วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

บุคคลโชคดีแห่งปี

On December 31, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 ธ.ค.  64)

และแล้วคำว่า หนี้ เป็นทุกข์ แต่แล้วทิดสมปองหรือมหาสมปอง ก็ไม่เป็นทุกข์เหมือนคนเป็นหนี้ทั่วไป และมีเจ้าสัวจะมาช่วยปลดหนี้ 10 ล้านบาทให้ และยังจะให้เงินสำรอง มีเงินให้ใช้ ที่สำคัญก็คือว่า เป็นเงินที่จะได้จากเจ้าสัวนี้ จากการที่จะร่วมงานกัน สมัยก่อนมีพระดังๆสึก แต่สึกแล้วก็เงียบ ไม่ทำอะไรต่อมิอะไรชนิดที่อึกทึกครึกโครม และส่วนใหญ่ก็มาทำธุรกิจ แต่คราวนี้มหาสมปองหลังจากสึกไม่กี่ชั่วโมงมีงานธุรกิจเข้ามาอย่างเปรี้ยงปร้าง

และแล้วที่เราเห็นว่า ทำให้รู้สึกตอนหนึ่งเวลาเอียงไหล่ไปแล้วพระที่ทำพิธีสึกถามว่า สึกแน่นะ สึกจริงนะ ตั้งใจจะสึกกันนะ 3 ครั้ง ถึงดึงสังฆาฎิออก ตอนนี้เขาบอกว่า คนที่มีคดี เรียกว่า สึกแบบมีคดีก็จะร้องไห้ น้ำตาร่วง น้ำตาไหล แต่มหาสมปองไม่เป็นอย่างนั้น เพราะไม่ได้ทำคดีอะไรเสียหาย เรียกว่า มหาสมปองไปอย่างไม่มีบาดแผล ไปแบบไม่ต้องเจ็บ แล้วมีสิทธิจะจบเอาด้วย ก็ต้องเรียกกันว่า โชคดีแห่งปี

ถือเป็นบุคคลโชคดีแห่งปี ชนิดที่ลาภลอยมา ไม่ต้องไปไขว้คว้ากับการแสวงหา ก็มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู ถ้าชูให้อย่างนี้ก็แสดงว่า ไม่ต้องเป็นหนี้ เป็นสิน มีแต่จะหมดหนี้ หมดสิน ไม่ต้องพะว้าพะวง แต่ว่า ที่เห็นแปลกๆ สึกเสร็จก็มีสีกาดมแก้ม มีคนถามทำไมหลวงพ่อไม่คิดสึกบ้าง อาตมาบอกว่า คิด คิดมาตั้งนานก่อนโน้น แล้วมันก็หายคิดไปนานแล้วเหมือนกัน เมื่อพรรษาที่ 7 ก็คิดจะสึก

แต่แล้วเราก็พูดกับกิเลสว่า มึงอยากสึกๆไป กูไม่เอาจีวรออกซะอย่าง ก็เลยไม่ได้สึก เพราะการสึก คือ ต้องเอาจีวรออก เราก็มานอนกอดจีวรดีกว่า อย่าไปกอดเนื้อหนังใครเลย และแล้วที่สุดของที่สุดก็คือ เรายังรู้สึกว่า จะเอาจีวรออกหรือเอากิเลสและทุกข์ออก อันไหนจะทำให้ชีวิตเราก้าวไปได้ด้วยดี ก็คิดว่า เอากิเลศและทุกข์ เอาอัสมิมานะ เอาอัตตา ตัวตนออก ดีกว่าเอาจีวรออกแน่นอนสำหรับพระพยอม

นอกจากนี้ ต้องบอกว่า บรรพชารสและวิมุติรส ยังเป็นรสชาติที่เรายังคิดอยากจะดูดดื่ม ซึมลึกไปให้มากกว่านี้ รสชาติของบรรพชามันดีตรงไหน ดียังไง บวชไม่มีวิตกกังวลด้วยหญาติ ตัดญาติขาดเชื้อ ไม่ต้องเป็นวิตกกังวล การวิตกกังวลกับญาติเนี่ย เป็นปัญหาใหญ่ของนักบวช ซึ่งผู้ต้องกังวลอยู่ด้วยญาติ ชาตินี้ไม่เอาแล้วเรื่องกังวล มันทำให้วกวนเป็นวัฎฎสงสาร ไม่มีที่สิ้นสุด ก็บอกว่า บวชต้องตัดญาติไม่ต้องกังวล

แม่เรา ลูกเรา พี่เรา น้องเรา เพราะต้องทำความรู้สึกให้เรามันใช่แน่หรือ มันใช่เราจริงๆหรือ หรือมาเป็นของชั่วครู่ ชั่วยาม หลวงพ่อพุทธทาสจึงบอกว่า ความจริงตัวเรามิได้มี แต่พอโง่มันก็โผล่เป็นผีขึ้นมาจนได้ พอหายโง่ ตัวเราก็หายไป พอโง่ใหม่มันก็โผล่ใหม่ได้อีกทีอะไรทำนองนี้ จึงต้องเรียกกันว่า บรรพชารส วิมุติรส ยังเป็นเป้าหมายของเราอยู่ ส่วนกามรส เพศรส คนอื่นเขาจะไปยังไงก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่าน แต่ละคนกัน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login