- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
อาณาจักรอิสราเอลแตกเป็นสอง
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 2-9 ก.ค. 64)
เมื่อกษัตริย์ดาวิดสถาปนาอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมา พวกลูกหลานอิสราเอลที่เคยตกทุกข์ได้ยากและต้องร่อนเร่พเนจรไร้ถิ่นฐานจึงตั้งหลักแหล่งอย่างมีความสงบและมั่นคงอีกครั้งหนึ่งเหมือนเมื่อตอนที่บรรพบุรุษของตนอยู่อย่างสุขสบายในอียิปต์เมื่อครั้งโยเซฟมีอำนาจ
หลังสมัยของกษัตริย์ดาวิด โซโลมอนได้ขึ้นมาสืบทอดอำนาจต่อและได้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งไว้เป็นจุดศูนย์รวมทางด้านจิตวิญญาณของพวกลูกหลานอิสราเอล นั่นคือ วิหารโซโลมอนที่สร้างขึ้นในบริเวณเดียวกับที่อับราฮัมสร้างมัสยิดอัลอักซอหลังสร้างก๊ะอฺบ๊ะฮฺสี่สิบปี วิหารโซโลมอนมีความสำคัญสำหรับพวกลูกหลานอิสราเอลไม่ต่างไปจากก๊ะอฺบ๊ะฮฺที่มีความสำหรับมุสลิมทั่วโลก
ตัววิหารโซโลมอนเหนือพื้นดินเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ผู้เขียนเคยเข้าไปข้างในตัวอาคารมัสยิดอักซอหลังใหม่ที่ถูกสร้างทับลงไปบนวิหารโซโลมอนและเห็นศิลารากฐานของมัสยิดเป็นหินก้อนใหญ่สูงในราวสองเมตรด้วยตาตัวเอง ตัวอาคารมัสยิดเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณพื้นที่โดยรอบไม่ต่างไปจากก๊ะอฺบ๊ะฮฺเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณรอบๆที่ถูกเรียกว่ามัสยิดอัลฮะรอม
อาคารมัสยิดอัลอักซอที่เห็นในปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเคาะลีฟะฮฺ อับดุลมาลิกแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮฺในคริสตศตวรรษที่ 7
หลังจากกษัตริย์โซโลมอนจากไป อาณาจักรอิสราเอลที่เคยยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งเดียวได้แตกออกเป็นสองส่วนเพราะความขัดแย้งภายใน อาณาจักรตอนเหนือยังใช้ชื่ออิสราเอลมีเมืองหลวงอยู่ที่สะมาเรีย และอาณาจักรทางใต้มีชื่อว่าอาณาจักรยูดาห์โดยมีเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง
เมื่อแตกแยกกัน ความอ่อนแอก็ตามมา ไม่นานนัก อาณาจักรอิสราเอลก็ถูกพวกแอสซีเรียโจมตีและกวาดต้อนไปเป็นทาส หลังจากนั้น พวกบาบิโลนได้นำกองทัพมายื่นชะตากรรมเดียวกันให้แก่อาณาจักรยูดาห์ ผลของความความแตกแยกกันนี้สร้างความเสียหายให้แก่พวกลูกหลานอิสราเอลอย่างหนักเพราะวิหารโซโลมอนได้ถูกทำลายจนไม่เหลือซาก
เมื่อกษัตริย์ไซรัสแห่งอาณาจักรเปอร์เซียขึ้นมามีอำนาจและปราบอาณาจักรแอซซีเรียและบาบิโลนได้ กษัตริย์ไซรัสได้ปล่อยพวกลูกหลานอิสราเอลให้เป็นอิสระ ดังนั้น พวกลูกหลานอิสราเอลจึงอพยพกลับไปยังเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่งและได้สร้างวิหารหลังใหม่ขึ้นมาแทนวิหารโซโลมอนเพื่อเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตวิญญาณของพวกตน
นอกจากสร้างวิหารหลังใหม่ขึ้นมาแล้ว เอซราซึ่งเป็นนักบวชคนหนึ่งได้พยายามรวบรวมคำสอนของโมเสสที่หายสาบสูญไปขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งจากคำบอกเล่าของคนแก่ที่พอจะจำความได้ ความพยายามของเอซราทำให้พวกลูกหลานอิสราเอลส่วนหนึ่งซาบซึ้งและนับถือเขาดุจดังบุตรของพระเจ้า
เมื่อสร้างวิหารและมีคัมภีร์ทางศาสนาแล้ว พวกลูกหลานอิสราเอลได้แต่งตั้งผู้รู้คำสอนศาสนา เช่นนักบวชหรือธรรมาจารย์ให้ทำหน้าที่ดูแลวิหาร บุคลากรประจำวิหารเหล่านี้จึงเป็นที่นับถือของผู้คน ในช่วงเวลานี้เองที่พระเจ้าได้เลือกสรรพวกลูกหลานอิสราเอลบางคน เช่น อิสยาห์ เยเรมีอาห์ เศคาริยาห์(ซะกะรียา)มาทำหน้าที่ตักเตือนสั่งสอนพวกลูกหลานอิสราเอลให้อยู่ในแนวทางที่พระองค์ได้เคยประทานมาก่อนหน้านี้ แต่เศคาริยาห์เป็นผู้ที่คัมภีร์กุรอานกล่าวถึงมากที่สุด
เศคารียาห์เป็นคนดีมีคุณธรรมและอยู่ในวัยชราโดยที่ไม่มีบุตรและภรรยาของเขาเป็นหมัน แต่เมื่อเขาเห็นพฤติกรรมผิดศีลธรรมของพวกลูกหลานอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังเขา เขาจึงเป็นห่วงว่าหากเขาตายจากโลกนี้ไป หากไม่มีใครมาทำหน้าที่ในการตักเตือนให้คนทำดีและละทิ้งความชั่ว พระเจ้าจะลงโทษคนในสังคมทั้งหมดเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ดังนั้น ขณะที่อยู่ตามลำพังในวิหาร เขาจึงวิงวอนต่อพระเจ้าให้ประทานบุตรแก่เขาสักคนหนึ่งเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากเขาเหมือนกับที่อับราฮัมบรรพบุรุษของเขาเคยวิงวอนขอต่อพระเจ้า
ไม่นานนัก พระเจ้าได้ตอบรับคำวิงวอนของเขาโดยการให้เขามีลูกชายคนหนึ่งชื่อยะฮฺยาหรือยอห์น แบพติสต์ แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองพ่อลูกคนดีนี้ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ
You must be logged in to post a comment Login