- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 20 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
บ้านกับวัดรักกัน
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 พ.ค. 64)
และแล้วเจ้าโควิดก็เหมือนกับควิดชีวิตคนไทยล่มสลายทั้งขวัญกำลังใจ เศรษฐกิจ สังคม เรียกว่า แทบจะล่มสลาย แทบจะเอาตัวกันไม่รอด และแล้วก็กระทบมาถึงศาสนา โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุณอนุชา นาคาศัย ถึงกับบอกว่า มันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดความรู้สึกหวาดกลัวกันจนเรียกว่า หัวคนไทยจะเสียศูนย์ถึงขั้นที่บอกว่า ทำไมจะช่วยเผาศพผู้ติดเชื้อโควิดได้มั้ย
อย่าให้ชาวบ้านต้องเสียขวัญ เสียศูนย์ เสียกำลังใจ ที่จะดูแลศพผู้ที่ป่วยเจ็บตายจากโควิด อย่าให้ถึงขั้นที่เรียกว่า ไม่รับเผาศพ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะกลัวจนหัวเสียศูนย์ ไม่ควรจะกล้าจนบ้าบิ่น ทำไปให้มันเรียบร้อย ด้วยความระมัดระวัง ด้วยความรอบคอบ เราจะได้จัดให้เกิดความเรียบร้อยกันไป ไม่ต้องมาทุกข์ร้อนจนกระทั่งเรียกกันว่า เรากลัว ทางวัดก็กลัวเกินเหตุ เกินควร เพราะฉะนั้น ขอให้ทำอะไรให้มันเรียบร้อย อย่าได้วิตกกังวลว่า จะทำให้วัดเดือดร้อน เพราะศพ
แต่นี่มันไม่ค่อยมี สมัยก่อนก็กลัวกันไม่เผาศพเอดส์ ไม่เผาศพอย่างนั้น อย่างนี้ เอาล่ะ ในเมื่อมันยังไม่ถึงขั้นให้แร้ง วัดสระเกศในสมัยอดีต เขาบอกว่า อีแร้ง วัดสระเกศกินศพ เพราะมีคนเสียชีวิตจากโรคระบาดจำนวนมากในยุคนั้น แต่มาถึงยุคนี้จะมาเป็นอย่างนั้น หรือจะเผาไม่ทัน ไม่ยอมเผา แต่ในอินเดียเขาบอกเผาจนเตาแตก จนไม่มีเวลาที่จะเผา เรียกว่า เผาไม่ทัน เพราะวันหนึ่งตายเป็นจำนวนมาก ต้องเรียกกันว่า สาหัส สากรรจ์
ของเรายังพอที่จะสู้ได้ พอจะทำกันได้ ไม่ถึงกับเตาแตก ก็ช่วยกันทำให้จบ อย่าปล่อยให้เขาทุกข์ทรมานใจ ศพตายแล้วไม่มีที่เผา ไหนๆ สร้างเมรุแล้ว มีเมรุแล้วก็ช่วยเผาๆไปเถอะ อาตมาวัดสวนแก้วเผอิญไม่มีเมรุ ถ้ามีเขามาก็ต้องทำให้ โดยเจ้าหน้าที่สัปเหร่ออะไรต่างๆ ทำไป จะไม่สวดก็น่าจะไม่เป็นไรหรอก ญาติโยมก็อย่าไปเอาประเพณีว่า พระสวดจะส่งวิญญาณ จะส่งบุญไปให้อย่างมากมาย ที่จริงแล้วตายแล้วเผาเลย ไม่ต้องสวดอะไรมากมาย
แล้วเอากระดูกมาทำบุญทีหลังก็ได้ หรือทำบุญอุทิศให้หลังจากตายแล้วก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบทำบุญในตอนตายใหม่ๆ ตายแล้ว 5 ปี 10 ปี เมื่อคิดถึงกันก็ยังทำบุญให้กันได้ ไม่ใช่ว่า ตายแล้วต้องทำปุ๊บปั๊บ เรื่องเผาเลยนี่ อาตมารู้สึกจะได้ยินข่าวว่า บางจังหวัดของประเทศไทยรู้สึกจะเป็นจังหวัดสกลนคร อำเภออากาศอำนาจอะไรนี่ที่ว่า เวลาพอตายเช้า เผาบ่าย ตายบ่าย เผาเย็น ตายเย็น เผาดึกๆกลางคืนทำกันเลย
เพราะว่า เขาไม่อยากให้เอาศพเก็บไว้เป็นภาระยุ่งยาก แล้วเขาก็เอากระดูกมาทำบุญให้ทีหลัง โดยตายไปแล้วเนี่ย ปีสองปีสามปี เขาก็เอามาทำบุญได้เรื่อยๆ แต่ที่ชัดก็คือว่า เผาเสร็จแล้ว รุ่งเช้า 7 วัน 100 วัน เขาก็จะเอามาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ โดยไม่ต้องมาพะว้า พะวงอะไรกันกับเรื่องของซากศพที่ยังจะเน่า จะขึ้น เขาก็เลยจัดการเผาเลยทันที เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่ละที่ แต่ละแห่ง ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีไม่เหมือนกัน
เอาเป็นว่า ยังไงทางวัดอนุเคราะห์ไปได้ก็อนุเคราะห์ไปเถอะ อย่าทำให้เขาต้องเสียใจ หรือพลอยเกลียดชังวัดว่า ไม่อนุเคราะห์ ไม่ช่วย ไม่อะไรเลย อันนี้จะเป็นผลกระทบเสียหายบานปลายกับทางวัด ทางศาสนาต่อไปได้ ล่าสุดทางมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้ทุกวัดรับฌาปนกิจศพโควิดแล้ว อาตมาหวังว่า คงได้อนุเคราะห์ ไหนๆร่วมทุกข์ ร่วมสุขกัน เขาบอกว่า คนเราจะรักกันจริงหรือไม่จริงนี่ ให้ดูได้เมื่อมีทุกข์ ถ้ามีทุกข์แล้วยังไม่ทิ้ง แสดงว่า บ้านกับวัดรักกันต่อไป ก็คงจะเข้าทำนองคนโบราณเขาเขียนกลอนเอาไว้ว่า
บ้านกับวัดพลัดกันช่วยก็อวยชัย แต่ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้ง 2 ทาง อันนี้วัดกับบ้านก็อย่าขัดกันเรื่องศพคนตายด้วยโรคโควิดเลย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login