- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 18 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
รู้ธาตุแท้ทนาย
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 มิ.ย. 64)
ในที่สุดสิ่งที่เรียกกันว่า ดราม่า แม้จะรำคาญหู แต่ก็อยากจะติดตามดูว่า ใคร คือ คนร้ายที่ทำร้ายน้องชมพู่ วันนี้นั่งดูข่าว ต้องบอกว่า 2 ทนายดัง ปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายเยอะแยะ โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ใกล้ชิดนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ เรียกว่า ปกป้องอะไรก็แล้วแต่ ขณะที่สื่อมวลชนอีกกลุ่มเสนอข่าวแบบถล่มก็มี รวมแล้วข่าวนี้มันเป็นข่าวที่เพื่อจะให้บทเรียนแก่คนว่า ที่เขาเปรียบเทียบเหมือนฟุตบอลเล่นเก่ง แต่ตกรอบก็เป็นได้ นี่เป็นคำพูดของตำรวจที่เปรียบเทียบได้ชัดเจนดี
ตอนแรกซ้อมมาชนะอยู่เรื่อยๆ แต่มาตกรอบระดับโลก เหมือนนักมวยตอนแรกชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ในสายตาคน แต่อยู่ๆกลับโดนหมัดโป้กเดียวน็อคไปเลย ทั้งหมด ทั้งสิ้นนั้น ต้องบอกกันว่า ประชาชนที่ติดตามข่าวที่ใช้วิจารณญาณ หรือเชื่อง่ายดาย ก็คิดเรื่องนี้ผิดๆถูกๆกันไป แต่รวมแล้วก็คือว่า ติดตามด้วยความเกลียดชังฝ่ายหนึ่ง สงสัยฝ่ายหนึ่ง เห็นอก เห็นใจฝ่ายหนึ่ง แล้วก็ซ้ำเติม โดยเฉพาะการซ้ำเติมว่า พ่อแม่ฆ่าลูกตัวเอง ตรงนี้เป็นเรื่องฟังแล้วก็น่าสะเทือนใจว่า คนเป็นแม่จะฆ่าลูกตัวเองได้ง่ายๆ มันก็ไม่น่ามี
แต่เอาล่ะ เส้นผม เส้นขนอะไรก็แล้วแต่ที่เจอนั้น จะเป็นหลักฐานมัดลุงพลได้แค่ไหนอย่างไร คงต้องติดตาม เห็นว่าคดีนี้คงต้องสู้คดีกันเป็นปี เหมือนกับโฉนดถุงกล้วยแขกของวัดสวนแก้ว อย่าว่า แต่เป็นปีเลย ตก 10 ปีแล้วก็ยังไม่จบสักที ดังนั้นคดีน้องชมพู่ใครจะบอกยาวนานก็คงจะสู้คดีของวัดสวนแก้วไม่ได้ เห็นบอกว่า คดีจะต้องไปฟังกันเดือนพ.ย.โน้น รวมแล้วก็ 10 กว่าปี ที่ดินก็รกร้างว่างเปล่าไม่สามารถจะไปทำประโยชน์อะไรได้ แต่วัดก็เสียเงินฟรี มูลนิธิก็เสียตังค์ไป และมันเป็นสตางค์ของพระและญาติโยมที่ให้มาซื้อที่ดินให้คนยากจน
ต้องเรียกว่า เป็นคดีที่ยาวนานจริงๆก็มีเยอะ แต่คดีของน้องชมพู่ 1 ปีกับอีกไม่กี่วัน ก็ต้องถือว่า จะว่านานก็นาน จะว่าไม่นานก็ว่าได้ เพราะมีคดีอื่นนานกว่านี้ก็มี และบางคดีก็ไม่รู้ว่า ตัวคนทำไปไหน ไปอยู่ประเทศไหนก็เลยยังจับไม่ได้ หรือทางคดีจะหลุดพ้นไปด้วย เช่น คดีเสือดำ มันเป็นไปได้เยอะแยะเรื่องของคดีจนล้นโรง ล้นศาล แต่เอาล่ะ แต่ว่าพยานหลักฐานจะเป็นทางบุคคลหรือนิติวิทยาศาสตร์เอามาก็คงจะต้องติดตามว่า ต่อแต่นี้ไป จะเป็นอย่างไรกัน โดยเฉพาะคนที่เข้าไปปกป้อง คนที่ช่วยเหลือกันอย่างสุดๆ
บางคนก็ถูกหาว่า จิ้งจกเปลี่ยนสี เดี๋ยวเข้าข้างโน้น เดี๋ยวเปลี่ยนข้างนี้ มองแล้วมันเป็นละครเล่นกันหลายตัวจริงๆ มีตัวแจมเยอะ แจมแบบเอาเป็นเอาตายก็มี แจมแบบหวังมีหน้า มีตา มีชื่อเสียง โชว์ผลงาน โชว์ออฟก็มี หรือช่วยกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเชื่อมั่นว่า ผิด ว่า ไม่ผิด ว่า ใช่หรือว่า ไม่ใช่ รวมแล้วก็คือว่า มี 2 ฝัก 2 ฝ่าย และมีตัวแจมเติมเข้ามาอีกมาก ตำรวจบอกว่า ยังอยู่ระหว่างสืบสวนดูว่า จะเป็นไปได้อย่างไร แต่เรื่องทั้งหมด ทั้งสิ้น สนุกอยู่ที่ทนาย ไม่ว่าจะเป็นทนายของฝ่ายผู้สูญเสียลูกกับทนายของคนที่เป็นบุคคลน่าสงสัยว่า จะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เรียกว่า ทนายของทั้ง 2 ฝ่ายได้ปะทะคารมกันชนิดที่ฟังแล้ว ทำให้รู้ธาตุแท้ทนายไม่ใช่น้อย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login