ต้องรู้จักรักษาตัวรอด

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  28 เม.ย. 64

ที่วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) จ.สงขลา พระได้นำชุด PPE มาใส่สวดศพผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด และมีคนเอาไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นข่าวอยู่ในเวลานี้ แต่ชาวบ้านข้างวัดดังกล่าวกลับไม่มีการรังเกียจเดียดฉัน และไม่ได้มีการตำหนิ ติเตือน เพราะเรื่องนี้ต้องดูสถานการณ์ความปลอดภัยต้องมาเป็นใหญ่ ส่วนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมค่อยว่ากันทีหลัง แต่ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน และการรอด ก็ต้องถือว่า ภาษิตของสุนทรภู่ยังใช้ได้อยู่ ยังดีอยู่ 

พระครูปลัดพลกฤต แก้วมนตรี พระลูกวัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) จ.สงขลา ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าเหมาะสมหรือผิดวินัยหรือไม่ เนื่องจากได้สวมชุดทับจนไม่เห็นจีวร มองไม่ออกว่าเป็นพระสงฆ์ว่า มีเด็กสาวอายุประมาณ 20 กว่าปี มาพร้อมกับสามีของเธอ เป็นวัยรุ่นทั้ง 2 คน เข้ามาบอกว่า หลวงตา ตอนนี้หนูไม่รู้จะทำอย่างไร พ่อหนูตาย แม่หนูกำลังป่วยเป็นโควิด – 19 เช่นกัน รักษาอยู่ที่ รพ. หนูไปวัดนั้นวัดนี้ ไม่มีใครรับเผาศพเลย หนูจะทำอย่างไรดี อาตมาได้แต่นั่งมองดูเด็กสาว ก็นึกถึงว่า ถ้าเป็นญาติเรา ถ้าเป็นพ่อเรา สภาพของจิตใจเด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร 

พระครูปลัดพลกฤต บอกว่า อาตมาสงสาร อยากจะช่วย เลยโทรไปที่สาธารณสุขจังหวัด ได้คำตอบมาว่า ต้องทำตามขั้นตอน 1 2 3 เตรียมชุดป้องกันเชื้อ แต่ก็ยังมีดรามา ว่าพระใส่ชุด PPE เป็นเพราะฉันมีหัวใจ ฉันจึงได้เผาศพ คนที่มีแต่ความรู้สึก ไม่มีหัวใจ คิดไม่ได้หรอก ฉันทนเห็นครอบครัวของคนตายเจ็บปวดชอกช้ำไม่ได้ อย่าประมาทว่าตัวเองไม่ตาย วันนี้ไม่ได้โมโห ไม่ได้เคือง แต่ตำหนิพวกเรา กลัวตายจนลืมไปว่าเราจะต้องสงเคราะห์คนที่ตาย อาตมาบอกเลยว่า ถ้าไม่มีใครให้เผาที่วัด ตายแล้วก็เอามาฉันเผาเอง และวันที่สวดศพไม่ได้มีเพียงแค่พระเท่านั้น แต่มีสาธารณสุขอยู่ควบคุมดูแลด้วย แล้วเมื่อถึงเวลาเผา พระไม่ได้ไปใกล้เลย มีเพียงเจ้าหน้าที่เข้าไปเท่านั้น 

เอาล่ะ เรื่องนี้ อาตมามองว่า จะทำอะไรก็ตามก็คงต้องมีคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา แม้แต่ที่จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มหมอไม่ทันล่ารายชื่อกดดันให้คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นคุณอนุทิน ไม่สามารถแก้ปัญหาโควิดได้ เขาจึงมีการลงชื่อนับแสนชื่อแล้ว อย่างไรก็ตามฝ่ายที่สนับสนุนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ยังมีอยู่ สรุป คือ อะไรก็ตามบนโลกนี้มีชอบ มีชัง มีรัก มีเกลียด มีไล่ มีรั้ง เรียกว่า ฝ่ายหนึ่งไล่ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะรั้ง เพื่อให้อยู่ทำประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ที่จะว่ากัน 

รวมแล้วสรุปว่า ถ้าโลกใบนี้ยังมีคนที่จะเรียกกันว่า ชอบๆ ชังๆ ก็ยังมีกันอยู่ สมัยหนึ่งอาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ แต่อีกช่วงหนึ่งมีคนพูดให้ฟังว่า มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาพูดกัน เตือนลูก เตือนหลานให้ทำมาหากินดีๆ อย่าไปหากินกับประเภทเต้นกินรำกินเลยน่ะ แต่ว่า ตอนหลังพวกเต้นกินรำกิน เช่น นักร้อง พวกหางเครื่อง ดังและรวยด้วย เรียกว่า ไม่ใช่ดังเฉยๆ แผ่นเสียง เทปอะไรต่างๆ เลยทำให้ยุคนั้น ตอนนั้น คนวงการบันเทิง หรือพูดง่ายๆ คนวงการเต้นกินรำกินก็มีกิน มีใช้ มีสุข มีสบาย ไม่ต้องเดือดร้อน 

