- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 21 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
อย่าระบายอารมณ์ใส่กัน
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 พ.ค. 64)
และแล้วคำว่า ระบายอารมณ์ใส่กัน มันมักจะเกิดขึ้นในยามคับขัน ยามทุกข์ ยามยาก คนเรานี่ระบายอารมณ์ด้วยความเครียด ความทุกข์ใส่กันเห็นจะมีรายสองรายที่เป็นข่าว ข่าวหนึ่งก็คือ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เผยแพร่เรื่องราวระบุว่า มีบริษัทประกันชื่อดังแห่งหนึ่งได้โทรศัพท์มาขายประกัน แต่ตนเองปฏิเสธกลับไป ต่อมาปรากฏข้อความจากหมายเลขที่โทรเข้ามา ว่า “บัตรทอง เตียงสนาม รออยู่”
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวได้อัพเดตเพิ่มว่า ขณะนี้บริษัทประกันชื่อดังได้รับเรื่องไปนี้ไปแล้ว และทราบว่าบริษัทประกันทราบเรื่อง ได้ออกแถลงการณ์ขออภัย และบริษัทฯ มิได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ซึ่งพฤติกรรมของตัวแทนคนดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ จริยธรรมทางธุรกิจ และมาตรฐานการให้บริการที่บริษัทฯ มุ่งมั่นยึดถือมาโดยตลอด บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการให้ตัวแทนผู้นั้น พ้นสภาพการเป็นตัวแทนของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องเรียกว่า คนขายประกันชีวิตโทรไปหาลูกค้าชวนทำประกัน แต่ลูกค้าไม่ทำ ก็ส่งข้อความไปบอกว่า บัตรทอง เตียงสนามรออยู่อะไรทำนองนี้ ซึ่งอาจจะพูดจาเยาะเย้ย ถากถาง เย้ยหยันว่า ถ้าไม่ทำประกัน ผลที่สุดลูกค้ายัวะก็ไปแจ้งบริษัทประกันที่เป็นต้นสังกัด ส่งผลให้ตัวแทนขายประกันรายนี้ถูกบริษัทไล่ออก ตกงานหนักเข้าไปอีก ช่วงนี้ต้องเก็บอารมณ์ รักษาอารมณ์ หาลูกค้าไม่ได้ ขายของไม่ได้ จะมาระบายกับคนทั่วไปก็ต้องคิดให้ดี
เพราะเมื่อระบายไปแล้วก็อาจจะเกิดไม่สบายขึ้นมา คือ เรื่องตกงาน โดยให้ออกจากบริษัท ทั้งๆถ้าไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ยังชักชวนลูกค้ารายอื่นได้ เรียกว่า รายนี้ไม่ได้ก็ไปหารายอื่นได้ แต่ยังไงก็อย่าพูดระบายอารมณ์ให้ลูกค้าขมขื่น เพราะถ้าพูดไปทำนองเยาะเย้ยถากถางก็จะตกงานเหมือนกรณีนี้ได้ นี่ก็เป็นข่าวหนึ่ง
อีกข่าวหนึ่งต้องถือว่า แย่มาก มีผู้ชายขับรถแท็กซี่ ปรากฏว่า ระบายอารมณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ โดยผู้ชายคนนี้ยิงหนังสติ๊กโดนคนอื่นมาหลายราย โดยผู้ต้องหารายนี้ยอมรับว่า ทำมาสิบกว่าครั้ง มีคนโดนหนัก 4 คน สาหัส 1 คน พอเจ้าหน้าที่ตำรวจจับก็บอกว่า ที่ทำไปทำให้เกิดความสบายอารมณ์ และที่ทำไปไม่รู้ทำไมเครียดจึงได้ระบายอารมณ์ ซึ่งการระบายอารมณ์แบบนี้มันผิดหลักทางศาสนานะ
ทางศาสนาเขาระบายอารมณ์ด้วยการกำหนดลมหายใจ ดึงลมหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยลมหายใจออกยาวๆ ทำให้สบายอารมณ์ และทำให้อารมณ์ดี ระบายอารมณ์นั้นต้องอารมณ์ดี ไม่ใช่อารมณ์เสียไปยิงหนังสติ๊กใส่เขา แล้วเขาบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เก่งมาก ใช้เวลาไม่เท่าไรก็สามารถจับได้ ทั้งนี้ จับได้ก็เป็นเพราะว่า ได้กล้องวงจรปิด ผลที่สุดถูกจบ คนร้ายอายุมากแล้ว 30-40 ปีแล้วน่าจะคิดอะไรได้
คดีอย่างนี้ เขาเรียกว่า มือร้าย มือเขาให้มาสร้างสรรค์ ไม่ใช่ให้มาล้างผลาญ ทำร้ายคนอื่น ทำลายคนนี้ เพราะฉะนั้น การจะไปเที่ยวระบายอารมณ์ใส่อะไรต่ออะไรเขา ทำอะไรเสียหาย ไปจุดไฟเผาบ้านเขาก็มี ไปทำอะไรต่ออะไรที่เรียกว่า ระบายอารมณ์ ทำแล้วตัวเองจะได้โล่งไปหรือไง แต่กรณีนี้ไม่โล่งแล้วล่ะ ถูกรวบ เรียกว่า ระบายอารมณ์แล้วถูกรวบ ใครๆก็ส่ายหน้า ถูกจับกุมคุมขับ ถูกลงโทษ ลงอาญาครั้งนี้น่าจะติดคุกนาน
คดีนี้ไม่ควรจะโทษเบา เพราะคนบาดเจ็บมีตั้งหลายคน ต้องเรียกว่า เลวร้ายมาก ต้องระวัง อย่าให้อารมณ์เสีย อารมณ์เน่า อารมณ์บูด ดังนั้น การปรับอารมณ์ รักษาอารมณ์ รักษาอุณหภูมิของอารมณ์อย่าให้มันเดือด อย่าให้มันไประบายให้คนอื่นเจ็บปวด เดือดร้อน เสียหาย แล้วตัวเองก็แน่นอน ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นก็ต้องถึงตัว ระบายอารมณ์ต้องไม่ให้ทุกข์ไปตกกับใคร ไปทำให้คนอื่นเจ็บปวด ตัวเองก็ต้องมารับโทษ รับทัณฑ์
ดังนั้น ควรฝึกการระบายอารมณ์ตามทางศาสนาบ้าง อย่าเที่ยวระบายอารมณ์แบบอันธพาล แบบสันดานเสีย ทำให้คนอื่นเขาบาดเจ็บ คงจะจำไปหลายภพ หลายชาติคนๆนี้
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login