ลัทธิซาดิสต์

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 21 มี.ค.  65)

และแล้วคำว่า การศึกษาเหมือนหมาหางด้วน สติปัญญาของคนมีการศึกษา มันต้องทำเรื่องสร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำเรื่องล้างผลาญ ไม่ทำเรื่องซาดิสต์ ไม่ได้ทำเรื่องความรุนแรง เป็นลัทธิซาดิสต์ ไม่ใช่ระบบคนที่มีการศึกษา ที่เขาเรียกกันว่า ปัญญาชน แต่เหตุการณ์รับน้องที่มีรุ่นพี่ 7 คน รุมต่อยนักศึกษารุ่นน้องคนเดียวจนตาย นี่ไม่เรียกสมองปัญญาชน ถ้าเรียกก็เรียกว่า สมองหมาปัญญาควายอะไรทำนองนั้น

จึงต้องบอกกันว่า หลวงพุทธทาสเคยพูดไว้นานแล้วว่า การศึกษามันต้องเหมือนเจดีย์ ฐานเจดีย์ไม่สวย มันไปสวยยอด ท่านบอกว่า ตอนเด็กอนุบาลทำไมไม่มีปัญหา ขึ้นปฐมมีนิดหน่อย พอขึ้นมัธยมเริ่มเพิ่มขึ้น พอขึ้นอุดมศึกษา เหลวไหลอะไรทำนองนี้ จึงบอกว่า โชคดีที่เรายังมีนักศึกษาแบบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกมาแถลงการณ์ต่อต้านลัทธิรับน้องใหม่ รสนิยมรับน้องใหม่ที่โหดเหี้ยม ซาดิสต์

แล้วถามว่า เด็กพวกนี้ยังจะให้เรียนต่อไปหรือไม่ ที่จริงเด็กโหดๆแบบนี้ไม่น่าจะปล่อยให้มาเรียนหนังสือ มันควรจะเอาเวลาไปอยู่โน้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่น่าเชื่อว่า มหาวิทยาลัยทางภาคอีสาน ซึ่งเป็นเรื่องของคนมีวัฒนธรรม มีศีลธรรม ไม่น่าจะมาก่อกรรม ก่อเวรแบบนี้ได้ สงสารคนเป็นพ่อ อุตสาห์อยากให้ลูกกลับมาเรียนอยู่ได้ใกล้ๆ แต่ลูกไม่อยากกลับ อยากเรียนต่อ เลยกลายเรียกว่า การหวังจะต่อยอดในชีวิต มีการศึกษาก้าวหน้า ต้องมาจบชีวิตกับฝีมือรุ่นพี่จอมอันธพาล

อยากจะดูเหลือเกินว่า 7 คนนี้ จะได้รับโทษอะไรบ้าง หรืออายุยังไม่ครบ แต่การกระทำนั้น โหดร้ายซาดิสต์ และยังมีเล่าเรื่องอดีตรุ่นพี่ให้ฟังแบบให้แก้ผ้า ป่าเถื่อน อย่างชนิดที่เรียกกันว่า เราพอได้ฟัง ต้องเรียกกันว่า การศึกษามีแบบนี้หรือ แล้วผู้บริหารการศึกษาจะอยู่อย่างไร จะรับสภาพยังไง ถ้าสถานการศึกษาไม่ปลอดภัย เห็นคุณตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บอกว่า การศึกษาต้องปลอดภัย นี่กลายเป็นว่า สถานศึกษาประสบภัย ให้ภัย ให้โทษกัน

มือเขาให้มาสร้างสรรค์ ไม่ใช่ให้มาต่อย มาล้าง มาผลาญ นักศึกษาทั้ง 7 คนนี้ ต้องเรียกกันว่า หมดอนาคตการศึกษา ถ้าขืนอยู่เป็นรุ่นพี่ แล้วจะรับรุ่นน้องอย่างนี้ต่อไปอีก มหาวิทยาลัยอีสานแห่งนี้จะจัดไม่ได้อีกแล้ว ต้อนรับน้องใหม่ ถ้ายังขืนปล่อยให้จัด ต้องเรียกว่า ผู้ใหญ่วิบัติ เด็กวิปริต ประเทศชาติวิปลาส ให้มีการศึกษาแบบนี้อยู่ในประเทศนี้อยู่ได้อย่างไร มันควรจะยุบเลิกไปนานแล้ว

เหมือนน้องๆมหาวิทยาลัยขอนแก่น และน่าจะมีมหาวิทยาลัยอื่นๆออกมามีจุดยืนต่อต้าน ประณามการจัดต้อนรับน้องใหม่แบบนี้ ถามว่า 7 คนนี้ จะมีพ่อแม่เหลืออยู่อย่างไร ตอนนี้ภาษาธรรมะ เรียก วิปปฏิสาร ต้องอยู่ด้วยความสลด เสียใจต่อการกระทำของตัวเองที่แล้วมา แทนที่มีการศึกษาแล้ว จะปลาบปลื้ม ภูมิใจกับการใช้สติปัญญากับการมาใช่ป่าเถื่อนอย่างชนิดที่สลายฝันการศึกษาของชาติไปเลย

ต้องเรียกกันว่า ถ้ามหาวิทยาลัยต่างๆยังปล่อยให้มีการรับน้องใหม่อย่างนี้อีก แสดงว่า ยังให้สถานการศึกษาเป็นมหาภัยต่อไป ไม่เป็นมหาวิทยาลัย ก็หวังว่า คงจะเป็นงานชิ้นเอกที่จะยุติการรับน้องใหม่แบบป่าเถื่อนได้แล้ว

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login