- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
สหรัฐอเมริกาภายใต้ธนาธิปไตย

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8-15 ต.ค. 64)
ทวีปอเมริกาเดิมทีเป็นแผ่นดินถิ่นที่อยู่ของชาวอินเดียนหลากหลายเผ่า ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 -16 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้เดินเรือมาพบแผ่นดินแห่งนี้ หลังจากนั้นไม่นาน ชาวยุโรปจากประเทศต่างๆก็ได้พากันมายังทวีปอเมริกาด้วยเหตุผลต่างๆ ในที่สุด ด้วยความเจริญและอาวุธที่เหนือกว่า ชาวยุโรปก็สามารถขับไล่เข่นฆ่าชาวอินเดียนเจ้าของถิ่นเดิมและสร้างสหรัฐอเมริกาขึ้นมา
สเปนเป็นชาติแรกที่มาเหยียบแผ่นดินอเมริกาก่อนชาติอื่น หลังจากนั้น อังกฤษและชาติอื่นๆก็ตามมา วัตถุประสงค์หลักของการที่ชาติต่างๆทางยุโรปมาที่นี่ก็คือเพื่อแสวงหาความมั่งคั่งทางการค้าและขยายอิทธิพลของตน อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ในยุโรปเองมีการกดขี่ข่มเหงกันทางด้านการนับถือศาสนาต่างนิกาย ผู้ถูกกดขี่ข่มเหงจึงอพยพมาหาแผ่นดินใหม่เพื่ออิสรภาพทางความเชื่อของตน
สหรัฐอเมริกาอยู่ห่างไกลจากยุโรป เมื่อเกิดสงครามโลกขึ้นทั้งสองครั้ง สหรัฐอเมริกาไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามเพราะการรบเกิดขึ้นในทวีปยุโรป เมื่อสงครามจบลง ชาติคู่สงครามทั้งฝ่ายชนะและฝ่ายแพ้ต่างบอบช้ำด้วยกันทั้งคู่ แต่ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือนักการเงินหรือนายธนาคารที่ให้รัฐบาลต่างๆในยุโรปกู้เงินไปทำสงครามโดยได้เบี้ยเงินกู้และได้กำไรจากการมีส่วนในการขายอาวุธให้คู่สงคราม
ด้วยความมั่งคั่งจากอุตสาหกรรมอาวุธ สหรัฐอเมริกาจึงเป็นขุมทองที่ชาติต่างๆอย่างไปขุด ความเจริญรุ่งเรืองจึงย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อความมั่งคั่งไปอยู่ที่นั่น กลุ่มนายธนาคารยุโรปที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของรัฐบาลต่างๆในยุโรปก็ย้ายไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อสูบความมั่งคั่งที่นั่นด้วย
แต่ก่อนจะไปยังสหรัฐอเมริกา พวกนายธนาคารจากยุโรปกลุ่มหนึ่งได้ส่งคนของตนให้นำสิ่งที่จะเป็นเครื่องมือในการยึดครองเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาไว้ นั่นคือ ร่างพระราชบัญญัติที่มีชื่อว่า Federal Reserve Act 1912 ล่วงหน้าไปก่อน
ในเวลานั้น สหรัฐอเมริกากำลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตัวแทนของกลุ่มนายธนาคารจากยุโรปได้เข้าไปเสนอตัวช่วยเหลือนาย วูดโรว์ วิลสันที่ลงสมัครรับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีโดยมีข้อตกลงว่าหากนายวูดโรว์ วิลสันได้รับการเลือกตั้ง พวกเขาขอลายเซ็นประธานาธิบดีอนุมัติร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
เมื่อนายวูดโรว์ วิลสัน ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เขาได้ลงนามประกาศใช้พระราชบัญญัติ Federal Reserve ทันทีในเดือนธันวาคม ค.ศ.1913 เพื่อให้มีการจัดตั้งธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาและให้อำนาจแก่ธนาคารกลางในการพิมพ์ธนบัตร

ถ้าหนุ่มคนใดครองหัวใจหญิงสาวได้ นอกจากได้ตัวหญิงสาวแล้ว หนุ่มคนนั้นยังได้ทุกสิ่งของหญิงสาวด้วย เช่นเดียวกัน หัวใจของระบบเศรษฐกิจคือธนาคาร เพราะธนาคารคือที่สูบฉีดเงินออกสู่ระบบเศรษฐกิจ ธนาคารหยุดปล่อยสินเชื่อเมื่อใด เศรษฐกิจก็พังพินาศทันที
โดยปกติแล้ว ธนาคารกลางทั่วไปจะเป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นกลไกในการควบคุมนโยบายการเงินของประเทศ แต่ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เช่นนั้น เพราะธนาคารกลางของสหรัฐเป็นของกลุ่มนายธนาคารต่างๆจากยุโรปที่ประกอบด้วย
- Rotschild (London)
- Lazard Brothers (Paris)
- Israel Seiff (Italy)
- Kuhn – Loeb (Germany)
- Warburg (Amsterdam and Hamburg)
- Lehman Brother (New York)
- Goldman & Sachs (New York)
- Rockfeller (New York)
การใช้เงินเกินตัวหรือฟุ่มเฟือยจนต้องกู้ยืมเงินทำให้คนตกเป็นหนี้ฉันใด รัฐบาลก็ฉันนั้น เมื่อสหรัฐอเมริกาต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อการแข่งขันทางด้านอวกาศ การสะสมอาวุธ การทำสงครามรุกรานชาติอื่นๆ รายได้จากภาษีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องกู้เงินและธนาคารที่เต็มใจให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกากู้เสมอก็คือ Federal Reserve หรือธนาคารกลางของสหรัฐที่สามารถพิมพ์ดอลล่าร์ออกมาเท่าไรก็ได้ เพียงแค่รัฐบาลสหรัฐที่เป็นลูกหนี้ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายธนาคารกำหนด
นี่คือประชาธิปไตยภายใต้ธนาธิปไตย
You must be logged in to post a comment Login