วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ไม่ส่งเสริมศรัทธา

On December 15, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 15 ธ.ค.  64)

และแล้วพระประวัติ ไตรแก้ว หรือหลวงตาเฮง วัย 78 ปี ก็สร้างความรู้สึกหน้ารันทด หดหู่อยู่ในผ้าเหลือง แต่ทำเรื่องไม่เหลืองอร่ามงามตา เป็นภาพที่เรียกกันว่า ลามก นี่แหละที่เขาเรียกภิกษุลามก จีวรก็ไม่ห่ม นุ่งสบงจับนวดเฟ้นว่า เอาไข่ไล่ผีให้ชาวบ้าน แต่นี่ปัญหาใหญ่อยู่ตรงที่ว่า เกิดเสียงแตกเป็น 2 เสียง ระหว่างชาวบ้านที่สนับสนุนกับชาวบ้านที่ไม่อยากให้หลวงตาเฮงอยู่และไล่ ชาวบ้านที่สนับสนุนก็ถือว่า หลวงตาเฮงได้ช่วยไล่ผี มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ต้องเรียกกันว่า บ้านเมืองหรือศาสนาเนี่ย คนที่ไม่เห็นด้วย เพราะว่า รับไม่ได้กับพฤติกรรม คนที่เห็นด้วยก็บอกว่า หลวงตาเฮงเป็นพระเมตตาช่วยชาวบ้านขับไล่ผี

แต่เมตตาตัวนี้เป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส คือ เมตตาอวิชชา เมตตาที่รู้ผิด ปฏิบัติผิด ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลยที่ไปทำอย่างนี้ และการจับเนื้อต้องตัวมันก็เป็นอาบัติอยู่แล้ว ถึงจะมีความกำหนัดหรือไม่กำหนัด แต่ชัดที่สุด คือ โลกวัชชะ ชาวโลกติเตียนว่า เป็นการกระทำที่ไม่สง่างาม ไม่เจริญหู เจริญตา เจริญศรัทธาของชาวบ้าน จะมีก็แต่ศรัทธาอยู่ในกลุ่มเล็กๆ อาจจะเป็นเพราะได้ประโยชน์อะไรบางอย่าง หรือเป็นความเข้าใจผิด เป็นความศรัทธาผิด ศรัทธาที่ไร้ปัญญา ไม่รู้ว่า ได้กับเสียมันคุ้มกันหรือไม่

ถ้าได้ไม่คุ้มเสีย คนจะสนับสนุนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละความสูญเสีย ความเสื่อม ก็เขยิบคืบคลานเข้ามาให้ศาสนาต้องเรียกกันว่า อายุจะสั้น ถ้ามีคนมาปั่น มาทอนศรัทธาคนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แล้วสร้างศรัทธาก็เป็นสร้างศรัทธาที่ผิด ถ้าหลวงตาเฮงสึกไปแล้วๆไปทำอย่างหมอปลาก็น่าจะเรียกว่า ไม่มีใครครหานินทา แต่นี่อยู่ในผ้าเหลือง แต่ทำเรื่องค่อนข้างจะเรียกว่า ลามกอนาจาร ข่าวบางสื่อบอกว่า มีการขึ้นคล่อมร่างของหญิงด้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่ จะมาอ้างโน้น อ้างนี่

นี่แหละ การปกครองคณะสงฆ์ เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส จัดการไม่ได้ ก็ต้องเรียกกันว่า ชีช้ำกระหล่ำปลี แย่เต็มทีแล้ว ไม่รู้นะ โดยผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจากคณะสงฆ์ ในเขตปกครองอำเภอนาตาล จ.อุบลราชธานี มีมติให้หลวงตาเฮง พระลูกวัดบ้านดอนงิ้ว ต.นาตาล อ.นาตาล สึกจากความเป็นพระ แต่หลวงตาเฮงไม่ยอมสึก โดยขอต่อรองกับทางคณะสงฆ์ว่า จะเลิกทำพิธีกรรมต่างๆ ทั้งหมดและจะย้ายไปอยู่กับพระอุปัชฌาย์ที่ วัด ต.โนนสวาง อ.กุดข้าวปุ้น

ต้องเรียกว่า ถ้าเป็นที่วัดสวนแก้ว จีวรปลิวไปนานแล้ว อุ้มขึ้นรถไปปล่อยที่ไหนๆนานแล้ว เพราะว่า มันไม่ได้ส่งเสริมศรัทธาปัญญาเลย ถ้าจะไล่ผีทำแบบหมอปลานี่ ไม่มีใครว่า แสนจะชื่นชมซะอีกถ้าไล่ได้จริงนะ แต่ถ้าไล่ได้จริงอยู่ในผ้าเหลืองนี่ ยาก เขาเรียกว่า หัวมงกุฎ ท้ายมังกร ผิดฝา ผิดตัว ไม่สมกับเพศของภิกษุ อย่างนี้เขาเรียกว่า ภิกษุผู้ขาด 2 ประการ สมณสารูป ก็เสีย สมณสัญญา เรียกว่า ตกขอบ การหมายรู้ว่า ตัวเองเป็นพระ รูปลักษณ์ ปฏิบัติ มันต้องงดงาม น่าเลื่อมใส ศรัทธามากกว่านี้ ก็หวังว่า คงให้เจ้าอาวาส ญาติโยมรอบวัดสืบทอดพระศาสนา ปกป้องคุ้มครอง อย่าให้ศาสนามัวหมองเลย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login