เพราะฉะนั้น ก็อย่าเพิ่งไปเหมาว่า อะไรดีหมด หรือแย่หมด บางช่วง บางขณะ บางสถานการณ์อาจจะแย่ อาชีพรุ่งกับอาชีพร่วง ที่ร่วงก็ร่วงกันไป เต้นกินรำกินนี่ช่วงนี้ต้องถือว่า ร่วงลงไปมาก งานไม่มี ให้ไปเต้น ไปร้อง ก็ถูกภาครัฐสั่งปิดไม่ให้เล่น ให้ร้อง เมื่อไม่เล่น ไม่ร้อง อาชีพตัวเองเป็นอย่างนี้ก็ต้องเรียกว่า ขาดทุน เจ๊ง กินทุนเก่า อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า เรื่องป้องกันอะไรก็ตาม เรื่องหากินอะไรก็ตาม เรื่องชอบ เรื่องชัง เรื่องไล่ เป็นไปตามธรรมชาติมนุษย์ 

แต่อย่าลืมก็แล้วกัน เรื่องปลอดภัยไว้ก่อนต้องมีป้องกันไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นมันจะเสียหาย ใช้เงิน ใช้ทอง ก็ต้องป้องกัน เก็บไว้ เก็บออมไว้บ้าง ไม่ใช่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุหร่าย ครั้นจะรอรัฐบาลแจกอย่างเดียว เผื่อถังแตกไม่มีแจก เราก็ยังพอมีเหลือใช้จากที่เราประหยัดไว้ เรียกว่า ต้องติดหน้าตักไว้บ้าง อย่าใช้ซะหมด จนหมดเกลี้ยง และยิ่งไปกู้หนี้นอกระบบก็ไปกันใหญ่ เห็นบอกว่า หนี้ครูก็เยอะ ซึ่งครูทำบัญชีครัวเรือนไม่เป็นหรือเปล่า ลืมรายรับ รายจ่าย ทำให้เป็นหนี้ เป็นสินมากมาย 

เรื่องนี้ต้องติดตามดูกันว่า อยู่อย่างไรถึงจะไม่มีหนี้ มีสิน ก็ต้องกินไม่เกิน ใช้ไม่เกิน ซึ่งส่วนเกินนี่อย่าทำให้ทุกอย่างเสียหาย เพราะฉะนั้น พระท่านจะใส่ชุด PPE คนเขาบอกว่า พระกลัวเกินไป แต่ถ้ากล้าบ้าบิ่นมันก็ไม่ดีเหมือนกัน ถ้าไปคลุกคลีกันศพโดยที่ไม่ป้องกันตัวอะไรเลย ไม่มีชุดป้องกันตัวเลยมันก็ลำบาก เขาบอกว่า กลัวได้ แต่อย่าลนลาน กล้าได้ กล้าได้ แต่อย่าบ้าบิ่น ไม่ระมัดระวังอะไรซะแล้ว กล้าแบบไม่มีความรอบคอบ กล้าไม่รัดกุมก็ลำบาก 

เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องอยู่ที่เรียกว่า ทางออกที่ดี ที่เหมาะสม ดังนั้น พระจึงต้องหาทางออก ป้องกันชีวิตด้วยชุด PPE สวดศพ ที่จริงงานศพก็มีคนทำไว้เยอะ ตายนี่ไม่สวดได้หรือไม่ อย่างในประเทศอินเดียตายถึง 5 พันศพ จะเอาพระที่ไหนไปสวด แล้วต้องเผาก็ไม่ทันแล้ว ต้องฝังกลบ ไม่อย่างนั้นก็เน่า ดังนั้น สถานการณ์มันบีบคั้น ป้องกันเอาตัวรอดกันไว้ให้ดี จะอยู่ทำประโยชน์ได้มากกว่า อย่าไปนั่งกล้าบ้าบิ่น ไม่สวม ไม่ใส่ ไม่ป้องกัน ถ้าเราเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ชีวิตตายเน่า แล้วใครจะมาช่วยเราทีหลัง เอาตัวรอด ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า 

เจริญพร 

You must be logged in to post a comment Login