คว่ำบาตร ส.ส.หลังยาว

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 ก.พ.  65)

มาถึงชั่วโมงนี้ระหว่างพระกับสภาผู้แทนราษฎร์ อันไหนจะมีข่าวมาแรงแซงกันไปบ้าง พระก็มีเรื่องถูกจับสึก สีกง สีกา ส่วนสภาฯก็ล่มแล้วล่มอีกถึงหนที่ 17 เรียกว่า พรรคการเมืองไหนขาดเท่าไรชี้ออกมาหมด และแม้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเสียหายก็มีการเซลฟี่กันอย่างครื้นเครง รู้สึกว่า ชื่นมื่นกันอย่างชนิดที่ต้องเรียกว่า ไม่รู้ร้อน รู้หนาว คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาขู่คณะรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ เรียกว่า ถ้าเจอกันเรื่องนี้บ่อยๆก็ต้องหาทางกันว่า ถ้าส.ส.ยังสันหลังยาวก็คงไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

ถามว่า ประชาชนเป็นใหญ่จริงหรือเปล่า ถ้าเป็นใหญ่ลองถามซิว่า ชาวนาทำนาล่ม น้ำท่วมอด ฝนแล้ง ข้าวแห้งตายอด และปลูกข้าวอะไรต่างๆจนคนทำอะไรก็ตาม ถ้านักมวยชกแพ้ก็แพ้ แตกก็แตก ต้องเย็บ ต้องปวด ต้องเจ็บ แต่นักการเมืองไม่รู้ซิจะต้องเสียอะไรบ้าง มีได้มั้ย ใครไม่มาประชุมสภาฯ สภาฯล่มทีหนึ่งตัดเงินเดือนครึ่งหนึ่ง เชื่อว่า เงินจะเหลือพัฒนาประเทศอีกเยอะ ดีกว่าเอาไปละเลงให้กับคนที่หลังยาวหมด และไม่รู้สึกสำนึกด้วยว่า เข้าเลือกให้เข้าไปแก้ปัญหาให้บ้านเมือง แต่กลับไปเพิ่มปัญหา

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ออกมาเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “สภาล่ม” ช่วงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อวิธีแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ “สภาล่ม” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.15 ระบุว่า ลงโทษตัดเงินเดือน สวัสดิการ ส.ส.ที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น รองลงมา ร้อยละ 22.82 ระบุว่า ลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง ส.ส.ที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น

ร้อยละ 22.29 ระบุว่า ลงโทษไล่ออกจากตำแหน่ง ส.ส. ในกรณีที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็น ร้อยละ 17.71 ระบุว่า ลงโทษปรับเงิน ส.ส.ทุกครั้งที่ไม่เข้าร่วมประชุม ร้อยละ 16.03 ระบุว่า ลงโทษประจานชื่อผู้ขาดประชุมสภาต่อสาธารณะ ร้อยละ 14.20 ระบุว่า ลงโทษยุบพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนด ร้อยละ 12.60 ระบุว่า ไม่มีวิธีใดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และร้อยละ 2.98 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วนด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ “สภาล่ม” พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.85 ระบุว่า เป็นเกมการเมืองของกลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล รองลงมา ร้อยละ 31.98 ระบุว่า มี ส.ส. จำนวนหนึ่ง ไร้สามัญสำนึกในการทำหน้าที่ภายในรัฐสภา ร้อยละ 16.03 ระบุว่า วิปรัฐบาล ไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 11.91 ระบุว่า มี ส.ส.จำนวนหนึ่ง ขี้เกียจสันหลังยาว ร้อยละ 8.17 ระบุว่า รัฐบาลต้องการเตะถ่วงกฎหมาย ร้อยละ 4.89 ระบุว่า วาระการประชุมไม่ดึงดูดใจให้เข้าประชุม ร้อยละ 4.35 ระบุว่า วิปฝ่ายค้านไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 2.82 ระบุว่า สภาล่มเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ส.ส.จำนวนหนึ่งมีภาระหน้าที่อื่นที่สำคัญกว่าต้องทำ

โดยเฉพาะเรื่องลงโทษตัดเงินเดือน สวัสดิการ ส.ส.ที่ขาดประชุมสภาเกินกว่าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุจำเป็นสอดคล้องกับความคิดเห็นของอาตมาที่คิดว่า การที่มีส.ส.บางส่วนไม่เข้าประชุมทำให้สภาฯล่มเนี่ย ถ้ายังได้เบี้ยเลี้ยงอยู่ต่อไป ก็แสดงว่า เลี้ยงคนหลังยาว เรียกว่า เสียเปล่า เสียค่าโง่ก็แย่กันอยู่แล้ว ยังเสียค่าขี้เกียจหรือเสียค่าความรับผิดชอบต่ำ เวลาข้าราชการทำงานผิดพลาด เขาก็ว่า ประพฤติมิชอบ อย่างส.ส.ทำให้สภาฯล่มเข้าข่ายประพฤติมิชอบในหน้าที่หรือเปล่า น่าจะมีการขึ้นบัญชี

ประชาชนควรจะได้บทเรียนว่า พรรคการเมืองอะไรเข้าประชุมต่ำสุด ควรจะให้บทเรียนแก่ใครบ้างที่ไม่เข้าประชุมสภาฯทำให้สภาฯล่ม ซึ่งสภาฯล่มเนี่ยมันสูญเสียค่าไฟ ค่าน้ำในสภาฯไปเปล่าๆ แทนที่เรื่องนั้น เรื่องนี้จะเสร็จจบเร็ว เขาบอกศาลคดีขึ้นคาราคาซัง แต่นี่สภาฯคาราซังมั้ยเนี่ย ทำให้งานที่จะทำคั่งค้าง อย่างนี้เขาเรียก “อัปมงคล” เป็นอากูล ทำงานอากูล สภาฯล่มจะไปเดินหน้าจัดการประชุมอะไรต่ออะไรได้อย่างไร ก็ต้องเรียกกันว่า คราวนี้ถ้ายังทำหน้าระรื่นเล่นเซลฟี่กันอยู่ ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เขาบอกประชาชนเป็นใหญ่ ประชาชนก็ลองทำอะไรซักอย่างมั้ย เช่น คว่ำบาตรส.ส.

พระนี่ เวลาโยมทำไม่ดี เสียหายแก่วัด ต่อพระศาสนา ก็คว่ำบาตร ต้องคว่ำบาตรส.ส. ทำอะไรขึ้นป้ายที่ไหนบ้าง ส.ส.เขตนี้ไปมั้ยไป ประชุมไม่ประชุมเลย เชื่อหรือเปล่า แสดงตนมั้ย ลองช่วยกันดัดหลังคนหลังยาวซักหน่อย หลังจะได้ดีขึ้น

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login