- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 5 hours ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 1 day ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 6 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 6 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
“มหิดล” จับมือพันธมิตร ภายใต้การสนับสนุนจาก “อว.” จัดตั้งศูนย์วิจัย AI “สถาบันปัญญาประดิษฐ์มหิดล”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/1-3.jpg)
วันนี้ (2 มีนาคม 2565) มหาวิทยาลัยมหิดล และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว). แถลงข่าวเปิดศูนย์วิจัย AI แห่งใหม่ โดยใช้ชื่อว่า “สถาบันปัญญาประดิษฐ์มหิดล หรือ MU AI Center” เพื่อขับเคลื่อนการค้นคว้า และวิจัยด้านการแพทย์ โดยมุ่งเน้นที่จีโนมิกส์ โปรตีโอมิกส์ พยาธิวิทยา และรังสีวิทยา
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/13.jpg)
สถาบันฯ นี้ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ซึ่งจะช่วยให้เกิดความร่วมมือด้านการวิจัยแบบ Federated Learning และช่วยให้นักวิจัยสามารถแก้ปัญหาที่ท้าทายที่สุดในโลกบนแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในขั้นต้นสถาบันฯ จะสนับสนุนโครงการต่างๆ จาก กลุ่มความเป็นเลิศด้านการวินิจฉัยทางการแพทย์ด้วย AI, ศูนย์ปฏิบัติการด้านชีววิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และแพลตฟอร์มการค้นคว้ายา แบบบูรณาการด้วยปัญญาประดิษฐ์ ด้วยความร่วมมือหว่างคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะเภสัชศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และวิทยาลัยราชสุดา ตามลำดับ ในระยะเริ่มต้น และจะขยายไปคณะและสถาบันอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัย
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/5-6.jpg)
ศาสตราจารย์ ดร. นพ. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า “สถาบันปัญญาประดิษฐ์มหิดล เกิดขึ้นโดยการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ตามกรอบนโยบายและกฎกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การเป็นสถาบันที่มุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านการสร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาด้านเทคโนโลยีของประเทศไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 ส่งเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจและเติมเต็มความสมบูรณ์ครบถ้วนและทันสมัยในการดำรงชีวิตของประชาชนโดยการใช้เทคโนโลยี เช่น Smart Digital Technology and Deep Learning, Internet of Things หรือ IoT, Cyber Security เป็นต้น รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่เป็นเลิศแก่ผู้เรียนทุกระดับให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ตลอดเวลาอย่างไร้ขีดจำกัดด้วยศาสตร์ที่ทันสมัย ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนได้อย่างยืดหยุ่นไม่ว่าจะเป็นการเรียนส่วนบุคคล หรือการเรียนเพื่อรับ Certificate หรือ Micro degree”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/4-4.jpg)
ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สถาบันปัญญาประดิษฐ์มหิดล จะเป็นศูนย์รวมของนวัตกรรมและผู้ประกอบการใหม่ที่มีแนวคิดในเรื่องการบูรณาการข้ามศาสตร์ เพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่าแก่ประเทศไทย โดยมหาวิทยาลัยมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความสามารถและศักยภาพในการเรียนรู้ทักษะใหม่และก้าวหน้าเติบโตโดยผ่านกระบวนการเรียนการสอน โดยการเรียนรู้แบบไม่จำกัด ไม่เฉพาะในห้องเรียน แต่มีการผสมผสานทั้งการเรียนในชั้นเรียน การเรียนออนไลน์ ระหว่างที่เรียนยังสามารถเก็บเครดิตและใบรับรองเพื่อนำไปใช้ในการศึกษาขั้นสูงต่อไปได้ในอนาคต ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดล มีความก้าวหน้าและเชี่ยวชาญในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ทางด้านการแพทย์และสุขภาพในทุกสาขา ตัวอย่างเช่น การใช้ AI สำหรับการเอกซเรย์ก้อนเนื้อ การใช้ AI เพื่อใช้ในทำนายความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Covid-19 โดยใช้ข้อมูลจากระดับประชากร และ ระดับเซลล์เดี่ยว การใช้ AI เพื่อใช้ในทำนายความเสี่ยง และการดำเนินโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และโรคมะเร็ง และการใช้ AI เพื่อวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถผลิตมหาบัณฑิต ที่มีศักยภาพที่พร้อมจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ และเราได้มองไกลไปถึงการสร้างผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยและสังคมโลก”
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/14.jpg)
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2022/03/16.jpg)
สำหรับการดำเนินงานของสถาบันปัญญาประดิษฐ์มหิดล ในปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา มีการดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการย่อยไปแล้วหลายส่วน ตั้งแต่การออกแบบและติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์และโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูง ที่รวมถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นทั้งหมด การส่งเสริมให้เกิดโครงการวิจัยแบบบูรณาการกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยและคู่ความร่วมมือภายนอก ทั้งมหาวิทยาลัยภายในประเทศ และมหาวิทยาลัยชั้นนำจากต่างประเทศอีกหลายแห่ง และการจัดอบรมให้ความรู้การใช้ AI ด้วยระบบ NVIDIA DGX A100 และแพลตฟอร์ม Clara Imaging และ MONAI (Medical Open Network for AI และ FLARE) สำหรับการเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์แบบสหพันธ เพื่อคิดค้นและเร่งการสร้างแบบจำลอง AI เพื่อการใช้งานจริง ซึ่งสถาบันฯ เตรียมเปิดใช้งาน อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
You must be logged in to post a comment Login