วันพฤหัสที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ถึงนานก็เปลี่ยนได้

On December 10, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 10 ธ.ค.  64)

และแล้วที่เขาบอกกันว่า ความนาน อยู่นาน ไม่ใช่ว่า นานแล้วจะไม่มีอะไรเปลี่ยแปลง ถึงนานแสนนานก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงในความเนิ่นนาน ไม่ใช่บอกว่า เนิ่นนานแล้วจบ ไม่มีคำว่า เปลี่ยนแปลง ไม่มีคำว่า จากไปด้วยความเนิ่นนาน เพราะอยู่มาตั้งนานนี่ จะไปยังไงก็ได้แก่นักการเมืองที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อยู่มา 29 ปี ก็ได้ประกาศลาออก แต่ออกแบบดี ไม่มีการซ้ำเติมพรรคหรือพูดจากให้พรรคเสียหาย แต่กลับอวยพรให้สมาชิกคนอื่นช่วยกันดูแลรักษาพรรคต่อไป

แต่ส่วนตัวนั้นก็มองว่า ตัวเองเหมือนกับไม่มีความหมายในการที่ลงชื่อคนจะเลือกตั้งแล้วมาเปลี่ยนไป เปลี่ยนโดยไม่บอกอะไรต่างๆนาๆนี่พูดแค่นี้ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากมายแก่พรรค แต่เอาล่ะ คงมีเรื่องกินแหนงแคลงใจ น้อยใจ มันก็ไปตรงกับคำโบราณว่า ถ้าใจจ้อยแล้วก็จะด้อยคุณ จะอยู่สร้างคุณ สร้างประโยชน์ให้พรรค ให้ประเทศชาติ ถ้าลองใจน้อยๆใจกันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เป็นอันว่า ประโยชน์เพื่อชาติด้อยประโยชน์ ใจจ้อย ด้อยคุณ มันก็จะเกิดขึ้น

แต่เอาล่ะ ใครอยากจะเป็นมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ขนาดนานแสนนานก็ยังมีอันต้องเปลี่ยนแปลง คนที่รับใช้ใครต่อใครมาแล้วบอกว่า จะไม่ถอนตัวนี่ อย่าเพิ่งไปพูดว่า จะชั่วฟ้าดินสลายอย่างนี้ แต่อาตมาถ้าอยู่ในพรหมจรรย์นี้ อยู่ในศาสนานี้ ริจะเปลี่ยนไปเป็นศาสนาอื่นคงไม่มี ขอย้ำว่า คงไม่มีอย่างแน่นอน และที่จะเปลี่ยนไปเป็นเพศที่ต่ำกว่า เพราะการบวชเรียกว่า อุดมเพศ แปลว่า เพศที่สูงส่ง สง่างาม ไม่มีเรื่องหลงใหลใฝ่ต่ำ ไม่มีเรื่องหมกหมุ่น ลามก

จึงเรียกว่า อุดมเพศ แปลว่า เพศที่มาสูง ไม่ควรจะไปต่ำ บางทีเขาก็บอกว่า พวกที่ลาสิกขาเปลี่ยนเพศนี่ เหมือนกับตาย ใช้คำว่า ตาลยอดด้วน ไม่สามารถจะแทงยอดต่อไปเพื่อมรรคผล นิพพานได้อย่างงดงาม สำหรับการเมืองอย่างที่คุณนิพิฏฐ์พูดว่า ไปสู้ศึกครั้งหน้า อาจจะตายก็ได้ ชนะก็ได้ แพ้ก็ได้ หมดอนาคตก็เป็นได้ ก็ขอสู้ศึกครั้งสุดท้ายของชีวิตนักการเมือง นี่ต้องเรียกกันว่า อะไรทั้งหลายทั้งปวง วันนี้อยู่อย่างนี้ พรุ่งนี้ไม่แน่นอน

เขาถึงบอกว่า อดีตผ่านไปแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึง อย่าไปพะว้า พะวงกับอดีตและในอนาคต ให้อยู่กับปัจจุบัน ถ้าพูดว่า ปัจจุบันนี้จะทำให้ดีที่สุด แต่ว่า การเปลี่ยนแปลงของพระนี่ อาจจะว่า บวชไม่สึก แต่แล้วก็มาสึกก็มี เรียกว่า อยู่ตั้ง 18 ปี 30 ปี หรือ 40 ปี สึกก็ยังมี เพราะฉะนั้น การอยู่ในพรรค การอยู่ในร่มเงาของพระศาสนาก็ไม่แตกต่างอะไรกันเท่าไร เพราะมีคำว่า เบื่อ เอิมระอา หมดศรัทธาอะไรทำนองนี้

มันจะเกิดขึ้นได้สลับเป็นช่วงๆ เพราะฉะนั้น ก็ต้องบอกว่า เราลองมาดูว่า ไอ้ที่พูดกันอย่างนั้น อย่างนี้ รับปากกันอย่างนี้ อย่างนี้ ไม่มีอะไรแน่ หรือจะแน่อยู่ที่ 3 ป. เราจะรักกันจนวันตาย แต่ความเป็นจริงก็มีอะไรทะแม่งๆ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป เพราะว่า มันเป็นสัญญาณระหว่างลูกรักกับน้องรัก ลูกรักใหม่ ลูกเกิดใหม่ แต่น้องชายเกิดเก่า อันนี้เล่า ท่านผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า กับ “บิ๊กตู่” จะอยู่ในหัวใจพี่ใหญ่ไปนานเท่าไร

แม้จะรักกันมานาน 40-50 ปี แต่วันนี้ โอกาสต่อแต่นี้ก็อาจจะเป็นไปได้อย่างนักการเมืองที่ทิ้งพรรคอยู่กันมาตั้ง 20 ปี 30 ปี ก็ยังอำลาได้อย่างคาดไม่ถึงมันก็เคยเกิดและจะเกิดต่อไปอย่างไม่มีคำว่า สิ้นสุด ดังนั้น เราต้องเข้าใจวิถีชีวิตกับอนิจจัง มันมาควบคู่กันไป มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เขาไปเกิดอยู่พรรคนั้น อยู่พรรคใหญ่ แล้วก็ดับไป คนออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปไม่ดับก็มี ไปดับก็มาก

แต่ส่วนใหญ่เราก็เห็นว่า สลับกัน ท่านอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ก็ไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ใครต่อใครหลายคนที่มาโดดเด่นก็มี ดับหายไปเลยก็มี อันนี้เป็นเรื่องต้องบอกว่า มันเกิดมานานแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปนึกอะไรแตกตื่นจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันจะเกิดไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login