- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 13 hours ago
- อย่าไปอินPosted 4 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 7 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
กาลเทศะ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 ต.ค. 64)
และเรื่องราวข่าวของยันตระก็ผุดๆ โผล่ๆ เกิดๆ ดับๆ เดี๋ยวมีช่วงจังหวะโผล่มาก็มา ดับหายก็ไป จึงเรียกว่า เกิดๆดับๆอยู่จริงๆ แต่คราวนี้ไม่ใช่เกิดดับแบบธรรมดา นี่ดังโครมสนั่นหวั่นไหวเห็นจะเป็นเรื่องออกกำลังหรือจะเรียกว่า เต้นโยคะ เต้นแอโรบิคอะไรไม่รู้ ถามว่า พระออกกำลังเล่นโยคะอะไรอย่างนี้ผิดมั้ย ขอบอกว่า ไม่ผิด ในแง่ของพระธรรมวินัย แต่ผู้เป็นเรื่องของการกระทำที่โจ่งแจ้งและท่าทางที่ไม่เหมาะสม มีแกว่ง มีส่ายสะโพกไปมา โยกเย้ก โย้เย้ อะไรต่างๆ
ที่เราเรียกกันว่า เป็นลักษณะเต้นๆ ดิ้นๆ ถ้าเป็นลักษณะ มีลักษณะว่า โยคะก็ได้ ถ้าโยคะทำได้เหมือนหลวงพ่อนอ เวลาท่านเล่นโยคะ ท่านก็จะเล่นอยู่แต่ในกุฎิ เช่น เตะหลังคามุ้ง แต่เล่นในนี้ไม่มีความหมายที่ว่า จะให้ใครเห็น ถ้าไม่มีภาพออกมาให้คนเล่นก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ถ้าเกิดมีหมู่ มีคณะแล้วออกอาการรื่นเริง หัวเราะร่า สรวลเสเฮฮา กลายเป็นเรื่องที่สนุกคึกคะนองกันไป
ที่สำคัญในนั้นมีพระประธานอยู่ ไม่ทราบว่า เป็นโบสถ์ วิหาร หรือศาลา แต่สันนิษฐานว่า เป็นศาลา ถ้าเป็นศาลาก็คงจะเอาผิดอะไรกันไม่ได้ แต่ว่า มันมีปัญหาตรงที่ว่า ภาพออกมาได้อย่างไร ถ้าเล่นที่มีคนถ่ายภาพได้ มีคนเห็น มีคนปรากฏอยู่หน้าสาธารณชนที่ไม่มีฝากุฏิกั้นออกมาข้างหน้าอย่างโจ่งแจ้ง มันอยู่ที่ว่า สถานที่ๆออก ถ้าเหมือนอย่างที่เขาเล่นแอโรบิค มีเวที แต่ถ้าในกุฏิและถ้าจำนวนคนสองคนหรือหนึ่ง ออกกำลังหนึ่งเดียวไม่มีปัญหา แต่ออกกันเป็นหมู่คณะเหมือนที่เขาเต้นแอโรบิคกัน
รวมแล้วก็มีการทำอะไรแปลกๆ แต่มีคำตอบที่อ่านแล้วค่อนข้างจะน่าขำก็เห็นจะเป็นไม่ได้อยากไว้หนวด ไว้เครา ไม่อยากไว้ผมหรอก แต่มันขึ้นมาเองไม่รู้จะทำไง ก็ถามว่า พระที่ปลงผมๆไม่ขึ้นหรือ พระที่โกนหนวดๆไม่ขึ้นหรือ หนวดขึ้นเหมือนกัน ผมก็งอกเงยขึ้นเหมือนกัน แต่ถึงเวลา ถึงวันพระเขาก็โกน ปลงกัน ต้องเรียกกันว่า ไม่รู้จะเอากันยังไง แต่ว่า เชื่อเถอะ เดี๋ยวคงจะมีการตักเตือน คงมีนักร้องอย่างศรีสุวรรณ จรรยา คงจะได้ออกมา
การออกกำลังในท่าทางต่างๆจะเป็นโยคะ จะเป็นการดิ้นสะบัดแข้ง สะบัดขาอะไรก็ตาม ต้องขอให้ทำในที่ลับหู ลับตาซะหน่อย มันจะได้ไม่ออกมาประเจิดประเจ้อ ถ้าออกมาประเจิดประเจ้อแล้ว แน่นอนมันก็ต้องออกอาการวิพากษ์วิจารณ์ มีการตำหนิติเตียน ก็หวังว่า เรื่องนี้ ต้องเกิดคำว่า มันหมิ่นเหม่ ต้องพยายามอย่าให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก อย่างพระจะออกกำลังต้องนึกถึงหลวงพ่อนอ ท่านจะไม่มีคำว่า ออกมานอกกุฎิ จะออกกำลังเพื่อเอาสุขภาพ ท่านจึงไม่ป่วย ไม่เจ็บ
เขาบอกหลวงพ่อนอไม่เคยป่วยเจ็บ เพราะท่านเล่นโยคะ ท่านออกกำลัง โยคี โยคะ เป็นเรื่องที่ต้องทำ เรียกว่า การออกกำลังต้องทำ ถ้าไม่ทำเลยจะรักษาสุขภาพได้ยังไง แต่ขอให้ทำแบบดูกาละเทศะ โดยเฉพาะดูสถานที่ๆอย่าให้เขาออกมาตำหนิ ติเตียนได้ว่า สะโพก โยกย้าย สรวลเสเฮฮา คึกครื้น ซึ่งการออกกำลังไม่ใช่เรื่องสนุกคึกครื้น มันเป็นเรื่องของการฝึกความเข้มแข็งของสุขภาพ ไม่ใช่เป็นเรื่องสรวลเสเฮฮาเป็นหมู่ เป็นคณะ ต้องขอบอกว่า มาใช้วิธีที่ออกแล้วไม่มีถูกตำหนิ ติเตียนดีกว่า
ทำไมต้องออกไปโชว์ออฟ ออกก็ออก ไปในที่ไหน ตรงไหน ที่มันไม่มีใครเขาดูแล้วว่า พระโยกย้าย สะพัด สวิง ไสวได้ แต่ต้องในที่ลับ ในกุฎิ อย่างที่หลวงพ่อนอ ท่านก็รักษาสุขภาพด้วยโยคะนี่แหละ อาตมาก็หวังว่า โยคะ ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ปัญหาที่ว่า กาลเทศะ สถานที่ ถ้ากาลเทศะ สถานที่ มันไม่ถูก ไม่ควร ก็นี่แหละ จะต้องมีปัญหากันตรงนี้ หวังว่า ท่านก็คงจะปรับปรุง แก้ไขกันต่อไป และคณะอื่น สงฆ์อื่น วัดอื่น ก็อย่าได้เลียนแบบอย่างนี้เลย
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login