วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปล่อยไก่

On December 24, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 ธ.ค.  64)

คำพูดโบร่ำ โบราณ ก็ยังปล่อยไก่ แต่ปล่อยไก่นี่เขาไม่ได้ทำ ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรมากมาย แต่บางคนก็เสียหน้าเหมือนกัน ถ้ายิ่งเป็นผู้นำประเทศเกิดเจตนาดีก็ได้ แต่ว่า มันเป็นจังหวะอารมณ์คนที่ยากจนข้นแค้น ฝืดเคือง ขัดสน พอใครมาแนะอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่มีโอกาสเป็นไปได้ ก็มักจะเกิดดราม่าต่อว่าสวนกลับวิพากษ์วิจารณ์ เอาจนเรียกกันว่า ไม่ได้เลี้ยงไก่ กลายเป็นปล่อยไก่

การที่ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอให้แก้จน เศรษฐกิจพอเพียง ต้องเลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว โดยเนื้อหาระบุว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาในหลายๆเรื่อง ทั้งความยากจน หนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดกับคนทุกประเภทตราบใดที่เรายังมีรายได้น้อย เราต้องคิดและหาวิธีว่าทำอย่างไรจะมีรายได้ที่เพียงพอ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ตนกังวล ซึ่งต้องคิดและทำกันใหม่

ดังนั้นนโยบายต่อไปนี้การใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐจะต้องคุ้มค่าต้องมีตัวชี้วัดชัดเจน โครงการใดที่ไม่มีประโยชน์ให้เอามาทำโครงการที่มีประโยชน์ อย่างเช่นเรื่องการอบรมก็ทำกันมาเยอะแล้ว ต้องดูว่าอบรมแล้วไปทำประโยชน์จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ทำก็อย่าไปอบรมกันเลยเอาเงินตรงนั้นไปสร้างให้เขาเลยดีกว่า เพราะมันเสียทั้งประโยชน์และเวลา

“ทำอย่างไรจะลดรายจ่ายให้เขาได้ ไม่ต้องไปซื้อพืช ซื้อผัก ซื้อไก่ วันนี้ ถ้าทุกครัวเรือนเลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งฆ่ามันก่อน ให้มันโต ให้มันไข่ก่อนนะ ค่อยๆ ดูแลตัวเองอย่างนี้ ค่าใช้จ่ายจะน้อยลง ถ้าเราซื้อทุกอย่างเลยไม่ได้ เป็นไปตามที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ท่านทรงรับสั่งไว้เรื่องความพอเพียง” นายกรัฐมนตรี กล่าวแนะนำ

ขณะที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาถึงข้อเสนอแนะดังกล่าว อย่างนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงถึงกรณี ที่พล.อ.ประยุทธ์ ระบุให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว ว่า แนวคิดนายกรัฐมนตรีนั้นดี แต่ไก่ที่เป็นลูกเจี๊ยบกว่าจะเป็นไก่สาวใช้เวลากว่า 5 เดือน และกว่าที่ไก่สาวจะมีไข่ใช้เวลากว่า 7 เดือน

นายมงคลกิตติ์ บอกว่า ถ้าทุกคนเลี้ยงไก่กันหมดทั่วประเทศ กลางเดือน ก.ค ปี 2565 ถึงจะได้กินไข่กัน แล้ว 7 เดือนที่รอนั้นจะทำอย่างไร เพราะไข่ก็ยังแพงอยู่ และอย่าลืมว่าถ้าเลี้ยงไก่ต้องมีอาหาร ซึ่งราคาแพงก็จะเป็นต้นทุนในการผลิตไข่ด้วย นายกฯมีพัฒาการทางความรู้ที่ดีขึ้นกว่าการที่ให้ทหารไปปลูกผักชี แต่ดีขึ้นประมาณ 30% ถ้าจะให้ดีนายกรัฐมนตรีควรไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ เรื่องราคาน้ำมัน โดยการยกเลิกภาษีน้ำมัน ทั้งเบนซิน และดีเซล

อย่างไรก็ตามอาตมามองว่า เรื่องข้อเสนอให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว อันนี้มันก็เคยมีมาแล้วที่ให้บ้านละ 10 ตัว แต่คนที่รู้ว่าได้ก็มารับหมด รับแล้วก็ไม่ได้เอาไปเลี้ยง แต่เอาไปขายต่อ เอาไปขายคนที่เลี้ยงได้ เขาเลี้ยงเป็นฟาร์ม เป็นกลุ่ม เป็นก้อน พอค่าอาหาร ค่าเวลา บริหารแล้วมันพอ เพราะว่า ที่เขารับไป บ้านเขามีคอนโดมิเนียม เขาไปเลี้ยงได้ไงบนคอนโดมิเนียม เมื่อเลี้ยงไม่ได้ก็เอาไปขาย

พอมาคราวนี้ 2 ตัว ยิ่งหนักขึ้นไปอีก นี่เขาถึงบอกว่า ประสบการณ์คนเรานี่ มันสำคัญ ชั่วโมงบินสูง ท่านนายกรัฐมนตรีอาจจะเป็นด้านทหาร ก็เลยได้ใจประชาชน ที่ชอบใจมาก ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบต้องจบลงที่ “ลุงตู่” นี่คำนี้เป็นวาทกรรมคล้ายๆกับเก่าๆ พาคนไปตายอะไรทำนองนี้ ถ้าไม่เลือกเรา เขามาแน่ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องไม่ได้ปล่อยไก่ กลับปล่อยหมัดฮุครุกคู่ต่อสู้ จนพ่ายแพ้ยับเยิน

เพราะฉะนั้น การคิดเชิงบวก คิดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนก็ทำผิดบ้าง ถูกบ้าง ได้ผลบ้าง เสียหน้า เสียคะแนนไปบ้าง เช่น ท่านนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งเอาตาชั่งถึงกับจ้างออกแบบชั่งไก่ไม่นับเป็นฟองกันล่ะ นับเป็นตาชั่ง ขึ้นตาชั่งได้กี่กิโลกรัม และโลละเท่าไร เลยกลายเป็นเรื่องฮือฮากันในยุคนั้น สมัยนั้น มาสมัยนี้เจอคำว่า เลี้ยงไก่ แต่คนดันไปวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นปล่อยไก่

ปล่อยไก่นี่ หมายถึงว่า ปล่อยมุขอะไรออกมาที่มันแป๊ก มันไม่สามารถสำเร็จประโยชน์ก้าวหน้าเป็นที่หวือหวา ฮือฮา ยอมรับ แต่กลายเป็นว่า รับไม่ได้ เพราะไม่มีที่เลี้ยง หรือเลี้ยงไปก็ไม่คุ้ม เวลาที่มาจัดการกับไก่ 2 ตัว นายกรัฐมนตรีก็เลยค่อนข้างจะเรียกว่า หงุดหงิด คราวนี้ไม่ได้เลี้ยงไก่ เป็นเรื่องนโยบายปล่อยไก่ เลยต้องนั่งเจ็บตัว เจ็บใจไปเป็นธรรมดา ที่จริงมีใครคอยติวมั้ยว่า จะหลุดคำพูดอะไร จะเป็นยังไง ก็พูดยาก บางทีหลุดออกมาดีก็ดีน่าดู ถ้าหลุดมาไม่ดี เขาเรียกว่า พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกไปเลย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login