ว่าด้วย “ต้มยำกุ้ง”

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 เม.ย. 64)

เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ “ต้มยำกุ้ง” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติกับยูเนสโกแล้ว 2 รายการ คือ โขน เมื่อปี 2561 และนวดไทย เมื่อปี 2562 โดยมีรายการ “โนรา” และ “สงกรานต์ในประเทศไทย” ที่เสนอไปแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของยูเนสโก  

ส่วนในปี 2564 ประเทศไทยจะได้เสนอรายการ “ต้มยำกุ้ง” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกต่อไป ก็ต้องเรียกว่า อาหารการกินแต่ละถิ่น แต่ละที่ ต้องถือว่า แต่ละที่มีอาหารการกินไม่เหมือนกัน บางแห่งเด่นเรื่องนั้น เด่นเรื่องนี้ เรื่องไก่ เรื่องกุ้ง เรื่องปู เรื่องปลา แต่ประเทศไทยตอนนี้เราจะได้ขึ้นเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติเรื่องต้มยำกุ้ง ใครจะนึกว่า ต้มยำกุ้งจะรุ่งโรจน์โชติช่วงสร้างเกียรติประวัติให้ชาติบ้านเมืองในลักษณะที่เรียกกันว่า ของดี ของเด่น และเป็นอาหารประเภทสมุนไพร ทำให้เกิดความรู้สึกเรียกว่า สดชื่น แข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บอะไรต่างๆได้ 

เลยกลายเป็นเรื่องที่ต้องเรียกกันว่า เราทำไมถึงจะทำอะไรดีๆให้เป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองเอาไว้เป็นเครื่องประดับโลก ไม่ต้องให้อะไรในโลกนี้มาต้องทำกันทางวิทยาศาสตร์ ทางเทคโนโลยีเกินไป เอาแบบไทยๆ ง่ายๆ อาหารเนี่ย พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสว่า สัตว์โลกทั้งหลายอยู่ได้ด้วยอาหาร แต่ก็เตือนเรื่องอาหารด้วยเยอะแยะ ต้องทำงานให้คุ้มกับอาหารที่กินเข้าไป อย่าทำให้กินไปเปล่าๆ เรียกว่า กินแล้วต้องทำงานให้คุ้มค่า เพราะถ้ากินแล้วไม่สร้างงาน ไม่สร้างอาชีพ มันก็เหมือนกับว่า กินสูญเปล่า กินแบบสูญเปล่า กินไม่เข้าท่า กินไม่สร้างสรรค์  

เพราะฉะนั้น เราก็ถือว่า ต้มยำกุ้งเป็นสมุนไพร เราก็เลยตั้งกันว่า กินอาหารให้เป็นยา ไม่ใช่กินยาให้เป็นอาหาร คือ เราสามารถทานอาหารไปด้วย เป็นยาไปด้วย ไม่ต้องไปซื้อยา ฉีดยาเหมือนวัคซีนอะไรเนี่ย เรามีสารอาหารที่เป็นยาอยู่ในตัวของมันเอง ก็หวังว่า ทุกอย่างคงจะได้ชื่อเสียงกระฉ่อน และคงจะได้รับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติเขาด้วย เรียกว่า เป็นอาหารประจำชาติที่มาวินเลย ติดอันดับของโลก ก็หวังว่า ชาวไทยคงจะภูมิใจ และคนไทยก็คงจะฉลาดรู้จักปรุงต้มยำกุ้งให้เป็นมากขึ้นๆ 

เจริญพร 

You must be logged in to post a comment Login