- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
โมเสสทิ้งลูกหลานอิสราเอล
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4-11 มิ.ย. 64)
ในตอนที่แล้ว ผมได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการอพยพของโมเสสและลูกหลานอิสราเอลมาถึงตอนที่โมเสสได้ถูกพระเจ้าเรียกขึ้นไปพบพระองค์บนภูเขาซีนาย ก่อนขึ้นไป เขาได้มอบให้อาโรนพี่ชายของเขาเป็นผู้ควบคุมดูแลลูกหลานอิสราเอลมิให้กราบไหว้บูชาสิ่งใด
แต่เมื่อโมเสสลงมาพร้อมกับศิลาจารึกบัญญัติสิบประการ เขาเห็นพวกลูกหลานอิสราเอลกำลังกราบไหว้รูปหล่อโคทองคำ ด้วยความโกรธสุดขีด โมเสสได้ทุ่มแผ่นศิลาจารึกบัญญัติสิบประการจนแตกและตรงไปกระชากเคราของอาโรนพี่ชายของเขาว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้น แต่อาโรนได้อธิบายว่าเขาไม่สามารถควบคุมคนส่วนใหญ่ได้
การกราบไหว้บูชาสิ่งอื่นใดนอกไปจากพระเจ้าถือเป็นบาปใหญ่ ดังนั้น โมเสสจึงให้ผู้อาวุโสของพวกลูกหลานอิสราเอลจำนวนเจ็ดสิบคนขึ้นไปบนภูเขาซีนายกับเขาอีกครั้งเพื่อขออภัยโทษต่อพระเจ้า คัมภีร์กุรอานเล่าว่า เมื่อไปถึงที่นั่น บรรดาผู้อาวุโสเหล่านั้นกลับพูดกับโมเสสว่า “โมเสสเอ๋ย เราจะไม่เชื่อท่านจนกว่าเราจะเห็นพระเจ้าด้วยตาของเราเอง”
ท่าทีโอหังจองหองไม่ยอมเชื่อในพระเจ้าจนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเองทำให้พระเจ้าลงโทษด้วยการทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนจนผู้อาวุโสเจ็ดสิบคนตายทั้งหมดยกเว้นโมเสส เมื่อโมเสสเห็นเช่นนั้น เขาจึงวิงวอนขอต่อพระเจ้าให้คืนชีวิตแก่บรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ และพระองค์ก็ตอบรับคำวิงวอนให้คนเหล่านั้นฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าได้ลงโทษพวกลูกหลานอิสราเอลด้วยการให้เร่ร่อนในทะเลทรายไร้ที่อยู่เป็นเวลาสี่สิบปีเพื่อให้คนแก่ที่ดื้อดึงล้มตายไปและเพื่อที่ว่าคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้า
โมเสสยังคงอยู่กับพวกลูกหลานอิสราเอลต่อไปเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมและความเชื่อของคนพวกนี้ แต่ถึงแม้ผู้อาวุโสได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่พวกตนไปพบบนภูเขาซีนายมา พวกลูกหลานก็ยังคงดื้อดึงต่อโมเสส
ครั้งหนึ่งระหว่างการเร่ร่อน มีผู้มั่งคั่งคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงโดยทิ้งลูกชายไว้คนเดียวเป็นผู้รับมรดกจากพ่อ แต่พวกลูกพี่ลูกน้องของเขาเกิดความอิจฉาในความโชคดีของเขาและได้ลอบฆ่าเขาเพื่อจะเอามรดก
ญาติของผู้ตายจึงได้มาหาโมเสสเพื่อขอให้เขาช่วยติดตามคนฆ่าเด็กผู้ชายคนนั้น โมเสสจึงสั่งให้พวกเขาเชือดวัวตัวหนึ่งและเอาอวัยวะส่วนหนึ่งของวัวที่ถูกเชือดวางไว้บนศพ ผู้ถูกฆ่าจะฟื้นขึ้นมาบอกความจริง
พวกลูกหลานอิสราเอลเคยกราบไหว้บูชารูปหล่อวัวทองคำมาก่อนหน้านี้ พอเจอคำสั่งของโมเสสให้เชือดวัวจริง คนพวกนี้จึงอึดอัดลำบากใจและหาทางบ่ายเบี่ยงโดยขอให้โมเสสถามพระเจ้าเรื่องรายละเอียดของวัวว่าจะต้องใช้วัววัยไหน เมื่อได้รับคำตอบว่าวัยปานกลาง พวกนี้ถามต่อว่าเป็นวัวสีอะไร เมื่อได้รับคำตอบว่าเป็นวัวสีเหลืองสดใส คนพวกนี้ถามจุกจิกต่อว่าเป็นวัวที่ใช้งานไถนาหรือวัวเลี้ยงไว้เฉยๆ
ถ้าเชือดวัวธรรมดาตั้งแต่แรก ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อถามจุกจิก วัวลักษณะที่ถามจึงมีอยู่เพียงตัวเดียวและมีราคาแพง แต่คนพวกนี้จำเป็นต้องซื้อ เข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย หลังจากทำตามที่โมเสสแนะนำ พวกลูกหลานอิสราเอลก็ได้เห็นอำนาจอันมหัศจรรย์ของพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้โมเสสทนอยู่กับพวกลูกหลานอิสราเอลเป็นเวลาหลายสิบปี แต่เขาก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อของคนพวกนี้ได้ ในที่สุด เขาจึงต้องเดินทางจากพวกลูกหลานอิสราเอลไปตามคำบัญชาของพระเจ้า
หลังการจากไปของโมเสส พวกลูกหลานอิสราเอลได้เก็บเศษศิลาจารึกบัญญัติสิบประการ ขวดใส่ยางหวาน(ที่เรียกว่า “มันนะ”)และสิ่งของเครื่องใช้บางอย่างของโมเสสไว้ในหีบใบหนึ่งซึ่งเรียกว่า “หีบแห่งพันธสัญญา” พวกลูกหลานอิสราเอลถือว่าหีบใบนี้เป็นเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกตน ไม่ว่าจะไปที่ไหน คนพวกนี้จะเอาหีบศักดิ์สิทธิ์ใบนี้ไปด้วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แต่ถ้าหีบใบนี้หายไป พวกลูกหลานอิสราเอลจะถือว่าเป็นลางร้ายสำหรับพวกตน
ทุกวันนี้ ยิวไซออนิสต์อ้างว่าหีบใบนี้ถูกฝังอยู่ใต้มัสยิดอัลอักซอที่เมืองเยรูซาเล็มและเชื่อว่าตรงบริเวณนี้คือประตูไปสู่สวรรค์สำหรับพวกตน นี่คือเหตุผลที่คนพวกนี้พยายามขุดคุ้ยเพื่อค้นหาหีบใบนี้
You must be logged in to post a comment Login