในสังคมมนุษย์ทั่วโลก สำหรับคนไทย สาเหตุที่มาของเหตุการณ์บางอย่างถูกเรียกว่า “ดวง” “โชค” “ถึงคราวเคราะห์” เป็นต้น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าสิ่งที่เรียกว่าดวงหรือโชคนั้นคืออะไร ใครทำให้เกิดขึ้น
ในสังคมไทย เมื่อเกิดภาวะฝนแล้ง คนไทยบางท้องที่จะทำพิธีแห่นางแมวขอฝน หรือถ้ากลัวฝนตก ก็จะเอาต้นตะไคร้กลับหัวปักดินโดยเชื่อว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้ฝนไม่ตก
ในแผ่นดินอาหรับก่อนหน้าอิสลาม เมื่อเกิดภาวะฝนแล้ง ชาวอาหรับจะไปหากิ่งไม้บางชนิดที่ติดไฟง่ายมามัดรวมกันผูกไว้ที่หางวัวและต้อนวัวขึ้นไปบนภูเขา หลังจากนั้น ชาวอาหรับจะจุดไฟใส่กิ่งไม้ที่ผูกอยู่กับหางวัวจนไฟลามไปทั่วทั้งตัวของวัว ขณะที่ไฟลุกและวัวส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดนั้น ชาวอาหรับถือว่านั่นเป็นเหมือนฟ้าแลบฟ้าร้องที่เป็นสัญญาณก่อนที่ฝนจะมา
บางครั้ง เมื่อชาวอาหรับต้อนฝูงวัวไปกินน้ำที่ลำธาร วัวตัวเมียไม่ยอมกินน้ำ ชาวอาหรับจะตีไปที่หน้าของวัวตัวผู้ เพราะชาวอาหรับเชื่อว่ามีปีศาจสิงอยู่ระหว่างเขาของวัวตัวผู้และไม่ยอมให้วัวตัวเมียกินน้ำ
เมื่อมีคนสำคัญตาย ชาวอาหรับจะนำอูฐตัวหนึ่งมาผูกไว้ใกล้หลุมฝังศพของผู้ตายโดยไม่ให้อาหารและน้ำแก่อูฐเพื่อที่มันจะตายกลายไปเป็นพาหนะให้คนตายได้ขี่มันในโลกหน้า
ก่อนออกจากบ้าน ชาวอาหรับจะดูทิศทางบินของนก ถ้านกบินทางขวา ชาวอาหรับจะถือว่าเป็นลางดีและจะออกจากบ้านด้วยความมั่นใจ แต่ถ้านกบินทางซ้าย ชาวอาหรับถือว่าเป็นลางร้ายและไม่ออกจากบ้าน ในช่วงเทศกาลฮัจญ์ เมื่อแต่งชุดออกจากบ้านเพื่อไปแสวงบุญแล้ว ชาวอาหรับจะไม่เข้าบ้านทางประตูหน้าถ้าหากจำเป็นต้องเข้าบ้านอีกครั้ง
ในสมัยนบีมุฮัมมัด ลูกชายคนหนึ่งของท่านเสียชีวิตในวันที่เกิดสุริยุปราคา ชาวอาหรับที่ต่อต้านท่านอ้างว่าสุริยุปราคาเป็นเหตุทำให้ลูกชายของท่านเสียชีวิต ดังนั้น ท่านจึงต้องชี้แจงว่าการเกิดสุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากวิถีการโคจรที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ ไม่เกี่ยวกับการเป็นการตายของใครทั้งสิ้น และท่านได้สั่งให้มุสลิมละหมาดเมื่อเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเพื่อประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
เมื่อนบีมุฮัมมัดเผยแผ่อิสลาม ท่านได้สอนผู้คนให้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวและเชื่อว่าพระเจ้าองค์เดียวกันนี้เป็นผู้สร้างและผู้กำหนดทุกสิ่ง ไม่ว่าความดีหรือความชั่ว สิ่งดีหรือสิ่งเลวร้ายล้วนมาจากพระเจ้าทั้งสิ้น เมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ทุกคนต้องได้รับทั้งสิ่งดีและสิ่งเลวร้ายด้วยกันทุกคน ดังนั้น ในอิสลามจึงไม่มีคำว่า “ดวง” หรือ “โชค” ถ้าพระเจ้าจะให้อะไรแก่ใครก็ไม่มีใครสามารถยับยั้งได้ และถ้าพระเจ้าไม่อนุมัติให้ใครได้รับอะไร ก็ไม่มีใครสามารถให้ได้
ดังนั้น ใครจะขออะไรก็ให้วอนขอต่อพระเจ้าองค์เดียว ในภาวะฝนแล้ง นบีมุฮัมมัดก็เคยละหมาดวอนขอพระเจ้าให้ประทานฝนลงมา เพราะพระเจ้ายืนยันว่าพระองค์ต่างหากที่เป็นผู้ประทานฝน
หลังสมัยนบีมุฮัมมัด เมื่อชาวอาหรับเข้ารับอิสลามแล้ว ประเพณีต่างๆที่เกิดจากความเชื่อในโชคลางได้หมดไป ไม่ว่าจะได้รับสิ่งดีหรือสิ่งร้าย จะสมหวังหรือผิดหวัง อิสลามสอนให้มุสลิมกล่าวถ้อยคำแห่งการยอมจำนนว่า “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” (การสรรเสริญเป็นของพระองค์) ถ้าเป็นสิ่งดี การกล่าวถ้อยคำนี้จะไม่ทำให้เกิดความลำพอง ถ้าเป็นสิ่งร้าย การกล่าวถ้อยคำนี้เป็นการยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่เอะอะโวยวายโทษนั่นโทษนี่ให้คนรอบข้างเกิดความรำคาญ
การเชื่อหรืออ้างว่าสิ่งดีหรือสิ่งร้ายมีสาเหตุมาจากอำนาจศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่ไม่ใช่พระเจ้า ถือเป็นการยอมรับว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งทำงานควบคู่กับพระเจ้า การยอมรับเช่นนี้ถือเป็นบาปใหญ่ในอิสลาม
You must be logged in to post a comment Login