- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 14 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 6 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
ยุคครูสร้างหนี้
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 29 ก.ย. 64)
และการอบรมครู แนะแนว แนะนำให้ครูได้รู้วินัยการเงิน การใช้จ่าย ตกลงว่า ครูจะกลายเป็นเด็ก ต้องให้สอน อบรมกันใหม่ โดยคุณตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินหน้าเร่งแก้หนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ด้วยการทำงานร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ให้มีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% อบรมวินัยทางการเงิน หลังจากมีข้อมูลภาพรวมปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า ครูทั่วประเทศกว่า 9 แสนคน หรือ 80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท
โดยเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงิน 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 64% รองลงมาคือ ธนาคารออมสิน วงเงิน 3.49 แสนล้านบาท คิดเป็น 25% ของหนี้สินครูทั้งหมด ต้องเรียกว่า ตัวเลขหนี้สินของครูดังกล่าวต้องถือว่า ไม่ใช่น้อยเลย เฉลี่ยต่อคนเข้าไปเท่าไร น่าจะประมาณ 1 ล้านบาทต่อคน ก็ต้องเรียกกันว่า หนี้ท่วมหัว แล้วครูที่เป็นหนี้จะมีอารมณ์ที่ไหนสอนเด็ก รวมแล้วก็คือว่า คนที่เป็นบุคลากรถ่ายทอดความรู้กลับไม่รู้วินัยการเงิน แล้วการใช้จ่ายบัญชีครัวเรือนทำกันไม่เป็นหรือไงไม่ทราบ
เรียกว่า เป็นยุคที่ครูสร้างหนี้ สร้างสินได้มากมาย อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำแผนแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งในระยะแรกจะดำเนินการ 3 แผนงาน ดังนี้ แผนงานที่ 1.โครงการแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบ จำนวน 12 แห่ง 4 ภาค ๆ ละ 3 แห่ง ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัด ภายในเดือนต.ค.นี้ และขยายผลการดำเนินไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศที่มีความพร้อม ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564 เป็นต้นไป
คุณตรีนุช บอกว่า รูปแบบการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ได้มีการถอดบทเรียนจากสหกรณ์ตัวอย่าง 2 แห่ง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชร จำกัด ซึ่งพบแนวทางการแก้ไขปัญหาในประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้ต่ำลงไม่เกิน 3% 2.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์และสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำ 4.5 – 5% 3. จัดสรรผลกำไรมาเพิ่มเงินเฉลี่ยคืนเงินกู้ให้มากขึ้น ไม่น้อยกว่า 30% ของผลกำไร
4.การบริหารความเสี่ยง การลดค่าธรรมเนียมและการค้ำประกันที่ไม่จำเป็น 5.ปรับปรุงโครงสร้างหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยกเลิกการฟ้องคดี รวมหนี้จากทุกสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในอัตรา 2.5 % การปรับโครงสร้างหนี้ครูก่อนเกษียณ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่ครูที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ 0.25-0.50 % ปรับลดการส่งค่าหุ้นรายเดือน 6. จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสถาบันการเงิน และต้นสังกัด
7. ร่วมกันส่วนราชการต้นสังกัดหัก ณ ที่จ่าย ควบคุมยอดหนี้ไม่ให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์ จะต้องมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% 8. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างระบบพัฒนาและดูแลสมาชิก ให้ความรู้เสริมสร้างวินัยและ การวางแผนทางด้านการเงิน การสร้างอาชีพเสริม ลดรายจ่าย เพิ่มการออม และไม่ก่อหนี้เพิ่ม
สำหรับแผนงานที่ 2. คุณตรีนุช บอกว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาครูรายที่ถูกฟ้อง พร้อมแนวทางการแก้ปัญหาของผู้ค้ำประกัน และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 โดยให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกันในระดับพื้นที่จังหวัดในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการระดับจังหวัด
และแผนงานที่ 3.การจัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มอายุราชการ 1- 5 ปี ให้มีความรู้ทางด้านการวางแผนและการสร้างวินัยทางการเงินและการออม โดยมีเป้าหมายอบรม 1 แสนคนต่อปี โดยเริ่มอบรมรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 1-15 ต.ค. 2564 ออนไลน์ผ่านศูนย์ Deep กระทรวงศึกษาธิการ
เอาล่ะ ปัญหาหนี้สินครูที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ทำให้อาตมานึกถึงครูคนหนึ่ง คือ ครูศรีสอางค์ ทองเพียร เกษียณแล้วมีเงินเหลือมากมาย ซื้อที่ดินปลูกบ้านส่งลูกเรียนจบ เพราะเป็นครูที่ประหยัดที่สุด ครูอื่นมาโรงเรียนก็ซื้อโน้น ซื้อนี่กิน ซื้อโน้น ซื้อนี่ทาน แต่ครูศรีสอางค์ หิ้วหม้อเขียว ไม่ใช่เป็นปิ่นโต เป็นหม้อสีเขียว มากิน ไม่ต้องซื้อ ต้องเรียกกันว่า สุดยอดครูแห่งความประหยัด สมัยที่คุณครูเล่าว่า รับเงินเดือน 180 บาทจริงตอนจบครูใหม่ๆ ตกลงวันหนึ่งไม่กี่สตางค์
สอนตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่มา วันที่เผาศพคุณครูไม่น่าเชื่อว่า คนมาล้นหลามเต็มวัดไปหมด ไม่เคยมีศพคนไหนที่เผาแล้วมีคนมามากมาย ต้องเรียกกันว่า สุดยอด คุณครูที่อดอ้อมประหยัด ไม่มีหนี้สิน ไม่ใช่มีมรดกมาก แต่มาหาซื้อได้ตอนเป็นครู และทั้ง 2 สามีภรรยา สามีก็เป็นครู มีอยู่วันหนึ่ง ครูผู้ชายสามีลืมหม้อปิ่นโตเอาไป ทำให้อาตมากับเพื่อนพายเรือไปส่ง ต้องเรียกว่า สุดยอด และการสอบ การศึกษาดีมาก อาตมาตอนนั้นจำได้โดนหมากัด สอบวันแรกผ่าน อีกวันต่อมาไปไม่ได้ เพราะหมากัด
แล้วก็พายเรือเอาข้อสอบมาให้ตอนเย็นๆ คุณครูคนนี้ท่านสุดยอด ห่วงใยการศึกษา ลูกศิษย์ ลูกหาเอาใจ อาตมาเคยโดนทำโทษแปลกให้เกาเสา มือไปล้วงผึ้งโดนต่อยตาบวมก็เลยบอกให้เกาเสา 10 กว่าที เอาล่ะ เห็นตัวเลขหนี้สินของครูในปัจจุบันแล้วต้องบอกว่า ตกใจกับตัวเลขดังกล่าวมากในขณะนี้เป็นล้านๆบาทไม่ใช่ธรรมดา ต้องเรียกกันว่า น่าจะกลายเป็นคนอาชีพหนึ่งที่มีหนี้ไม่แพ้คนอาชีพอื่น ก็หวังว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคุณตรีนุช เมื่อจัดการอบรมครู สั่งสอนครู แนะแนวครูดีแล้วเชื่อว่า ครูจะหมดหนี้ หมดสิน มีเงินเหลือบ้าง
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login