รักสนุก ระวังจะทุกข์ถนัด

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  23 เม.ย. 64)

อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ออกกฎระเบียบออกมาว่า ต่อไปนี้วัดที่จะบวชพระใหม่จะต้องมีการตรวจสอบให้เรียบร้อยว่า ติดโรคโควิด-19 หรือเปล่า ถ้าติดแล้วเข้ามาบวชก็ยุ่งยากกันใหญ่ เพราะตอนนี้เริ่มมีหลายวัดที่มีพระบวชใหม่เข้ามา และเริ่มมีการติดโควิดกันไปหลายรูป โดยเฉพาะวัดเทพศิรินทร์ เห็นข่าวว่า มีพระที่มาบวชใหม่ก่อนจะบวชไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อเลยนำเรื่องนี้เข้ามาในวัด

ความจริงแล้วผู้ที่เป็นโรค เป็นภัยไข้เจ็บเนี่ย ทางศาสนาไม่บวชอยู่แล้ว เดิมเพราะมีคำถามจากพระอุปัชฌาย์ว่า เป็นโรคเรื้อรังอะไรต่างๆมาหรือเปล่า ถ้าเป็นก็บวชไม่ได้แล้ว ต้องไม่เป็นโรคอะไรต่างๆมา เช่น โรคเรื้อน โรคไม่น่าพิสมัยอะไร บ้างก็ว่า น่ารังเกียจ โรคเรื้อน โรคที่ทำให้เกิดความรู้สึกน่ารังเกียจก็เลยไม่ได้บวช ตอนนี้ก็ต้องมาเข้มงวดกันใหม่ เรียกว่า สถานบันเทิงย่านซอยทองหล่อ เจ้าโควิดออกฤทธิ์

ตอนนี้ พระเณรก็บวชกันน้อยอยู่แล้วด้วย ยิ่งมาเกิดเรื่องอย่างนี้ กลายเป็นเรื่องโอกาสพระเณรที่จะมาเฝ้าวัดแลให้มีบรรยากาศน่าชื่นมื่นทำบุญว่า มีพระเณรนั่งเต็มศาลา ไม่ควรที่จะให้พระอยู่กันแบบไม่เพียงพอที่จะทำบุญตักบาตรให้ชื่นอก ชื่นใจ อิ่มบุญ เปรมบุญ เพราะว่า พระน้อยมาก เรียกว่า พระเณรหายไปในระยะ 1-2 ปีนี่ถึง 5 หมื่นรูปจากที่เคยมี 3 แสนกว่ารูป ปัจจุบันเหลือแค่ 2.5 แสนรูป

แล้วการบวชเดี๋ยวนี้ก็เป็นลักษณะบวชจิ้มดูด 7 วัน 15 วันก็สึกแล้ว บวชแช่อิ่มอย่างเราบวชไม่ค่อยมีแล้วเหลือน้อยเต็มที่ พรรษาหนึ่งไม่มีพระตกค้างอยู่สืบทอดศาสนา มองดูแล้วปัญหาเรื่องศาสนาน่าเป็นห่วง ยิ่งมาเจอโรคพวกนี้เข้ามาอีก บางวัดถูกปิด เดี๋ยวนี้มีหลายวัด เช่น ที่เชียงใหม่ก็สั่งปิดวัด เรียกว่า ที่ไหนก็โดนกันไป หรืออย่างที่เมืองนนท์ก็ปิดเป็นช่วงๆ ยังไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

ต้องเรียกว่า ช่วงนี้มันอันตรายก็จำเป็นที่จะต้องหยุดกัน แต่เอาล่ะ สรุปแล้วขอฝากไว้คำเดียวว่า อย่ารักสนุกกันนัก โบราณว่า รักสนุก ทุกข์ถนัด และโทษแห่งการเที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น ติดอบายมุข การ์ดอบายมุขตกจะหนักว่าการ์ดตกเรื่องของโควิด แต่ทั้งหมด ทั้งสิ้นนั้น ก็ต้องเรียกกันว่า อบายมุขจะครองเมืองและจะทำให้เกิดเรื่องอยู่ร้อนนอนทุกข์ เศรษฐกิจจะพังลงไปหนักจนไม่รู้ว่า คนจะตกงานกันยังไง ขนาดไหน

ยิ่งเป็นยุคที่คนค่อยจะสู้งานด้วย มาอยู่กันที่วัดไม่อยากทำงานกัน ชอบอยู่กันเฉยๆ อยู่กันไปวันๆหนึ่ง งานการไม่เอา ไม่สู้ พวกมนุษย์ไม่สู้งาน เป็นมนุษย์ที่น่ารังเกียจจริงๆ เพราะการทำงาน คือ การประพฤติธรรม และประเทศใดที่ไม่สร้างงานก็ยิ่งลำบากใหญ่ ยิ่งตอนนี้พม่าไม่สร้างงาน หมอหยุดงานไปร่วมม็อบ ไปกันใหญ่เลย แต่หมอก็บอกว่า เขาก็รักษาผู้เจ็บป่วยในม็อบ ตอนนี้ไม่รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในลักษณะของการอยู่ไม่รอบคอบก็ลำบากฃ

อาตมาหวังว่า ช่วงนี้ทุกคนคงบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง ไอ้โรคบ้าสนุกขึ้นสมอง ต้องเที่ยว ต้องกิน ต้องเล่น ทีแรกก็บอกว่า เราชนะ ไทยชนะ ต่อไปไม่รู้ว่า จะชนะ หรือหายนะ ที่มันกำลังเกิดให้เห็น ชนะยังไงกัน และเดี๋ยวนี้ตำรวจก็ไปเอี่ยว ไปวุ่น บางคนก็ยอมรับแล้วน่ะ ยอมรับครึ่งหนึ่ง เบี่ยงครึ่งหนึ่งว่า ตัวเองเป็นแค่ร้านอาหาร ไม่ได้มีเลาจน์อะไรกัน ตกลงว่า รับครึ่งหนึ่ง เบี่ยงครึ่งหนึ่ง ไม่รู้จะร่ำรวยกันไปถึงไหน ชอบทำธุรกิจสีเทาก็อยู่แบบสีเทาเนี่ยคงไม่สร้างสวรรค์ คงจะมีปัญหาให้เราคิดหนัก

พวกทำธุรกิจสีเทา เปิดสถานท่องเที่ยว ไม่ได้ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้คนไปพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ ไอ้นี่พักผ่อนตัวหย่อนกาย หย่อนใจลงในกิเลสในความสนุกสนามก็ต้องเจอคำว่า รักสนุกระวังจะทุกข์ถนัด ระวังกันหน่อย

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login