ต้องรีบชี้แจง

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 6 ต.ค. 64)

และแล้วสถานการณ์น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าโควิดและน้ำท่วม นั่นก็คือ สถานการณ์ของพระสงฆ์ ที่มีนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า จะเกิดความระส่ำระสายครั้งใหญ่ การปลดเจ้าคณะจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสิทธิ์ ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา ต้องเรียกกันว่า เหมือนฟ้าผ่า ไม่มีลางบอกเหตุเลย และการปลดออกมาครั้งนี้ ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิการวิจัยนานาชาติ โครงการปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ในฐานะนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนา บอกว่า กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) หลายรูปไม่สบายใจ ทำให้มส.ต้องอึดอัด ลำบาก

ศ.ดร.อุทิส บอกว่า ได้สอบถามกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) หลายรูป ระบุว่า ในการประชุมได้มีการสอบถามที่มาของต้นเรื่อง เช่น ผลการสอบสวน ความผิดจริยาพระสังฆาธิการ ของเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ที่ถูกปลด แต่ก็ไม่มีการรายงานข้อมูลดังกล่าวในการประชุมแต่อย่างใด นอกจากนี้ กรรมการ มส.หลายรูปก็ไม่สบายใจเรื่องนี้ เพราะจะนำมาซึ่งความระส่ำระสาย แตกแยกในการปกครองคณะสงฆ์ และกรรมการ มส.หลายรูปก็ไม่เห็นด้วย เพราะการถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดนั้นต้องมีขั้นตอน และรายละเอียด และต้องมีเอกสารแนบถึงเหตุผลในการถอดถอน

แต่กรรมการ มส.ที่ตนสอบถาม ยืนยันว่า การถอดถอน 3 เจ้าคณะจังหวัดดังกล่าว ไม่มีเอกสารระบุถึงเหตุผลในการถอดถอน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามพระผู้ใกล้ชิดพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) ที่ถูกถอดถอนจากเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ (ธ) ท่านยืนยันว่า ท่านไม่ยินดียินร้ายกับตำแหน่งดังกล่าว เพราะท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดมา 40 ปี แล้ว ไม่อยากให้นำเอาเรื่องท่านไปเป็นประเด็น ล่าสุดพระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต จ.ปทุมธานี ได้เข้าพบสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการมส. เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในคำสั่งปลดออกจากเจ้าคณะ จ.ปทุมธานี โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ยืนยันว่า คำสั่งปลด 3 ที่เกิดขึ้น มส.ไม่ได้เป็นผู้เสนอ

ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เรื่องนี้อยู่ที่มติที่ประชุม มส. ทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีอะไรอย่างอื่น ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น มส.ไม่ได้บอกที่มา ที่ไป และเหตุผลของการปลดดังกล่าว เรียกว่า ผิดเรื่องอะไรก็ไม่บอก อย่างนี้เรียกกันว่า คงหาทางออกกันยาก ถ้าหาทางออกไม่ได้จะทำยังไงกัน ก็ต้องเกิดความระส่ำระสาย จะนำไปสู่ความแตกแยกเป็นสังฆเภท เป็นอะไรกันหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่า ใครเป็นคนต้นคิดในการสั่งปลดนี่ ถ้าไม่รีบออกมาชี้แจงที่มา ที่ไปให้ได้ สาเหตุ คนเราจะถูกปลดต้องมีความผิด เรื่องอะไรการเงิน สีกา หรือข้อใด ข้อหนึ่ง ที่หมิ่นเหม่ต่อการเอาไว้ไม่ได้ว่างั้น

เพราะฉะนั้น ถ้ายังหาที่มา ที่ไป ยังบอกข้อผิดพลาดของเจ้าคณะ 3 รูปนี้ ถ้าบอกไม่ได้ คนที่สั่งปลดจะถูกปลดเอา เพราะว่า บังเอิญไปปลดพระที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาอย่างมากด้วย ซึ่งก็มีการล่ารายชื่อกี่ หมื่น กี่แสนแล้วไม่รู้ล่ะ แต่ว่า การล่ารายชื่อถวายฎีกาคัดค้าน เรียกว่า เป็นการยัดไส้ปลด โดยเฉพาะพระเทพสารเมธี (บัวศรี ชุตินฺธโร) ที่ถูกถอดถอนจากเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ (ธ) ที่ชาวบ้านเคารพรัก แล้วเอาพระครู รุ่นน้อง รุ่นอะไรขึ้นไปเป็นแทน เอานายอำเภอขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ทำกันเกินไปหรือเปล่า ชาวบ้านรู้สึกจะหลั่งน้ำตา เสียอก เสียใจ มองดูภาพบรรยากาศแล้วไม่ค่อยจะชื่นมื่น สดชื่น

ค่อนข้างเป็นไปในทางระทมขมขื่นในวงการผ้าเหลืองร้อนแน่นอนคราวนี้ คงจะหาทางออกกันเร็วๆไวๆนี่แหละ และขอให้เป็นทางออกที่สงบร่มเย็นต่อไป อย่าจุดเพลิง จุดไฟ ให้คิดวางแผนอะไรทำอะไรในช่วงนี้ขอให้รอบคอบ สุขุม รัดกุม เพราะทำแบบชนิดที่ไม่มีที่มา ที่ไป เดี๋ยวจะได้ไปกันทั้งยวง จะลำบากกันใหญ่ ก็หวังว่า อีกไม่นานคงจะรู้ข่าว ออกมาแถลงการณ์ว่า ข้อไหน ผิดตรงไหน ไม่เหมาะสมอย่างไร จะอ้างว่า เพื่อความเหมาะสม โดยไม่มีที่มา ที่ไป ที่ผิด ที่พลาดอะไร คงจะลำบาก เมื่อมีคนส่วนใหญ่ออกมาคัดค้านกันแบบนี้ ท่าทีฝ่ายที่ปลัดเจ้าคณะดังกล่าวจะทำกันอย่างไร

เอาล่ะ พูดถึงเรื่องนี้ อาตมาสบายตัว สบายใจไปอย่างหนึ่ง คือ ไม่ได้อยู่ในสายงานปกครอง สายงานที่อาตมาทำนั้น เผยแพร่ สงเคราะห์ พัฒนา ไม่ได้อยู่ฝ่ายปกครอง จึงไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีความกระทบกระเทือน กระทบกระทั่งอะไร มีความนึกว่า เรามาถูกทางแล้ว เราตั้งปณิธานของเราว่า สงเคราะห์ เผยแพร่ พัฒนาต่อ ทำต่อให้ดีที่สุดต่อไป

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login